การรู้เขารู้เราในทุกสมรภูมิ ทำให้การรบทุกครั้ง มีโอกาสชนะทุกครั้ง ทั้งการรบด้วยอาวุธ และการรบในสงครามเย็น หรือ สงครามการเมือง
ในช่วงเลือกตั้งของเมืองไทย ที่กำหนดวันเลือกตั้ง วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554 เราจะเห็นผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคการเมืองที่ได้ยินชื่อ เห็นผลงาน เห็นเป็นข่าวใน นสพ. ทีวี มาตลอดหลายปี เลือกตั้งทีไร ก็บอกให้เลือกคนดีเข้าไปทำงาน คนที่เราเลือกเข้าไป คิดว่า ดีที่สุดแล้ว แต่การเมืองไทยก็ยังเหมือนเ้ดิม ไปๆมาๆ ย่ำแย่ลงกว่าเดิมทุกๆที มีข่าวการแสวงหาผลประโยชน์ และ เรื่องของ โกงๆๆๆ ทุจริตๆๆๆๆๆ ฯลฯ
เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ เสนอการ Vote No พร้อมเหตุผลที่สมควรโหวตโน เหตุผลที่ได้ยิน โดนใจหลายคน แม้จะไม่ได้เป็นพันธมิตร พธม. ก็ตาม เมื่อกระแสจุดติด ทำให้นักการเมืองเริ่มหวาดหวั่น ถ้าคนที่เคยลงคะแนนให้ ไม่เลือกพรรคของตัวเอง แถมยังไป Vote No ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกใครเลย แบบนี้มันตัดคะแนนของพรรคของตัวเองนี่นา จึงเริ่มมีวาทกรรม คำพูดที่ฟังดูดี แต่ออกมาทำลายความน่าเชื่อถือของ Vote No ไม่ควรไปกาแล้วให้มันกลายเป็นคะแนนทิ้งน้ำเฉยๆ
เมื่อหันมาฟัง เหตุผลของการโหวตโน ถ้าตั้งใจฟังให้ดีๆ มีหลายเหตุผลที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองไทยเสียที
พรรคการเมืองที่เคยได้รับคะแนนจาก พธม. เสียผลประโยชน์ และคะแนนหายไปอย่างชัดเจน ยิ่งมีการให้โหวตทางเวบไซต์บางแห่ง พบว่า คะแนนคนที่โหวตโน มีจำนวนที่สูงมาก พรรคการเมืองจึงให้ข้อมูลโต้การโหวตโนทุกทาง
ดังนั้น เมื่อจะรณรงค์โหวตโน ผู้ใหญ่หลายท่านฝากข้อคิดไว้ว่า คงรจะต้องติดตามฝ่ายตรงข้าม ให้รู้เขารู้เรา จะได้ให้ข้อมูลได้ตรงจุดที่อีกฝ่ายโจมตีมา
เห็นสปอร์ตโฆษณาตัวใหม่ทางฟรีทีวี ที่ดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องโหวตโน แต่เป็นโฆษณาที่มาแบบเนียนๆ กับโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลัง "คาราบาวแดง" เปิดประเด็นว่า
"คาราบาวแดงสนับสนุนให้คนไทยเลือกอย่างฉลาด"
เนื้อเพลงที่แอ็ด คาราบาวแต่งขึ้น และร้องในโฆษณานี้ ก็พูดถึง ซื้อของดูฉลาก เลือกซื้อสินค้าต่างๆให้ดูรายละเอียดดูตัวเลขให้ชัดเจน และ
"ถ้าเลือกผู้แทนให้เลือกที่เบอร์"
ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็เป็นที่รู้กันดีว่า แอ็ด คาราบาว รับงานแต่งเพลงให้พรรคการเมืองไหนบ้าง
แฟนเพลงของคาราบาว ยังมีอยู่มากพอสมควร แฟนเพลงที่ไม่สนใจข้อมูลข่าวสารการเมืองยังมีอีกเยอะ ดูแต่ละคร บันเทิง กีฬา เพลง เป็นหลัก คงจะเชื่อในโฆษณาที่บอกให้เลือกผู้แทนเบอร์ไหนก็ได้ อย่าไปทำตามที่มีการรณรงค์โหวตโนล่ะ ซึ่งต่้อไปคงจะมีโฆษณาที่บอกอย่าโหวตโนออกมาอีก
ถ้าดูกลยุทธของฝ่ายตรงข้ามที่ไม่อยากให้โหวตโน คือ เข้าใจง่าย สั้นๆ เจาะกลุ่มเป้าหมาย คนที่ไม่สนใจข่าวสารบ้านเืมือง สนใจแต่บันเทิง และการทำมาหาิกินอย่างเดียว ดังนั้น ถ้าโหวตโน จะมีคำขวัญ หรือคำพูดสั้นๆ โดนใจ จำง่าย เจาะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ได้ จะดีไม่น้อย
มีคนแนะนำมาว่า
"อัปรีย์ไป จัญไรมา ถ้างั้นกาไม่ประสงค์ลงคะแนนดีกว่า"
คำขวัญสั้นๆ แต่ยังไม่โดนใจพอ คงต้องช่วยกันคิดคำขวัญกันหน่อย แต่ที่สำคัญ คือ เมื่ออีกฝ่ายรุกมา ต้องทำการรุกด้านข้อมูลกลับไปด้วย ช่วยกันดูช่วยกันคิดคนละเล็กคนละน้อย การรณรงค์จะสำเร็จได้เช่นกัน
วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
รู้เขารู้เรา - การรณรงค์ Vote No และโฆษณาของสื่อกระแสหลัก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น