วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กำลังใจและรอยยิ้มของสองศิลปินอิสระในขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง ๓

          ที่โรงเรียนชุมชนวัดเขาไม้แก้ว เมื่อ 11 ส.ค.2554 กลุ่มดินรักษ์ฟ้า จัดกิจกรรม ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง รุ่นที่ ๓ ซึ่งในงานนี้ มี2 ศิลปิน ไก่ แมลงสาบ และสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ มาแสดงดนตรี มอบบทเพลงดีๆ และเติมเต็มกิจกรรมในวันนั้น ให้มีสีสัน มีคุณค่ามากขึ้น

         เมื่อจบการแสดงดนตรีในช่วงบ่าย 2 ศิลปินก็มานั่งพักที่ด้านนอก

photo thai


         ในช่วงเวลานั้น มีเด็กนักเรียนโรงเรียนชุมชนวัดเขาไม้แก้ว ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนั้น มาขอลายเซ็นต์จากทั้งสองศิลปิน ซึ่งทั้งสองศิลปินก็ยิ้มและเซ็นต์ชื่อให้ เว็นต์ในสมุดบันทึกที่เด็กยื่นให้ และบางคน ให้เซ็นต์ชื่อลงในเสื้อที่ใส่

        ถ้าเป็นดารา นักร้อง ศิลปินที่มีชื่อเสียง โผล่หน้า มีผลงานเผยแพร่ในฟรีทีวีอยู่บ่อยๆ ย่อมจะมีคนเข้ามารุมล้อมขอลายเซ็นต์ ขอถ่ายรูปมากกว่านี้ แต่สำหรับสองศิลปินอิสระ ศิลปินแนวเพื่อชีวิต ศิลปินที่มีแนวทางของตัวเอง ไม่มีผลงาน มิวสิควิดีโอ เผยแพร่ทางฟรีทีวี มีคนรู้จักเฉพาะกลุ่ม หลายคนไม่รู้จัก ไม่เคยฟังผลงานเพลงของสองศิลปินนี้มาก่อน แถมบทเพลงของทั้งสองศิลปิน เป็นเพลงนอกกระแสการตลาดอีกต่างหาก

       แต่เด็กนักเรียนยังชื่นชม ชื่นชอบ และออกมาขอลายเซ็นต์

       ปกติ ไม่ค่อยจะได้เห็นภาพแบบนี้บ่อยๆ ศิลปินที่ชื่นชอบและติดตามผลงานของ ไก่ แมลงสาบ และสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ มักจะเป็นคนวัยทำงาน คนที่ชอบฟังเพลงแนวเพื่อชีวิต เมื่อชื่นชอบก็เข้ามาพูดคุยทักทาย มีบางคนถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก นานๆครั้งจะได้เห็นเด็กนักเรียนมาขอลายเซ็นต์

photo thai


        ถึงไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน แต่เมื่อเด็กนักเรียนชอบ ประทับใจ และสนุก จำชื่อได้  มีส่วนร่วมกับการแสดงสดของทั้งสองศิลปิน  เลยมาขอลายเซ็นต์ ซึ่งเป็นกำลังใจเล็กๆที่เติมเต็มให้กับทั้งสองศิลปินได้เป็นอย่างดี ซึ่งการแสดงออกในส่วนเล็กๆนี้ ถือว่ามีผลต่อกำลังใจเช่นกัน ในขณะที่ผู้ใหญ่ STAFF ที่ทำงานในวันนั้น และหลายคนอาจไม่ให้ความสำคัญมากนัก บทเพลงมีให้เลือกฟังมากมาย ทั้งจาก mp3 จาก อินเทอร์เนต

       คุณค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน แต่ผลงานที่ว่านั้น ต่างคนอาจจะมองเห็นคุณค่าในระดับที่ต่างกัน มีรสนิยม ความชอบต่างกันไป และการเปิดใจรับฟัง เปิดใจดู ชมผลงานนั้นๆด้วย

      เด็กนักเรียน จะเปิดใจรับฟัง และสนุกกับงานนั้น แต่ผู้ใหญ่อาจจะไม่แสดงออกมากนัก  แล้วในประเด็นนี้ ถ้ามองอีกมุม จะเห็นอะไรบ้าง จากการขอลายเซ็นต์ของเด็ก แต่ผู้ใหญ่จะไม่ขอ?

      ครั้งหนึ่งลุงสุเวศน์ ไปร่วมแสดงดนตรีที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง มีครูคนหนึ่งเข้ามาถามไถ่ว่า คุณลุง เป็นเจ้าของเครื่องเสียงหรือ คุณลุงตอบว่า เป็นนักร้อง ทำเอาครูท่านนั้นเซ็งไปเลย เพราะเมื่อมีนักร้องมาแสดงดนตรีที่โรงเรียนครั้งไหน ครูจะต้องคอยดูแลเด็กนักเรียน ให้สนใจกิจกรรมบนเวที ไม่ให้ซุกซนจนไม่สนใจกิจกรรม

       ในวันนั้น คุณลุงสุเวศน์ ขึ้นเวที ร้องเพลง พาเด็กทำกิจกรรมร่วมกัน เด็กนักเรียนสนุกสนานไปกับคุณลุง พอจบการแสดงบนเวที คุณครูคนนั้นรีบเข้ามาขอโทษคุณลุงที่มองผิดไป งานวันนั้น คุณครูไม่ต้องเหนื่อยเลย เด็กนักเรียนสนใจและมีส่วนร่วมกับกิจกรรมบนเวทีตามที่คุณครูต้องการ

      ช่วงเวลาที่คุณลุงขึ้นรถเดินทางกลับ เด็กนักเรียนออกมาโบกมือ ร้องทักทาย คุณลุงโชคดีนะ เดินทางปลอดภัย และส่งเสียงเฮฮา ชื่นชอบศิลปินคนโปรด ซึ่งต่างจากช่วงที่เดินทางมาถึงในช่วงแรก มาอย่างเงียบๆ แต่กลับออกมามีคนชื่นชอบและยอมรับในผลงาน

      ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ คือ ความสามารถของคน อยู่ที่ผลงาน ไม่ใช่อยู่ที่หน้าตา ภาพลักษณ์ภายนอก แต่อยู่ที่ข้างใน  คนทุกคนมีสิ่งที่น่าสนใจ มีสิ่งที่น่าเรียนรู้ ทำความรู้จักกันทั้งนั้น แต่ก็อยู่ที่แต่ละคนจะคิด และเปิดใจรับมากน้อยแค่ไหน สองศิลปินสร้างความประทับใจให้เด็กนักเรียนจนต้องมาขอลายเซ็นต์ แต่ผู้ใหญ่หลายคนอาจจะรู้สึกเฉยๆ เพราะชื่นนชอบศิลปินชื่อดังในทีวีมากกว่า

       เหมือนกับเส้นทางที่เดินทางผ่าน หลายคนได้สัมผัสความงดงามของดอกไม้ และสิ่งที่พบเห็นตามสองข้างทาง ในขณะที่อีกหลายคน ไม่ได้สัมผัสอะไรแม้แต่นิดเดียว จิตใจจดจ่อให้เดินทางถึงจุดหมายปลายทางเพียงอย่างเดียว จนดูเหมือน เขาคนนั้น ทำบางสิ่งบางอย่าง หล่นหายไปในชีวิต ในขณะที่ใครหลายคน ได้สัมผัสรอยยิ้มและความงดงามหลายอย่าง จากเส้นทางสายนั้น


      ช่วงเวลาการขอลายเซ็นต์สั้นๆ ไม่กี่นาที ก็เกิดความงดงามเล็กๆ ในกิจกรรม ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง เช่นกัน

Related Posts by Categories



Widget by Hoctro | Jack Book

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น