วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

สองหัวใจที่เข้มแข็งบนความอ่อนล้าและความตั้งใจที่เติมพลังให้แก่กัน


            "ความตั้งใจของคนๆหนึ่ง ช่วยเติมเต็มพลังชีวิตที่อ่อนล้าของคนๆหนึ่งให้เข้มแข็งขึ้นมาได้อย่างไม่่น่าเชื่อ"
          
            นี่คือ คติเตือนใจที่เขียนติดไว้บนผนังร้านขายข้าวขาหมูแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ เป็นข้อความที่เขียนในกระดาษเก่าซีด ที่ติดอยู่เหนือโปสเตอร์ของน้ำอัดลมแผ่นใหม่ ดูแล้วขัดสายตาเหมือนกัน แต่ก็สะดุดตาของผู้ที่หมั่นสังเกตดูสิ่งที่อยู่บนผนัง



            เพื่อนที่ไปนั่งทานข้าวด้วยกัน จึงสอบถามเจ้าของร้านว่า ข้อความนี้มีความหมายว่ายังไง
          
            เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า ใีนปี 2540 เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เขาถูกเลิกจ้าง ในช่วงนั้นจึงต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ซึ่งช่วงนั้น เงินหายากมาก เมียและลูกก็ตกงาน เดือดร้อนไปหมด แม้แต่ข้าวของในบ้านยังถูกขโมย  เพื่อนสนิทของเขา ซึ่งอยู่บ้านติดกัน จึงมานั่งปรึกษากันว่า คงจะต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นคนในครอบครัวจะต้องอดตายกันหมดแน่ๆ



            ทั้งคู่จึงตัดสินใจเดินหางานและหากับข้าวมาเพื่อให้คนในครอบครัวได้กิน ตั้งแต่ไปขอข้าววัด ไปรับจ้างล้างจาน ทำความสะอาดร้านอาหารเพื่อแลกกับ กับข้าว และอาหารที่เหลือ เพื่อเอามาให้คนในครอบครัวได้กินกัน แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็ต้องอดทนเพื่อคนในครอบครัว จนวันหนึ่ง เกิดความท้อ เพราะเหนื่อยมากๆ ไม่มีเวลาพักแม้แต่นิดเดียว

            เมื่อเพื่อนสนิทมาหา และตามไปทำงานเหมือนทุกวัน เขานั่งถอนใจ บอกว่า ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวจริงๆ สู้ต่อไปไม่ไหวแล้ว เพื่อนสนิทนิ่งไปครู่หนึ่ง จึงพูดขึ้นว่า

            "ถ้ามึงยอมแพ้ แล้วกูจะอยู่ได้ยังไง หลวงพ่อที่วัดบอกว่า ความตั้งใจของคนๆหนึ่ง ช่วยเติมเต็มพลังชีวิตที่อ่อนล้าของคนๆหนึ่งให้เข้มแข็งขึ้นมาได้..ที่กูสู้ เพราะมีมึงสู้ด้วยกันนี่แหละ ...."


            เขานิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเริ่มได้สติ เอื้อมมือมาจับมือของเพื่อนเพื่อลุกขึ้นเดินออกไปทำงาน แต่พอจับมือและจับตัวของเพื่อน เพื่อนเป็นไข้ตัวร้อนจี๋ แต่เพื่อนบอก พักไม่ได้ ต้องออกไปทำงาน ไม่งั้นคนในครอบครัวจะไม่มีอะไรกิน

            แทนที่จะได้นอนพัก เขาและเพื่อนจึงเดินออกไปทำงาน วันนั้น เขาทำงานไป มองเพื่อนสนิทไป แม้จะเป็นไข้ตัวร้อน แต่เห็นเขากัดฟันทำงาน เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เพื่อนสนิทแทบจะเดินไม่ไหวเขาจึงต้องประคอง มือหนึ่งถือถุงกับข้าวที่ได้ อีกข้างหิ้วปีกประคองเพื่อนสนิทเดินกลับมาถึงบ้าน

            ตั้งแต่วันนั้น เขาไม่เคยท้อแท้อีกเลย และเข้าใจคำพูดประโยคนั้น เลยขอให้เพื่อนเขียนคำพูดทั้งประโยคให้ เพื่อนเขียนใส่กระดาษ เขียนด้วยลายมือตัวบรรจงให้กับเพื่อนรัก ซึ่งเขาห่อกระดาษหุ้มพลาสติกไว้ ตั้งใจว่า จะเอาไปกระดาษเคลือบไว้ แต่ก็ยังไม่ได้ไปสักที แต่เอากระดาษที่หุ้มพลาสติกนั้น ติดไว้เตือนใจ จนเมื่อเขามีทุน เปิดร้านข้าวขาหมูเล็กๆ ในปี 2545 เขาก็เอากระดาษลายมือของเพื่อนมาติดไว้ที่ผนังด้านหนึ่งของร้าน

            เจ้าของร้านข้าวขาหมูบอกว่า ดูแล้ว นึกถึงเพื่อนในวันนั้น ลำบากมาด้วยกัน และข้อความนี้ใช้เตือนใจสอนคนอื่นด้วย

            "ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ถ้ามีความตั้งใจทุ่มเท เป้าหมายเดียวกัน จะช่วยผลักดันให้อีกคนเข้มแข็ง มุ่งมั่นไปสู่จุดหมายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนวันนั้น ถ้าเพื่อนที่ป่วยถอดใจ ก็คงทำให้เขายิ่งถอดใจมากขึ้น แต่เพื่อนสนิทก็ฮึดสู้ เพราะอยากให้เขาลุกขึ้นสู้ด้วย เขาจึงต้องลุกขึ้นทำงาน เพื่อให้เพื่อนสนิทเห็นว่า เขายังอยู่เคียงข้าง เพื่อให้เพื่อนที่มีอาการไม่สบาย ได้รู้่ว่า เขายังสู้อยู่เีคียงข้างเสมอ เ็ป็นพลังใจให้กันและกัน.."

            เป็นพลังของทั้งสองฝ่าย ที่ช่วยกันผลักดันให้อีกคนเข้มแข็ง มุ่งมั่น  และฮึดสู้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นพลังสามัคคีในยามลำบาก

            เหมือนกับการทำงานต่างๆ เช่น การทำงานเพื่อสังคม ผู้ที่มีจิตอาสาี่ที่ทุ่มเททำงานแล้ว ผลที่ได้ อาจจะไม่ได้ชื่อเสียง เงินทอง หรือสิ่งตอบแทนใดๆ แต่ความตั้งใจที่แต่ละคนสัมผัสได้ ช่วยเติมพลังให้กันได้จริงๆ

Related Posts by Categories



Widget by Hoctro | Jack Book

3 ความคิดเห็น:

  1. ความมุ่งมั่นและศรัทธา คือปาฏิหาริย์แห่งพลัง

    ตอบลบ
  2. จิตอาสา คือ ปิดทองหลังพระ ยากที่ใครจะเห็น แต่ถ้ามีคนเห็นและสร้างแรงบันดาลใจด้วย ถือเป็นอานิสงค์สองเท่าเชียว =)

    ตอบลบ
  3. ‎"แรงบันดาล" คำๆนี้ ใช่เลยคะ เราจะเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่เสียสละ ทำโดยไม่ได้สิ่งตอบแทน ทีได้แน่ๆ คือ ความสุขทางใจ ขอบคุณสำหรับ บทความดีๆ ที่นำฝากเสมอนะจ๊ะ คุณ บอน

    ตอบลบ