ในกิจกรรมจิตอาสา งานเพื่อสังคมที่มีคนมาร่วมงานกันด้วยใจ บางครั้ง ผู้ร่วมงานมีปัญหากระทบกระทั่งขัดแย้งกัน เกิดปัญหาทางใจ จนวันหนึ่ง ผู้นำของกลุ่มสังเกตพบความผิดปกติที่เกิดขึ้น...... ปัญหาต่างๆถือว่าเป็น บทเรียนรู้ ให้ได้แก้ไขและจะทำให้รู้จักมุมมองและศักยภาพของตนเองว่า มีความสามารถแก้ปัญหาได้อย่างไร
ในช่วงเวลาี่ที่สมาชิกกลุ่มได้ร่วมกิจกรรมกัน ได้รู้จักตัวจริงของเพื่อนที่เคยเห็นใน facebook มิตรภาพดำเนินไปด้วยดี แล้วจู่ๆ มีสมาชิกบางส่วน เกิดเรื่องขัดแย้งกันผ่านการสนทนาทาง facebook ทำให้ฝ่ายหนึ่ง เงียบไป เพราะเกิดความไม่พอใจจากประเด็นความขัดแย้งที่้เกิดขึ้น
ผู้นำกลุ่มสังเหตเห็นความผิดปกติ พยายามโทรไปสอบถามฝ่ายหนึ่ง แต่ไม่มีการรับสาย วันเวลาผ่านไปครึ่งเดือนจึงโทรไปสอบถามตรงๆอีกครั้ง คราวนี้ ฝ่ายนั้นรับสาย และบอกเหตุผลและความรู้สึกออกไป
ในทุกงาน ย่อมจะมีการกระทบกระทั่ง ขัดแย้งเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ แต่ทุกเรื่องล้วนสร้างความเสียหายต่อความรู้ึสึกทั้งสิ้น วันเวลาที่ผ่านไป มีโอกาสทำให้ความขัดแย้งนั้นขยายตัวได้มากขึ้น
เจอปัญหาแบบนี้ เป็นใครก็อึดอัด
หลักการแก้ไขที่หลายคนเห็นตรงกัน คือ เคลียร์ปัญหาให้หมดไป หลายครั้งที่ความเข้าใจของแต่ละฝ่ายไม่ตรงกัน หลายครั้งที่เป็นเรื่องเล็กนิดเดียว แต่ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน ดังนั้น ถ้าผู้นำมีโอกาสสอบถาม จนรู้เรื่องราวคร่าวๆ สามารถที่จะใช้ความพยายามพูดคุยไกล่เกลี่ยแต่ละฝ่ายให้เข้าใจกัน ปัญหาก็จะยุติลงไปได้
เมื่อสังเกตพบความผิดปกติ หากเป็นไปได้ ต้องหาทางเคลียร์ปัญหาให้ยุติลงโดยเร็ว ใช้ช่องทางสื่อสารต่างๆ ทั้งโทรศัพท์ อีเมล์ SMS การส่งข้อความส่วนตัว ในการแจ้งข้อมูล หากไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเกินไป ก็จะยุติลงได้
หลายครั้งที่คนเป็นผู้นำก็คิดไม่ิิออกเหมือนกันว่า จะเคลียร์ปัญหายังไง เพราะมาเป็นผู้นำทำงานกลุ่มจิตอาสา ไม่ได้เข้ามาเป็นกรรมการห้ามมวย เมื่อคิดไม่ออก ก็หาที่ปรึกษา มีคนช่วยคิด จะได้แนวทางที่เหมาะสมนำมาแก้ไขปัญหาได้เอง
แต่หากประเมินดูแล้ว ทั้งสองฝ่ายยากจะคืนดีกัน เพราะปัญหามันซับซ้อนเกินกว่าความสามารถที่จะเข้าไปเคลียร์ได้ ก็ควรดูแลไม่ให้ทั้งสองฝ่ายได้ประทบกระทั่งกันในระหว่างการทำงาน การตัดสินใจของทั้งสองฝ่ายในเรื่องความขัดแย้ง ก็คงจะเข้าไปยุ่งด้วยไม่ได้ แต่ที่ทำได้คือ การมอบหมายงานที่มีเป้าหมายร่วมกัน การให้ข้อคิดเตือนสติที่เป็นประโยชน์ ให้แต่ละฝ่ายค่อยๆคิดเอง ตัดสินใจด้วยตัวเอง
หากเกิดการตัดสินใจ ในทำนอง ไม่ขอมาร่วมงานกับกลุ่มอีกต่อไป , ไม่ยอมมาร่วมงาน ฯลฯ หลังจากที่ได้พยายามเตือนสติ ให้เหตุผลแล้ว แต่ยังคงยืนยันในการตัดสินใจเช่นนั้น นั่นคือ สิทธิของแต่ละฝ่าย ... หากพิจารณาแล้วเห็นว่า เกินความสามารถจะเคลียร์ปัญหา ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น เหมือนความเป็นไปของโลก ไม่มีใครอยากให้เกิดแผ่นดินไหว, น้ำท่วม, เกิดสงคราม, เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติ ขอให้ตัวเราปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงให้ดีที่สุด
เมื่อเกิดปัญหา การคิดในแง่บวกก็ดีเหมือนกันว่า ส่วนหนึ่งเป็นบททดสอบตัวตนของผู้นำเองว่า เราเข้มแข็งเพียงใด สามารถเป็นหลักให้ผู้ร่วมงานได้ดีแค่ไหน การร่วมงานกับคนที่มีจิตอาสามาร่วมงานด้วยใจนั้น ต่างกับคนที่ทำงานในบริษัท ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในการทำงานจิตอาสา ก็ดีอยู่แล้ว ดีตั้งแต่มีโอกาสได้มาเจอกัน และร่วมงานกัน
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไร การคิดบวก สำคัญที่สุด จะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายในทางที่ดีได้กว่าการคิดลบ
...บทเรียนแต่ละเรื่อง ใช้เติมความรู้ มุมมองใหม่ๆและพัฒนาตนเองได้เสมอ
วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
ผู้นำ อาสาสมัครจิตอาสา ปัญหาทางใจและหนทางแก้ไข : บทเรียนจากกลุ่มดินรักษ์ฟ้า
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น