รถไฟยังคงเป็นพาหนะในการเดินทางที่หลายคนเลือกใช้ ยิ่งมีรถไฟฟรี ที่ไม่ต้องจ่ายเงิน ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนไทยได้เยอะทีเดียว ไม่ว่าจะฟรี หรือไม่ฟรี แต่การเดินทางด้วยรถไฟ ก็ยังคงมีเสน่ห์ และมนต์ขลังหลายอย่างให้สัมผัส อย่างหนึ่งคือ วิถีชีวิตของผู้คนที่ผูกพันกับรางรถไฟ และหัวรถจักรระหว่าง 2 ข้างทาง
เช้าวันที่ 27 ก.ค.2554 นายบอนมาถึงหัวลำโพงตอนเช้า ก่อนที่จะไปรับตั๋วฟรีตอน 6 โมงเช้า ก็แวะดูจุดที่ขายหนังสืออย่างที่เห็นในภาพ เป็นหนังสือลดราคา เล่มละ 29 บาทบ้าง 19 บาทบ้าง และอีกหลายราคา ในระหว่างรอรถไฟสาย 283 เข้าเทียบชานชลา เลยแวะหาดูหนังสือไว้อ่านสักหน่อย
รถไฟมาเทียบชานชลาตอน 6.40 น. กว่าจะออกจากหัวลำโพงก็เป็นเวลา 7.05 น. มีผู้โดยสารขึ้นรถโดยสารหนาตาพอสมควร ส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษา ที่ขึ้นรถไฟไปลงย่านลาดกระบัง
ปกติแล้ว เวลานั่งรถไฟ ก็นั่งชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ แต่วันนี้ เปลี่ยนบรรยากาศ หยิบกล้องมาถ่ายภาพ จากบนรถไฟที่กำลังแล่นอยู่ บางจังหวะ รถจอดที่ชานชลา ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง
โรงงานร้าง ริมทางรถไฟ ช่วงที่ออกนอกเขต กทม.สภาพหลังคาพัง เป็นรูโหว่ขนาดใหญ่อย่างที่เห็น คงบอกถึงสภาพเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
ภาพที่ชอบมองมากๆ คือ ผู้คนในท้องทุ่งนาอย่างที่เห็น วิถีชีวิตแบบชนบทเรียบง่าย ที่มองดูทีไร ผ่อนคลายทุกครั้ง การเคลื่อนไหว การทำงานในท้องทุ่ง เป็นไปอย่างมีชีวิตชีวา ต่างจากคนทำงานในสำนักงานอย่างเทียบไม่ได้
ถึงแปดริ้ว ตอน 9.00 น. ชุมทางรถไฟที่เป็นเป้าหมายการเดินทางของหลายคน ออกจากสถานีนี้ไปแล้ว ผู้คนบนรถไฟบางตาลงมากๆ เลยนั่งอย่างสบายๆ
ริมทางรถไฟในเมืองแปดริ้ว ที่มีรถสามล้อเครื่องจอดอยู่ กับธงชาติขาดๆ หน้าร้าน ที่คงจะสะดุดใจใครหลายคน กับเสื้อกั๊กสีแดงที่เห็นขายในร้าน ทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกบางอย่างในใจขึ้นมาทันที
ทางรถไฟช่วงข้ามแม่น้ำบางปะกง มองเห็นการสร้างทางรถไฟรางคู่บ้างแล้ว
เส้นทางรถไฟ จากแปดริ้วถึง บ้านพูลตาหลวง ยังคงเป็นรางเดียวที่ใช้เดินรถไฟ เมื่อมีรถไฟขบวนที่แล่นสวนมา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นขบวนบรรทุกตู้สินค้าต่างๆ รถไฟฟรีจึงต้องจอดรอขบวนรถวิ่งสวนมา ที่สถานีดอนสีนนท์ แล้วจึงจะวิ่งไปตามรางต่อไป เมื่อรถไฟสินค้าผ่านไปแล้ว
ยามสาย คนโดยสารรถไฟมีจำนวนน้อย แต่ขากลับเข้า กทม. จะมีคนโดยสารเยอะกว่านี้ ภาพที่ถ่ายมา จึงไม่ค่อยเห็นผู้คนตามสถานีรายทาง มากนัก
กว่าจะมาถึงสถานีพัทยา เวลาก็ล่วงเลยเข้าไป 10.30 น. แล้ว
และแล้วก็เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางจนได้ คือ สถานีรถไฟบ้านห้วยขวาง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตอน 11 โมงเช้าเศษๆ ที่มีแดดจ้าไปทั่วบริเวณ
จุดหมายปลายทาง คือ "บ้านศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน" ที่หมู่บ้านห้วยขวาง หมู่ที่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นั่นเอง ซึ่งช่วงนี้ กำลังต่อเติม ซ่อมแซมบ้านใหม่ เจ้าของบ้านเลยต้องย้ายข้าวของมาไว้ที่ศาลาปลื้มใจ ดังภาพ ซึ่งบ้านใหม่ คงจะเสร็จในอีกไม่กี่วันนับจากนี้....