สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราคิดดี ทำดี เพราะว่า "เรามีพ่อองค์เดียวกัน"
คำพูดประโยคนี้ ทำให้หลายคนประัทับใจกับความหมายที่ตรงไปตรงมา หลายคนพร้อมที่จะกด like ใน facebook ทันที เพราะคนไทยทุกคน รักพ่อหลวงสุดชีวิต
แต่ประโยคโดนใจที่ไม่่น่าจะมีข้อเคลือบแคลงสงสัยนี้ กลับถูกหยิบนำไปใช้ในหน้าเพจบางแห่ง ใน social media บางหน้า ในทำนองว่า เป็นคนดีจอมปลอม สร้างภาพ หลอกลวง ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะว่า..........
ในโลกออนไลน์ ข้อความ ความเห็นที่ถูกโพสต์ออกไป สามารถแบ่งปันไปได้อย่างรวดเร็ว แบ่งปันทั้งคนที่คิดเห็นตรงกัน และคิดต่างกัน คนที่คิดต่าง เป็นขั้วตรงข้าม จะนำเอาไปด่าว่า โจมตีต่อไป
...การจุดกระแสแก้ไขกฏหมายมาตรา 112 ที่เกี่ยวกับสถาบันสูงสุดของไทย ฝ่ายที่อยากให้แก้ไข และคัดค้าน ต่างยกเหตุผลของฝ่ายตน ออกมาเผยแพร่ มีการจับภาพหน้าเวบ หรือ นำภาพถ่าย , วิีดีโอ, รูปประจำตัว ออกมาใช้ด่าทอ วิจารณ์กันอย่างรุนแรงมากขึ้น เปิดหน้าชกเป็นศัตรู อยู่กันคนละฝ่ายอย่างชัดเจน หลายโพสต์ หลายความเห็นถูกนำมาโจมตี หากเป็นโพสต์หรือความเห็นของบุคคลฝ่ายตรงข้ามที่กำลังวิจารณ์ โจมตีกัน บุคคลนั้นคงกำลังถูกจับตาอยู่ตลอด
บางโพสต์เป็นการแสดงความคิดเห็น แล้วมีคนกดแบ่งปันไปเผยแพร่ต่อด้วยความชื่นชอบ ฝ่ายตรงข้ามที่เข้ามามอนิเตอร์ข้อมูล จะหยิบประเด็นเอาไปโจมตี ขยายผลด่าทอ ประจาน ได้หลากหลาย กลายเป็นสงครามข้่อมูลไปเรื่อยๆ
สำหรับประโยคที่หยิบมาข้างต้น เป็นของเพื่อนคนหนึ่งใน facebook กับประโยคที่ไม่น่าจะมีอะไร แต่ถูกหยิบไปโจมตีในเพจของกลุ่มคนที่อยากให้แก้ ม.112 จนได้ เป็นประเด็นที่หลายคน ขบคิดต่อว่า บางที เจ้าของประโยคนี้ คงเป็นคู่กรณีกับฝ่ายที่อยากให้แก้ ม.112 หรือ แสดงความคิดเห็นรุนแรงจนฝ่ายตรงข้ามเห็นเป็นศัตรูคนสำคัญ หรือ ฝ่ายตรงข้าม เห็นประโยคนี้ ขัดหูขัดตา เลยหยิบเอาไปด่าทอ เย้ยหยัน
หยิบบางความเห็นในเพจนั้น ซึ่งเป็นข้อความที่ถือว่า เบากว่าข้อความอื่นๆ
"มันคิดดี ทำดีได้แค่นี้เหรอ " ...แล้วโพสต์ภาพไ ข้อความอื่นของเจ้่าของประโยคนี้ ที่แสดงความเห็นในประเด็นอื่น แล้วรุมวิจารณ์ในแง่ลบ
"พวกอำมาตย์ มันถูกครอบงำก็จะพูดแบบนี้แหละ"
"ถ้า (ชื่อคน)... เป็นคนคิดดี ทำดี ดวงอาทิตย์คงขึ้นทางทิศตะวันตกไปแล้ว.."
และอีกหลายความเห็นที่ล่อแหลม จาบจ้วง หมิ่นประมาท ฯลฯ ซึ่งเพจลักษณะนี้ มักจะถุกลบไป แล้วไปหยิบประเด็นอื่นมาโพสต์ด่าต่อไป
ในโลกใบนี้มีหลายมุมให้เห็น ประโยคที่หลายคนกด like ให้ กลับกลายเป็นประโยคที่บ่อนทำลายเ้จ้าของประโยคได้อย่างไม่รู้ตัว เรื่องที่ไม่น่าเกิด ก็เกิดเป็นเรื่องจนได้ ถ้าคิดจะหาเรื่องซะอย่าง หลายสิ่งถูกผูกโยงเกี่ยวข้องกันไปหมด ประโยคเดียวกัน มีทั้งคนชอบ คนชื่นชม และอีกด้านกลับเป็นความเย้ยหยัน เหยียดหยาม หาโอกาสนำมาโจมตี บิดเบือนได้ทุกอย่าง ทำให้คนที่ไม่รู้จัก ก็เข้าใจตามข้อมูลที่ผ่านสายตาไปโดยอัตโนมัติ
ความก้าวหน้าฉับไวของ IT ทำให้หลายคนมีความอดทนน้อยลง เรื่องแง่ลบถูกเผยแพร่ได้เร็วกว่าเรื่องดีๆ ดังไฟลามทุ่ง ประโยคที่ดีๆ กลับกลายเป็นประโยคที่ไม่ดีได้ในพริบตา
เฮ้อ... คนไทย
....ได้แต่ให้ข้อคิดเตือนสติไว้
"ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม หากตัวเรามีหลักยึดในใจ ไม่หวั่นไหววอกแวกกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่คาดไม่ถึง แม้บางจังหวะ อาจจะทนไม่ไหวบ้าง แต่ทุกสิ่ง เป็นเหมือนบททดสอบตนเองว่า แกร่งพอที่จะทนต่อลมพายุแห่งอารมณ์ และปัญหา ที่เกิดขึ้นในชีวิตหรือไม่"
วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เมื่อคำพูดที่มีพ่อหลวงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ถูกนำไปโจมตี
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น