พันธมิตรกับการทำการเมืองให้ตรงกับโลกความจริง ??

            มีเพื่อนคนหนึ่ง มองผลการเลือกตั้งแล้วสะท้อนแง่มุมบางอย่างออกมา บอกว่า ถึงเวลาแล้วที่พันธมิตรต้องทำการเืืมืองให้ตรงกับโลกของความเป็นจริงซะที


            "พูดแบบนี้แสดงว่า ที่ผ่านมา เป็นการเมืองแบบเพ้อฝันรึไงวะ"


            "เมื่อวานไปร้านหนังสือ ไปเจอหนังสือเล่มเก่าๆ ชื่อ "พรรคพันธมิตร" เล่มหนามาก พึ่งได้เห็นหนังสือเล่มนี้ เห็นรูปหน้าปกแล้วสะเทือนใจ เพราะบางคนในรูปหน้าปก ออกไปจากพันธมิตรแล้ว"



          รายละเอียดพรรคพันธมิตรฯ – นักรบแห่งธรรมกับการสร้างพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นภาคต่อของหนังสือ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ที่อธิบายถึงความจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองใหม่ ภายใต้บริบททางประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยสมัยใหม่ ซึ่งผู้เขียนได้ทบทวนความเป็นมาและพงหนามของประชาธิปไตย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 จนกระทั่งถึงการก่อเกิดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในต้นปี พ.ศ. 2549 เพื่อชี้ให้เห็นว่า การจัดตั้งพรรคการเมืองที่เป็นพรรคของมหาชน (Mass Party) โดยขุมพลังพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนี้ เป็นทั้งความจำเป็นและเป็นทั้งความรุดหน้าทางประวัติศาสตร์ของการเมืองภาคประชาชนในประเทศไทยนี้





            เพื่อนบอกว่า พลิกดูในเล่ม เนื้อหาดีมาก แต่ไม่ตรงกับโลกของความเป็นจริง เพราะการทำการเมืองที่ผ่านมา ต้องเีสียมวลชน     และเสียแนวร่วมไปเยอะ พันธมิตรยังจุดเทียนแห่งปัญญาไม่ติด ทำใ้ห้คนไทยส่วนใหญ่ ไหลไปตามกระแสวูปวาบ เลือกตั้งก็เลือกตามกระแส ไม่ได้ดูคนให้ดี คนเผาบ้านเผาเมืองก็ยังเลือกเข้ามา อีกขั้วที่มีโอกาสทำงานตั้ง 2 ปี ก็ทำงานไม่เป็น           


            "ถ้าครั้งหน้า พันธมิตรอยากจะทำการเืมืองในระบบ น่าจะทำพรรคแบบชูวิทย์ (พรรครักประเทศไทย) เน้นเฉพาะปาร์ตี้ลิสอย่างเดียว ถ้าดูคะแนนโหวตโน แล้วแปรเป็นจำนวนปาร์ตี้ลิสต์ จะได้จำนวน ส.ส. มากกว่าพรรคของชูวิทย์  ถ้าทำพรรคแบบชูวิทย์ แต่นำเสนอเนื้อหาในแบบของพันธมิตร แลัวสื่อมวลชนนำเอาไปเสนอเป็นประเด็นข่าว ก็เป็นการให้ปัญญาความรู้กับคนไทยได้อีกทางหนึ่ง และได้ผลดีด้วย เหมือนการรณรงค์ Vote No ถ้าไม่ถูก ปชป.ขัดขวางทุกรูปแบบทำให้หลายคนไขว้เขวแล้วหลงเชื่อ ปชป. ไม่งั้น คะแนนโหวตโนจะได้มากกว่านี้"


            "ชูวิทย์  ทำการตลาดได้ ทางพันธมิตรก็ทำการตลาดได้เช่นกัน อย่างเรื่องรณรงค์ Vote NO สร้างกระแสความสนใจไปทั่วประเทศ มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เ้ห็นด้วย แต่คนไทยก็รับรู้ในเรื่องของโหวตโนกันแล้ว"



            "ถ้าดูคะแนนผู้มาใช้สิทธิ์ จะมีโหวตโนทุกจังหวัด นั่นเป็นเสมือนแสงระยิบระยับที่แทรกอยู่ในดงเสื้อแดง และดงประชาธิปัตย์ เป็นเทียนแห่งปัญญาที่ถูกจุดขึ้นมาแล้ว"


            "ตอนนี้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง คนเสื้อแดงมีการขยายฐานจนกว้างและลงรากลึกมากกว่าแต่ก่อน ส่วน พธม.กลับโดน ปชป.โจมตี บ่อนทำลาย สลายแนวร่วม จึงมีทั้ง พธม.ของ ปชป. และอดีต พธม. ที่คอยจับผิดและหาทางบ่อนทำลาย พธม.ซะเอง  พธม ก็ต้องทบวนบทบาทกันใหม่  จุดเทียนให้ปัญญาความรู้ ขยายฐานคนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ให้เพิ่มขึ้น อดีต พธม.ก็เช่นกัน ถ้าคิดจะทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องตั้งสติใหม่ ไม่ใช่เล็งแต่จะหันมาแก้แค้น ทำลายคนที่เคยต่อสู้ร่วมกัน ควรจะได้สติเสียทีว่า นักการเืมืองที่อยู่ในอำนาจ ทำใ้ห้ประเทศชาติเสียหายมากกว่า ที่จะมาจับผิด ทะเลาะกันเอง เพียงแค่ตัวเองเสียผลประโยชน์ส่วนตัว หรือไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้น อยากให้คนที่เคยต่อสู้ร่วมกันมาในปี 2551 จะกดคำว่า "สามัคคี" ให้เป็น"


            เพื่อนบอกว่า ไปนั่งคุยกับคนเสื้อแดง พวกนั้นบอกว่า ตอนนี้ไม่กังวล ไ่กลัวพวก พธม.อีกแล้ว กว่าจะกลับมารวมพลังได้เหมือนเดิม คงยาก บางคนยังมีเรื่องติดค้างคาใจกันอยู่ ในขณะที่ นปช. สร้างมวลชนเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ เรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมา ถ้าจะล้มเสื้อแดง ก็จะต้องพยายามให้มากๆหน่อยนะ แต่คงจะยากกว่าปี 2549 เพราะมีโอกาสทำแล้ว ไม่ทำ จนคนเสื้อแดงกลับมาอีกครั้ง


            เออ... พูดไปเถอะ


            ในโลกของความเป็นจริง มีคนรู้มากขึ้นว่า อะไรเป็นอะไร นักการเมืองทำอะไรไ่ม่เข้าท่า ในพริบตาเดียว ข้อมูลโผล่ขึ้นมาเต็ม facebook , twitter มีคนคอยจับตา คอยตรวจสอบมากมาย มากกว่าจำนวนคนที่ Vote No ด้วยซ้ำ ที่ว่าแ่น่ๆก็มีสิทธิ์สะดุดขาตัวเอง ล้มได้ง่ายๆเหมือนกัน...

Related Posts by Categories

Widget by Hoctro | Jack Book