ช่วงสายๆท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนกำลังจะตก พลันมีข้อความ SMS ที่ส่งเข้ามาว่า
"ง่วงมากเลยยังจัดบ้านไม่เสร็จเลย กำลังจะไปซื้อของและไปพัทยา"
13 ก.ย.54 เวลา 9.00 น
ข้อความบอกเล่าธรรมดาๆ ทั่วๆ ไป อาจจะไม่มีอะไรน่าสนใจมากนักสำหรับคนทั่วไป แต่ถ้ามองแบบใส่ใจลงไป ข้อความที่เห็น จะให้ข้อคิดกับหลายคนได้เช่นกัน
เจ้าของข้อความ จัดบ้าน เพราะย้ายเข้ามาอยู่บ้านเช่าหลังใหม่ เพื่อให้ใกล้ที่ทำงานมากขึ้น ย้ายจากบ้านหลังเดิม ที่อยู่ห่างจากตัวเมือง ซึ่งไม่สะดวกในการเดินทางกลับในช่วงค่ำคืน ในวันที่ต้องทำงานจนดึกดื่น จึงต้องย้ายมาพักที่บ้านเช่าใกล้ที่ทำงาน โดยขนสิ่งของ ตู้เย็น โต๊ะ เตียง ข้าวสาร อุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ มาเช่าบ้าน ค่าเช่าครึ่งหมื่นต่อเดือน อยู่กับทีมงานอีก 2 คน
หลังจากกลับจากที่ทำงาน ช่วงเย็น มาบ้านเช่า ก็ลงมือจัดข้าวของกันต่อไป เมื่อลงมือทำงาน จัดสิ่งของต่างๆ สมาธิจดจ่อกับการทำงานตรงหน้า หลายครั้งจึงทำงานเพลินจนลืมเวลา จนล่วงเลยมาดึกดื่น ค่อยคืน ทำให้มีเวลาพักผ่อนนอนหลับน้อย เช่ามาจึงต้องง่วงอย่างข้อความที่ส่งมาให้
"ได้นอนแค่ 3 ชั่วโมง แต่ก็คุ้นแล้วล่ะ"
อึม พักผ่อนน้อยจริงๆ ต่อให้เร่งทำงานให้เสร็จ ใช้เวลามากแค่ไหน เสร็จงานนี้ ก็ยังมีงานอื่นที่ต้องทำ ตามมาอีกเรื่อยๆ แต่สุขภาพเป็นสิ่งที่หาชื้อไม่ได้ อยากสุขภาพดี ก็จะต้องดูแลเอง หลายคนทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างมาก จนทำให้สมดุลชีวิตขาดไป ขาดๆเกินๆ
ความจริงแล้ว เธอมีลูกสาวที่พักอยู่ที่บ้านคุณตา คุณยาย ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เธอไม่ได้พบหน้าลูกสาวเลย พึ่งมีโอกาสได้พบหน้ากันวันก่อน เมื่อลูกสาวมาหาเธอ ณ ที่ทำงาน และบอกว่า "หนูจะไปนอนกับแม่" แต่ผู้เป็นแม่บอกว่า ยังก่อน ตอนนี้ยังจัดบ้านไม่เสร็จเรียบร้อย..
น่าเศร้านิดๆ ที่แม่และลูก อยู่ใกล้กัน แต่เหมือนอยู่ไกลกัน 14 วันที่ผ่านมา ลูกเจอหน้าแม่เพียง 1 วัน!!
ระหว่างบ้านกับที่ทำงาน ระยะห่างกว่า 10 กิโลเมตร แต่เหมือนกับระยะทางมันห่างเกิน 100 กิโลเมตร
"ทำงานแบบนี้ ไม่สมดุล ไม่พอเพียง น่าจะรู้ว่า อะไรที่หนักไป เบาไป น้อยไป ความพอดีควรจะอยู่จุดไหน"
"ความสุขที่เกิดจากความพอเพียง เราก็เพิ่มพูนได้เช่นกัน" เป็นวรรคทองจากหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ได้อ่านเจอ อยากจะเอาไปแปะติดที่ห้องทำงานของเธอเหมือนกัน
ดูเหมือนว่า เธอจะให้เวลาทำงาน มากกว่า เวลาของลูก
ในช่วงเวลาสำคัญๆที่ลูกสาวต้องการอยู่กับแม่ เพื่อจะได้ซึมซับ รับความรักความอบอุ่น ที่คนอื่นคงจะมอบให้ไม่ได้เท่าผู้เป็นแม่ เวลาที่ลูกต้องการแม่ แต่ผู้เป็นแม่ไม่มีเวลาให้
ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เพิ่มเวลาให้ลูกสาวสักนิด คงไม่ทำให้งานต้องรับผิดชอบเสียหายมากนัก แต่ความรู้สึกของลูกสาวนั้นมีความลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน และต้องการการดูแลอย่างดีเช่นกัน
ชีวิตมีหลายสิ่งที่ต้องทำ การบริหาร แบ่งปันเวลาให้ลงตัวและทำให้หลายอย่าง ดำเนินต่อไปได้ เป็นสิ่งดีๆที่ควรจะอย่างยิ่ง
"ในเมื่อเราสร้างสรรค์ให้เขาเกิดมาแล้ว เราก็น่าจะช่วยเขา ถามว่า เขารู้โลกนี้ดีหรือยัง เขาก็คงยังไม่รู้จัก ถ้าเรียนอย่างเดียว เขาก็จะได้แต่ตัวหนังสือในบทเรียน ผู้เป็นแม่ต้องเป็นอีกบทเรียนหนึ่งให้เขาได้เรียนรู้และบอกลูกๆว่า สังคมมีอันตรายทุกย่างก้าว ต้องให้ความรักความอบอุ่นเขา พยายามใกล้ชิดเขาให้มากที่สุด"
วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554
เวลากับความพอเพียง เวลางานกับเวลาของลูก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น