วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เรื่องบาดหมางค้างคาใจ ที่ต้องแยกเรื่องส่วนตัว หรือต้องแยกทาง ??

            คนเรามีความเครียด ความกดดันต่างกัน เรื่องบางเรื่องที่อาจดูไม่สำคัญ แต่อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครบางคน  ถ้าหากเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ใครบางคนไม่พอใจ ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องเกิดขึ้นอย่างนั้น  และหลายอย่าง ยังไม่มีความชัดเจน เขาคนนั้นย่อมจะเกิดความรู้สึก ไม่พอใจ มีความเชื่ออย่างนั้นตลอดไป

            เมื่อนายบอน ปากเสีย ไปทำให้ญาติของหัวหน้ากลุ่ม (..ที่มีเป้าหมายเผยแพร่เรื่องราวของในหลวง ) เกิดความไม่พอใจ เพราะไปคุยกับแฟนสาวของเขา ซึ่งคุยกันแบบเพื่อน แบบตรงไปตรงมามากเิกินไปหน่อย จนบางถ้อยคำไปสะเทือนความรู้สึกของเขา และเธอ ซึ่งเธอมักจะโทรศัพท์ไปเล่าให้ฝ่ายชาย (ญาติหัวหน้ากลุ่ม) ฟังอยู่เสมอ

            หลังจากที่ฝ่ายหญิง คาใจ คับข้องใจ วันหนึ่งจึงขอถามตรงๆใน facebook ว่า ที่พูดประเด็นที่สะเทือนความรู้สึกนั้น คิดแบบนั้นจริงๆหรือ คุณรู้จักตัวฉันดีแค่ไหน หลังจากใช้เวลาพูดคุยทางออนไลน์จนเข้าใจ นายบอนก็ขอโทษตรงๆที่พูดแรงไป เธอมีท่าทีให้อภัย

            อีก 1 สัปดาห์ต่อมา ผ่ายชายก็เขียนข้อความส่งมาบอกตรงๆว่า ไม่พอใจ ที่นายบอนพูดกับแฟนสาวของเขาอย่างนั้นและยังบังอาจ เขียนในบันทึกส่วนตัว สรุปเอาเอง ว่าฝ่ายชายเป็นแบบนั้น.....

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

xาxxx xxxxxxxง

01 กรกฎาคม xาxxx xxxxxxxง
          หวัดดีบอน แปลกใจใช่มะที่ผมเข้ามาคุยด้วยผมมีหลายเรื่องน๊ะที่อยากคุยกับบอน จริงๆแล้วจะเรียกว่าคุยก็ไม่ค่อยถูกนักมันเป็นเรื่องที่เราจะต้องคุยกันแบบลูกผู้ชายนะ.....เรื่องแรกผมขอถามบอนหน่อยนะว่าที่ผ่านๆมาผมไปทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจบอนหรือหรือว่าผึ้งไปทำอะไร ผมขอบอกบอนตรงๆว่าที่อะไรๆที่ว่าบอนรู้มาจากแฟนบอน(คxx)มันเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เรื่องผมกับแฟนบอนนั่นหนะมันจบไปนานแล้วแต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังไม่จบ ผมไม่เคยตอบโต้คxxหรือรxx สักครั้งเดียวเพราะผมรู้ว่าคนๆนี้ไม่เคยจริงใจกับใครเลย ทุกอย่างเค้ารู้ตัวเองเค้าดีขนาดเค้ามีแฟนอยู่(ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่)เค้าเคยเล่าให้บอนฟังมั่งมั้ย ถามจริงเหอะผมไม่เคยมีอคติกับบอนเลยน๊ะแต่การกระทำของบอนกับผมและผึ้งมันเป็นเรื่องที่ต้องมาคุยกันน๊ะ บอนบอกว่าเป็นเพราะผมและผึ้งทำให้เพื่อนบอนสองคนไม่กล้าเข้ามาในกลุ่มนี้ผมรู้ดีน๊ะ แต่ผมขอบอกก่อนผมรู้จักสองคนนี้ดีพอผมรู้ว่าใครนิสัยยังงัย แบบศxxเนี่ยเค้าไม่ค่อยสนใจหรอกผมขอบอกตามตรง แต่คxxx เนี่ยผมบอกตรงๆว่าสาเหตุเลยหละคนๆนี้เค้าจะหว่านล้อมจนให้เราเชื่อ ผมบอกตามตรงเลยน๊ะว่าขนาดน้องๆในเฟกเนี่ยมาบอกเล่าให้ผมฟังอยู่ตลอดว่าตัวพวกเค้าเองก็โดนผู้หญิงคนเนี้ยตื้ออยู่บ่อยๆ บอกตรงๆบอนน๊ะยังอ่อนหัดต่อโลกถึงบอนจะเขียนบทความ แต่การมองโลกที่แท้จริงบอนยังไม่รู้จักโลกแห่งความจริงซักนิดไม่รู้น๊ะบอนต้องเข้าใจให้มากกว่านี้อย่ามองมุมเดียวต้องมีความอดกลั้นมีการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้ ต้องมีสติและวิจารณญานที่จะวิเคราะห์เหตุผล ผมขอบอกว่าในกลุ่มแXXเนี่ยมีแค่บอนเท่านั้นแหละที่ยังไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้ ทุกคนที่คบหากันมารุ่นก่อนๆจะรู้เรื่องของคxxxดีพอ ผมไม่รู้น๊ะว่าบอนมีความสัมพันธ์กับคxxxขนาดไหนแต่ผมก็ไม่เคยคิดจะห้ามบอนหรือพูดกับบอนเรื่องของคxxx เพราะว่าผมมองบอนว่าบอนคงดูนิสัยคxxx ออก แต่ว่าผมคิดผิด... ไม่รู้น๊ะเพราะว่าอะไรเหรอ บอน กาฬสินธุ์ ที่ผมรู้สึกชื่นชมมานานจึงมาเป็นเช่นนี้ ความใคร่มันปกปิด ความมีสติและความนึกคิดไปหมดเลยเหรองัย ผมขอบอกตรงๆนะบอนผมเห็นบทความที่บอนเขียนซึ่งผมกลายเป็นตัวละครอยู่ ผมไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้บอนคิดอย่างนั้น เพราะอะไร...แต่ผมขอบอกเลยว่าบอนเองยังรู้จักผมเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น อย่าเพิ่งวิเคราะห์ตีความไปเป็นอื่น เด๋วจะเสียคนน๊ะ....ทุกอย่างมันมีเรื่องจริงอยู่อย่าฟังความข้างเดียว อีกเรื่องนึงนะเรื่องบอนมาต่อว่าผึ้งหลายๆอย่าง อย่างนี้มันไม่ถูกต้องนะแล้วผมขอร้องบอนอย่างหนึ่งอย่ามายุ่งวุ่นวายกับผึ้งอีก ได้หรือเปล่าผมก็รักของผมอยู่ แล้วขอบอกตามตรงน๊ะผึ้งกับผมเนี่ยเราไม่มีอะไรปิดบังกัน โปรดเข้าใจด้วยน๊ะ
ขอบคุณมากที่เสียเวลามาอ่าน


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



     ..........  นายบอนก็ตอบไปว่า บันทึกที่เขียนเป็นการเล่าเรื่อง สรุปถึงคนที่มีพฤติกรรมแบบนั้น คือ ทั้งฝ่ายชายและเพื่อนอีกคนของนายบอน  ไม่ได้เจาะลึกลงไปในรายละเอียดและอีกหลายข้อความที่ได้อ่าน อ่านแล้วก็ตอบไปตรงๆว่า ผมไม่ได้คิดจะจีบ หรือคิดแบบชู้สาวกับแฟนของพี่นะ รู้สึกมีความเป็นกันเองเหมือนเพื่อนที่คุยกันได้ แ้ล้วก็ Copy ข้อความที่คุยกัน ส่งให้พี่เขาได้อ่าน (ถ้าต้องการอ่าน) แต่ข้อความยาวเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะอ่านหรือเปล่า แต่คาดว่า คงไม่เป็นที่พอใจ และน่าจะทำให้หงุดหงิืด เสียความรู้สึกมากขึ้น ที่บังอาจไปต่อปากต่อคำ

            ในความรู้ึสึกของคนทั่วไป ถ้าปักในเชื่อเรื่องไหนแล้ว ก็ยากที่จะเปลี่ยนความเชื่อนั้น ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคนรัก สิ่งที่คนรักเล่าให้ฟังเืมื่่อสัปดาห์ก่อน เขาก็ต้องเชื่อคนรัก แต่สัปดาห์ต่อมา เมื่อคุย จนเคลียร์สิ่งที่คาใจกับฝ่ายหญิง คาดว่า ฝ่ายหญิงคงไม่ได้เล่าให้ฝ่ายชายฟัง แล้วฝ่ายชายมาเปิดอ่านเจอบันทึกส่วนตัว แล้วเกิดความไม่พอใจอีก ยิ่งเกิดความคาใจมากขึ้น เกิดความรู้ึสึกทางลบมากขึ้น

            อันที่จริง บันทึกที่เขียนไป เป็นการสรุปเล่าเรื่องกว้างๆ บางส่วนเป็นเรื่องที่ตรงกับพี่เขา แต่อีกหลายประเด็น ไม่ใช่ เพราะเป็นพฤติกรรมของคนอื่นที่่นำมารวมไว้ และบันทึกก็ไม่ได้เขียนระบุชื่อใครไว้ แต่ทำให้พี่เขา เชื่อว่า เรามีอคติ ไปพอใจเขา จึงเขียนไปแบบนั้น

            เมื่อไม่พอใจ คาใจกัน แค่เห็นหน้าก็คงหงุดหงิดทันที แล้วใครจะอยากโผล่ไปให้เห็นหน้า หรือไปร่วมงานด้วย

            หลังจากได้ชี้แจงด้วยการส่งทางข้อความส่วนตัวใน facebook ไปแล้ว พี่เขาไม่ตอบอะไรกลับมา ไม่มีใครรู้ว่า พี่เขาไม่พอใจ หรือ ไม่ถือสาหาความ หรือคิดแบบไหน

            ..เอ้า ตัดปัญหา ไปตามเส้นทางชีวิตของตัวเองดีกว่า กิจกรรมเพื่อสังคมที่เข้าไปช่วยเหลือ ทำให้กับหัวหน้ากลุ่ม ญาติของพี่เค้า ก็ไม่ได้คาดหวังที่จะได้ผลประโยชน์อันใด แค่มีความสุขที่ได้ร่วมทำงานให้ และสิ่งที่ทำ เป็นประโยชน์กับกลุ่มนี้บ้าง แต่ถ้าทำให้เกิดความไม่สบายใจก็แยกทางจากกันไปดีกว่า  ยังมีคนอีกมากมาย ที่จะเข้ามาร่วมกิจกรรมนี้ในอนาคต

            เรื่องที่จะให้เคลียร์ ปรับความเข้าใจกัน คงเป็นไปได้ยากเหมือนกัน นั่นถือว่าเป็นญาติของหัวหน้ากลุ่ม ถ้าจะต้องมาตัดสินในเรื่องที่ขัดแย้ง ก็ยิ่งจะลำบากใจ ถ้าจะต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็ยิ่งลำบากใจอีก จะจัดการความขัดแย้ง เป็นคนกลางไกล่เกลี่ย พี่เขาก็ไม่ถนัดในสิ่งนี้มากนัก คิดมากไปใย แยกทางไปเองดีกว่า

            คงได้แต่เฝ้าชื่นชม ยินดีกับผลงาน กิจกรรมของกลุ่ม จากที่ไกลๆออกไป แค่ี้นี้ ก็ดีที่สุดแล้ว......

Related Posts by Categories



Widget by Hoctro | Jack Book

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น