บันทึกการเดินทาง : มัฆวานยามเช้าวันอาทิตย์ 8 พ.ค.2554

            ในสถานการณ์ สถานที่แห่งหนึ่ง มุมมองของผู้คนแตกต่างกันไป หากนึกถึงมัฆวานในเวลานี้ ในการรับรู้ของคนทั่วไป อาจจะมองสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไปที่มัฆวานแตกต่างกันไป ทั้งคนที่คุ้นเคย คนที่ไปบ่อย และไม่เคยไป และนี่เป็นอีกมุมหนึ่งที่หลายคน ไม่ค่อยกล่าวถึง หรือเีขียนถึงมัฆวานในเวลานี้

            เช้าวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค.2554 หลังจากที่นายบอนเดินทางมาถึง กทม. เมื่อ 4.40 น. เข้าห้องน้ำที่หมอชิตแล้ว 5.25 น.มีเวลาว่างช่วงหนึ่ง เลยตัดสินใจขึ้นรถเมล์สาย 3 ไปลงที่ตลาดเทเวศร์ ไปเยือนมัฆวานสักหน่อย หลังจากไม่ได้แวะเวียนไปร่วม 1-2 เดือน ไปเช้าวันอาทิตย์แบบนี้แหละ  ยามเช้า ถนนโล่ง รถยังไม่ติด มาถึงตลาดเทเวศร์ 6.10 น. ลงจากรถเมล์ เจอพระเดินบิณฑบาตร 2-3 รูป ที่ตลาดเริ่มตั้งแผงบนฟุตบาทแล้ว เดินสัมผัสบรรยากาศตลาดยามเช้าที่เทเวศร์ เดินข้ามคลองผดุงกรุงเกษมมาตามถนนกรุงเกษม จนมาถึงสี่แยกไปแดงที่ตัดกับถนนนครราชสีมา ฝั่งตรงข้ามคือ จุดตรวจความมั่นคง ตามป้ายที่บอก ในเต้นท์มีตำรวจอยู่ 4 นาย มีรถขังผู้ต้องหาจอดใกล้ๆ ดูแล้ว ต่างจากที่มาเมื่อครั้งก่อนที่สถานการณ์ยังตึงเครียด ในเวลาเช้าแบบนี้มีตำรวจมาประจำที่จุดนี้ ร่วม 10 คน  แต่ช่วงนี้ คงปล่อยสบายๆแล้วมั้ง





            เดินมาเรื่อยๆ จนถึงเชิงสะพานมัฆวาน  ก็เจอทันที กับสติกเกอร์ โหวตโน 2 สี 2 แบบ เห็นแล้วอยากได้มั่ง แต่เช้าแบบนี้ ผู้คนพึ่งตื่นคงจะหาขอได้ยาก




            ถนนสองเลน ที่เปิดให้รถวิ่งผ่านได้ เช้านี้ มีแผงเหล็กมาปิดไว้ ชอบข้อความ "พื้นที่นี้ชุมนุมเพื่อชาติ กรุณาขับช้าๆ" มองจากมุมนี้ เหมือนเป็นหมู่บ้านจริงๆ หลังคาเต็นท์  มองดูแน่นกว่าแต่ก่อน นี่คือ ภาพบรรยากาศตอน 6.40 น. มีคนแต่งชุดทหาร ยืนอยู่ข้างมอเตอร์ไซต์อยู่ 1 คนเท่านั้นเอง











            เดินเข้าไปใกล้อีกนิด เจอป้ายข้อความที่ติดไว้ โดนใจมากมาย ซึ่งพี่น้อง พธม. ที่มาร่วมชุมนุมบ่อยๆ คงจะคุ้นเคยกับภาพที่เห็นนี้เป็นอย่างดี แต่คนที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุม ได้แต่ติดตามหน้าจอทีวี จะไม่ค่อยได้เห็นภาพเหล่านี้มากนัก





            เมื่อมีถนนสองเลนให้รถผ่าน จุดที่จะผ่านเ้ข้ามาในที่ชุมนุม  เป็นป้อมจุดตรวจ และเป็นที่พักของการ์ด พธม. ดูแล้วดีกว่าเดิม เดินผ่านเข้ามา หลายคนที่หน้าเวที พึ่งตื่น หลายคนยังนอนในเต็นท์ ในมุ้งกันอยู่ เดินสำรวจไปทั่วบริเวณ เต็นท์ขึ้นเต็มไปหมด







            เดินสำรวจจากหน้าเวทีไปด้านหลังสุด อยู่กันหนาแน่น เหมือนหมู่บ้านแห่งใหม่จริงๆในช่วงที่ผู้คนเยอะบรรยากาศแบบนี้ คึกคักแน่นอน ยิ่งปักหลักอยู่กันมากว่า 100 วันเข้าไปแล้ว ยิ่งผูกพันกันมาก เป็น 100 วันที่มีความหมายกับคนที่ปักหลักอยู่ที่ีมัฆวาน แต่ไม่มีความผูกพันมากนัก กับคนที่ไม่มีโอกาสได้มาร่วมชุมนุมบ่อยๆ ต่างจากช่วง 193 วัน ที่มักจะมีเหตุการณ์ตึงเครียด แทบทุกเดือน ทุกสัีปดาห์ เป็นเสียงเรียกร้องจากเวทีส่วนกลาง ให้พี่น้องจากต่างจังหวัด เติมกำลังเข้ามาที่นี่อยู่ตลอด แต่ช่วงนี้ ไม่ค่อยมีเสียงเรียกร้องจากเวทีส่วนกลางให้คนต่างจังหวัดเข้ามาเติมกำลังแบบนั้นบ่อยนัก

            บรรยากาศเหมือนบ้านแต่ละหลังที่ปลูกติดกัน บางเต็นท์ติดป้าย ติดธง และตกแต่งหน้าบ้าน เอ๊ย หน้าเต็นท์แบบหน้าบ้านน่ามอง หลายเต็นท์มองเห็นพี่น้องยังนอนหลับอยู่ บางเต็นท์ นอนหลับในมุ้ง เห็นแ้ลัวชักอิจฉา นอนหลับสบายจัง เห็นแล้ว อยากหาที่งีบนอนสักงีบจริงๆ แต่ก็ได้แค่เดินสำรวจไปเรื่อยๆ มองดูว่า ถ้าต้องมานอนค้าง จะนอนตรงไหนดีหว่า





            นายบอนชอบโผล่มาที่นี่ตอนเช้าตรู่ และมาทุกครั้ง จะต้องพบกับภาพบรรยากาศแบบนี้ ภาพที่เหล่าสมณะเดินบิณฑบาตรด้วยอาการสำรวม สงบ วันนี้ อาจจะมีจำนวนที่น้อยกว่าที่เคยมาครั้งก่อน หรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ก็ได้ไปยืนริมถนน พนมมือไหว้เหล่าสมณะที่เดินผ่านไป ชาวเต็นท์ที่นั่งคุยกันยามเช้าพร้อมเหล่าลูกๆตัวน้อย ก็นั่งพนมมือไหว้เหล่าสมณะที่เดินผ่านมา  มีเสียงจากเวทีกลาง เป็นเทปธรรมะที่เปิดให้ฟังเบาๆ ทำให้บรรยากาศยามเช้าที่มัฆวานยังสงบ

            ถ้านายบอนจะมาค้างคืนที่นี่ คงได้นอนที่เต็นท์ ยามเฝ้าแผ่นดิน ที่เห็นมีพี่้น้องส่วนหนึ่งที่คงจะมาร่วมชุมนุมเฉพาะวันหยุด ปูพลาสติกนอนที่พื้นถนน มีเต็นท์ใหญ่เป็นหลังคากันหมอกลงยามดึกไว้ เดินสำรวจไปอีกมุม บางเต็นท์ เอาไม้ไผ่มาทำเป็นผนังห้อง กลายเป็นห้องส่วนตัวเล็กๆ ทำกิจกรรมส่วนตัว แต่งหน้า แต่งตัวได้เช่นกัน ที่เต็นท์อาหารบางเต็นท์ เดี๋ยวนี้มีการเีขียนรายการเมนูอาหารไว้ด้วยว่ามีอะไรให้ทาน

            บรรยากาศยามเช้า มีพี่น้องถือไม้กวาดมากวาดพื้น บ้างช่วยขนถุงขยะออกไปกองไว้ด้านนอก รอให้รถขนขยะมาขน หลังจากเดินสำรวจทั่วบริเวณ ก็เดินมานั่งแถวๆหน้าเวที มีเจ้าหน้าที่ประจำเวที เริ่มเอาหน้าหนึ่งของ นสพ.มาติดไว้ ก่อนเริ่มรายการข่าว ยามเช้าริมเจ้าพระยา










            บรรยากาศของผู้คนที่นอนพักค้างหน้าเวที ก็อย่างที่เห็นในภาพ เจ้าหน้าที่ที่เป็นช่างภาพ ถ่ายทอดสด ก็ขึ้นไปนั่งหลับรอเวลาถ่ายทอดสดในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ส่วนข้างล่าง บางคนยังนอนอยู่ บางคนลุกขึ้นมานั่งคุยกันยามเช้า มีโต๊ะญี่ปุ่นพิงเสาอยู่นั่น มีอุปกรณ์พร้อมทุกอย่าง สำหรับการปักหลักอยู่ยาว







            6.40น. นายบอนเหลือบไปเห็นป้าหญิง  อัมพา สันติเมทนีดล เดินเข้าไปข้างหลังเวทีในชุดที่คุ้นเคย แหม รีบมาจัดรายการยามเช้าในวันนี้นี่เอง  เมื่อถึงเวลา 7.00 น. น้องนุก กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ และ ป้าหญิง อัมพา ก็ขึ้นมาประำจำที่นั่งบนเวที พูดทักทายพี่น้องหน้าเวที หลายคนรีบถือป้ายของจังหวัด มาชูที่หน้าเวที เป็นการรายงานตัวยามเ้ช้า เมื่อเริ่มการถ่ายทอดสด เปิดเสียงแล้วเริ่มเข้าสู่รายการ หลังจากพูดเกริ่นเข้ารายการแล้ว น้องนุกและป้าหญิงก็ทักทายผู้อยู่หน้าเวที ไล่อ่านข้อความตามป้ายต่างๆ ถึงแม้ยามเช้า ป้ายที่ชูหน้าเวที จะไม่มากเท่าช่วงเย็น เพราะหลายคนก็พึ่งจะตื่น แต่บรรยากาศยามเช้า ก็ดูคึกคักพอสมควร ได้ยิน พธม.กาฬสินธุ์ก็มีป้ายมาชูหน้าเวทีด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปตามหา เ้ข้าไปทักทาย เพราะมีเวลาจำกัด ถ้าเข้าไปทักทาย เดี๋ยวได้อยู่อีกหลายชั่วโมง








            ช่วงเวลาของรายการยามเช้าริมเ้จ้าพระยา เมื่อพูดถึงรายละเอียดของข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับไหน ช่างภาพของ ASTV ก็จะหันกล้องไปจับภาพอย่างที่เห็นเบื้องหลังการทำงานนี้








            เมื่อรายการถ่ายทอดสดเริ่มขึ้น เสียงจากเวที ปลุกผู้คนให้ตื่นขึ้น ความมีชีวิตชีวาถูกปลุกขึ้นมาแ้ล้ว พี่น้อง พธม.ที่อยู่หน้าเวที ก็ตั้งโต๊ะญี่ปุ่นนั่งคุยกันยามเช้า พร้อมนั่งทานอาหารยามเช้าไปด้วยในบรรยากาศสบายๆ จากภาพที่เห็นมีอุปกรณ์ต่างๆพร้อมทุกอย่าง จริงๆ



            คุึณลุงท่านหนึ่ง เิดินไปรับปาท่องโก๋มาทาน แล้วเดินมานั่งใกล้นายบอน มาฟังรายการข่าวจากเวที มองสบตานายบอนแล้วบอกให้ไปเอาปาท่องโก๋มานั่งทานสิ นายบอนจึงยิ้มตอบ เป็นความห่วงใยและความปรารถนาดีที่มอบให้แก่กัน ส่วน พธม.อีกท่านหนึ่ง ดูอายุร่นราวคราวเดียวกัน มองเห็นนายบอนหยิบกล้องออกมาถ่ายรูป เลยหันมามองด้วยความสนใจ แล้วถามไถ่ว่า มาจากไหน ทำอะไรอยู่ที่ไหน แล้วชวนคุยนิดหน่อย พร้อมทั้งมองท้องฟ้า ด้วยความเป็นห่วง กลัวฝนจะตกลงมาที่มัฆวาน เพราะเมฆครึ้มๆลอยมาแล้ว ...ถ้าตก ก็หลบฝนเข้าเต็นท์สิ สักพัก เม็ดฝนเริ่มลง พธม.คนนั้นเลยเดินเข้าไปที่หน้าเวที มีหลังคาเต็นท์กันฝนได้ แต่ฝนก็ไม่ตกเลย เป็นแค่ละอองฝนเล็กๆ แค่นั้น












           แป๊บเดียว 7.40 น.แล้ว นายบอนจึงต้องรีบออกจากมัฆวาน เพื่อไปทำภารกิจที่อื่นต่อ ก่อนที่รถจะติดมากกว่านี้ มองไปทางลานพระรูป มีผู้คนเดินไปร่วมงานรับปริญญาที่สวนอัมพร สักพัก รถคงจะติดมากมาย มีผู้ที่จะเข้ารับปริญญาในวันนี้ เดินถือชุดครุย เดินมาตามถนนสองเลนที่ผ่านที่ชุมนุมจะไปยังสวนอัมพร เห็นหลายคน เดินออกมาที่เชิงสะพานมัฆวาน มีรถเก๋งคันหนึ่ง ขับมาหยุดที่แผงเหล็ก คนขับลงจากรถ จะมาเอาแผงเหล็กออก เพื่อให้รถผ่านไปได้ แต่เขาคงจะมองเห็นว่า มีแผงเหล็กกั้นอีกหลายช่วง พอดี การ์ด พธม.ที่อยู่ใกล้ๆ เดินมาบอกว่า วันนี้ิ ปิดถนนช่วงนี้ เพราะมีงานรับปริญญานี่แหละ ถ้าจะไปต้องขับรถอ้อมไปอีกทางหนึ่ง เจ้าของรถเข้าใจ ก็ขับรถไปทางอื่น

            เดินผ่านมาทางคุรุสภา ก็มีการ์ด พธม. 2 คน เดินมาบอกรถมอเตอร์ไซต์ และรถอื่นทีั่่จะใช้เส้นทางผ่านที่ชุมนุม บอกว่า ปิดถนน ไ่ม่ให้ผ่านช่วงนี้ ถือเป็นการรักษาความปลอดภัยไปด้วย ช่วงงานรับปริญญา มีผู้คนมาร่วมงานในบริเวณนี้มากมาย จึงต้องดูแลกันหน่อย

            นายบอนเดินมาขึ้นรถที่ตลาดเทเวศร์ ตรงนั้นฝนพึ่งหยุดตก พื้นถนนและบริเวณแถวนั้น ยังเปียกแฉะอยู่เลย แต่ที่มัฆวานฝนไม่ตก มาตกแถวเทเวศร์แทน

           ..แล้วจะกลับมาที่มัฆวานอีกครั้งในเร็ววันนี้ แต่จะมาช่วงที่ผู้คนเยอะๆในยามเย็นดูบ้าง...

Related Posts by Categories

Widget by Hoctro | Jack Book