เมื่อมีโอกาสได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ ในช่องทางต่างๆ บางครั้ง คุยกันไม่นานเท่าไหร่ เกิดความรุ้สึกว่า ถูกใจ ใช่เลยคนนี้
เรื่องนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลอธิบาย บางคนบอกว่า เป็นอารมณ์ ความรู้สึกชั่ววูบ อย่างความรู้สึก "ปิ๊ง" แต่ความจริงแล้ว มันมีเหตุผลซ่อนอยู่ทั้งนั้น
ในชีวิต ตั้งแ่ต่เกิดจนรู้ความ เราได้พบเจอกับผู้คนมามากมาย หลายแบบ ทั้งดี ไม่ดี ได้พบเจอ พูดคุยกับผู้คนเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่นๆคน เกิดความรู้สึกเฉยๆบ้าง ตื่นเต้นดีใจบ้างที่ได้รู้จัก หรือ รู้สึกธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ แต่กับคนบางคน กลับรู้สึกสะดุด สนใจ อยากรู้จัก อยากพูดุคุยด้วย มันเป็นกลไก อัตโนมัติ เหมือนเราได้กลิ่นอาหารที่ชอบ ก็อยากกิน น้ำลายไหล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ต้องมีคำอธิบาย ไม่ต้องมีเหตุผลว่า ทำไมเห็นจานส้มตำ หรือนึกถึงส้มตำแล้ว ถึงอยากกิน
เรื่องอยากกินอาหารจานโปรด ก็เป็นความชอบส่วนบุคคล บางคนชอบผัดกระเพราไข่ดาว แต่อีกคนชอบ แกงไตปลา แล้วบอกว่า นี่ล่ะ ใช่เลย ของโปรด ในขณะที่คนอื่น รู้สึกเฉยๆ
เรื่องอาหารจานโปรดก็เหมือนกับเรื่องพบเจอเพื่อนใหม่ ทำไม รู้จักคนนี้ ถึงถูกใจใช่เ้ลย แต่คนอื่นเห็น ก็เฉยๆ
เมื่อชีวิตที่ผ่านมา ได้พบเจออะไรมามากมาย เมื่อเจอสิ่งที่ใช่ แว๊บเดียว สัญชาตญาณจะบอกทันทีว่า ใช่เลย... แต่ทว่า การคบกับคนนั้น หลายครั้งที่เรารู้หน้า ไม่รู้ใจ เรารู้จักเขามุมหนึ่ง แต่มีบางแง่มุมที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย เมื่อตัดสินใจคบหากันไป แล้วพบแง่มุมที่ไม่เคยรู้จัก ตอนนั้น รู้สึกว่า ไม่ใช่อย่างที่คิดนี่นา เกิดความผิดหวัง เสียความรู้สึก เสียเวลา ซึ่งจากการตัดสินใจครั้งนั้น ทำให้บางคนแลกกับหลายสิ่ง และบางคน "แลกกับชีวิตทั้งชีวิต" (เช่น บางคน ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับคนที่คิดว่าใช่ แต่เมื่ออยู่ด้วยกันไปนานหลายปี กลับพบสิ่งที่รับไม่ได้หลายอย่าง แต่ก็กลับตัวกลับใจ เลิกรากันไม่ได้แล้ว จึงต้องแลกกับชีวิตทั้งชีวิต จากการตัดสินใจในวันนั้น)
คนรุ่นเก่าบอกว่า การคบหาใครนั้น ต้องให้วันเวลาเรียนรู้ ทำความรู้จักกัน เ่พื่อให้เกิดความมั่นใจ ซึ่งการเรียนรู้ ทำความรู้จักกับใครบางคน แม้จะใช้เวลาทั้งชีวิตก็ยังไม่รู้จักเขาหมดซะที หากเขาคนนั้น ไม่ยอมเปิดตัวเปิดใจเลย แต่สำหรับบางคน แค่ 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ เรากับรู้จักเขาแทบจะทุกอย่าง รู้จักมากกว่าคนที่คบหากันมาหลายปีซะอีก เช่น รู้ว่า เขาชอบอาหารอะไร ชอบใส่เสื้อสีไหน ชอบฟังเพลงแนวไหน ชอบไปเที่ยวที่ไหน มีงานอดิเรกอะไร ฯลฯ
ดังนั้นการคบใครสักคน อยู่ที่ว่า เราได้มองเห็นเขาในหลายแง่มุมหรือเปล่า ได้รู้จักเขามากแค่ไหน แล้วเขาได้รู้จักตัวเรามากแค่ไหนด้วย ทั้งในมุมปกติ มุมไม่ปกติ ช่วงเวลาอารมณ์ดี ไม่ดี ช่วงเครียด กดดัน เศร้า สุข ทุกข์ .. ในแต่ละช่วงเวลาเขาเป็นอย่างไร มีสติ มีเหตุผลมากน้อยเพียงใด
ยิ่งรู้จักมากขึ้น เห็นหลายมุมมากขึ้น และถ้าทั้งสองฝ่าย ยอมรับได้ทั้งมุมที่ชอบและมุมที่ไม่ชอบ การคบหานั้นจะคบหากันได้ยาวนาน จะไม่ผิดหวัง ไม่เสียความรู้สึก จะไม่มีคำถามว่า "ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้"
เพราะเรารู้จักเขาดีแล้ว ยอมรับในทุกมุมของเขาได้แล้ว เมื่อยอมรับได้ จะไม่เสียความรู้สึก เพราะไม่ได้ตั้งความคาดหวังไว้สูง
ดังนั้น เวลาก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่การรู้จัก การยอมรับในตัวตนของอีกฝ่ายสิ่งนี้ก็มีความสำคัญไ่ม่แพ้วันเวลา ถ้าวันเวลาที่ผ่านไป แต่เราไม่รู้จักอีกฝ่ายดีพอ วันเวลาที่เนิ่นนาน ก็ไม่มีความหมายมากนัก
ดังนั้น สิ่งสำคัญ จงทำความรู้จักอีกฝ่ายให้ดี ทั้งความจริงใจ และตัวตนของอีกฝ่าย แล้วความมั่นใจจะมาเอง
วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันเวลากับการคบหา และความมั่้นใจ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รักไม่ต้องการเวลานะ รักอยู่เหนือเหตุผลใดๆ แต่ที่สำคัญต้องใช้ใจ และ สติ ในการที่จะรักใครซักคน
ตอบลบรักเป้นสิ่งสวยงาม ถึงแม้ว่าบางครั้งรักอาจทำให้เรามีน้ำตา แต่ทุกคนก็ต้องการและไขว่คว้า เพื่อให้ได้มา
ตอบลบรักอาจจะไม่ต้องการเวลา แต่การจะคบกันรอด มันมีหลายอย่างที่ยิ่งกว่ารัก มีความห่วงใย ความใส่ใจ ความผูกพัน ความเข้าอกเข้าใจกันและกัน พร้อมทั้งความเสียสละ ของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ตอบลบแถมยังมีองค์ประกอบอะไรอีกเยอะแยะไปหมด (แห่ะๆ....ตัวดำไปจำเขามาคับ) 555
ตอบลบอาจารย์คะ ความรักของตามันไม่เหมือนคนอื่น ความรักของตาอยู่เหนือเหตุผล เป็นความรู้สึกล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับการศึกษา หน้าที่การงาน เงินทอง แม้กระทั่งกาลเวลา ความรักทำให้ตาเสียสละและอดทนถึงที่สุดได้ ตาไม่ชอบเหล้า บุหรี่ แต่ตาก็อยู่กับมันได้อย่างเข้าใจ บางทีก็ใช้ความเงียบปนน้ำตาคิด ว่ารักหนอรัก ช่างยิ่งใหญ่ ตาโชคดีที่ที่รักของตาน่ารัก ไม่เล่นการพนัน ไม่เจ้าชู้ อบอุ่น มีเสน่ห์ เท่ห์ และเป็นผู้นำ ตาชอบกอดเขา และชอบเวลาเขากอด และอยากร้องไห้เวลาเขาบอกว่ารัก นี่แหละรักของตา
ตอบลบมาจับผิดให้ถูกตัว เมื่อคู่หูมี "คู่ปิ๊ง" 555
ตอบลบ