ในการทำงานแต่ละอย่าง หลายคนมักจะเห็นผลงานที่เกิดขึ้นและชื่นชมในผลสำเร็จนั้น แต่เมื่อมีโอกาสได้เห็นเบื้องหลังการทำงาน จะเ้ห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจหลายอย่าง การได้ไปสัมผัส เยี่ยมเยือนถึงที่พัก หรือ "รัง" ก็ทำให้ได้พบเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจหลายอย่าง กว่าจะเป็นผลงานที่หลายคนได้ชื่นชมกัน และนี่คือ บันทึกการเดินทาง บุกรัง ของผู้ก่อตั้งและคนทำงานตัวหลักของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ผู้ที่ถ่ายทอดและส่งต่อเรื่องราวของ ในหลวง มาอย่างต่อเนื่อง.....
วันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค.2554 ได้นัดหมายกับพี่แคท และพี่ Sako แห่งกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ครั้งก่อน นัดพบกันที่เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ แต่ครั้งนี้ นัดช่วงเวลา 9.00-10.00 น. พี่แคทรีบโวยทันทีว่า มาเช้าจังเลย .... โดยปกติแล้ว มักจะทำงานกันดึกดื่น กว่าจะนอนอิ่ม และตื่นนอน โดยเฉพาะในวันหยุด จะตื่นนอนแต่เช้ายิ่งเป็นไปไม่ไ้ด้ แต่เมื่อนายบอนจะแวะมา พี่แคทบอกว่า สามารถที่จะตื่นได้ งั้น 9.30 น. เจอกัน
เช้าวันอาทิตย์ ท้องฟ้ามืดครึ้มพอสมควร หลังจากที่นายบอนขึ้นรถเมล์สาย 134 จากหมอชิต - จตุจักร - เดอะมอลล์งามวงศ์วาน - สะพานพระนั่งเกล้า พี่แคทบอกว่า บ้านพักอยู่แถวๆร้านลุงหนวด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เคยพามานั่งกินข้าว หลังจากทำโครงการ ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง ครั้งที่ 2 เสร็จนั่นแหละ เมื่อนั่งรถเมล์ข้ามสะพานพระนั่งเกล้ามาแ้ล้ว คงจะลงป้ายแรก เพราะใกล้ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุดแล้ว แต่รถวิ่งไปจอดป้ายที่ 2 ริมถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้กับโชว์รูม ฟอร์ด-มาสด้า พอดี เดินลงจากรถมาไม่กี่ก้าว ฝนเจ้ากรรมก็เทลงมาต้อนรับซะแล้ว จนต้องรีบวิ่งขึ้นสะพานลอยข้ามถนน ซึ่งมีหลังคาพอให้ไปยืนหลบฝนได้บ้าง ฝนก็เทลงมาอย่างต่อเนื่อง บนถนนก็กำลังก่อสร้างหลายอย่าง ฝนก็เทลงมาเื่รื่อยๆ ดูเวลา 9.35 น. เลยหยิบโทรศัพท์ โทรหาพี่แคททันที คาดว่า น่าจะสะลึมสะลือตื่นบรรทมแล้วล่ะ
"ฮัลโหล... ถึงไหนแล้ว" อ้าว เสียงใสแบบนี้ แสดงว่า ตื่นนานแล้ว ไม่ใ่ช่เสียงงัวเงียบนที่นอน เลยรายงานไปว่า ตอนนี้ลงรถเมล์ตรงสะพานลอย ใกล้โชว์รูม ฟอร์ด พี่แคทถามอีกครั้ง "ตรงไหนวะ" ....อ้าว ทำไมตอบยังงั้นล่ะ นี่แสดงว่า ยังมาไม่ใกล้บ้านอีกเหรอ......
"อยู่ตรงไหนนะ...." พี่แคทถามย้ำอีกครั้ง นายบอนก็พยายามบอกไป ความจริงแล้ว ฟังไม่ค่อยได้ยิน เพราะทั้งเสียงฝนและเสียงลมที่พัดบนสะพานลอย ทำให้ไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไรมากนัก ก็พยายามบอกไปว่า อยู่จุดไหน สักพักพี่แคทก็บอกว่า งั้นเดี๋ยวออกไปรับ รออยู่ตรงนั้นแหละ
ผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ฝนหยุดตกแล้ว เลยเดินลงจากสะพานลอย ข้ามมาอีกฝั่ง มาอยู่ใกล้ๆป้ายรถเมล์ชั่วคราว ดูสาวๆนั่งๆยืนๆรอขึ้นรถเมล์เข้าไปในเมือง แล้วพี่แคทก็โทรมา "ตอนนี้จอดรถอยู่หน้าโชว์รูม ฟอร์ดแล้ว อยู่ไหนวะ" นายบอนเลยรีบข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่ง พี่แคทก็ถอยรถมาใกล้ๆ รับขึ้นรถขับออกไปทันที อ๊ะ ขับมาคนเดียวแฮะ พี่แคทบอกว่า พี่กู๋รออยู่ที่บ้าน
ขับจากหน้าโชว์รูมฟอร์ด ตรงไปเรื่อยๆ พี่แคทบอกว่า ทางเข้าบ้านต้องลงตรงนี้ ป้ายรถเมล์ที่สาม ..... แหม นิดเดียว เพราะดันลงป้ายที่สอง แล้วพี่แคทก็บอกให้ดูที่วินมอเตอรไซต์ เห็นมั้ย ติดรูปในหลวงไว้ด้วย รูปในหลวงใส่กรอบ 3 รูปติดกัน "นี่ยังไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปเลย"
แทบไม่่น่าเชื่อ ปกติ เมื่อเห็นใน facebook พี่แคทมักจะไปถ่ายรูปบ้าน ร้านค้า ที่ติดภาพในหลวงมุมต่างๆ หรือบางครั้ง ก็มีมิตรสหาย ส่งภาพมาให้ เธอจะนำมาแปะใน facebook แล้วประกาศว่า "เรารู้จัก เราชื่นชม" ทุกที่ที่ติดรูป หรือธงสัญลักษณ์ในหลวง มักจะเก็บภาพถ่ายมาเผยแพร่ และชื่นชมอยู่เสมอ ขนาดประตูบ้าน รั้วบ้านของตัวเอง ก็ยังถ่ายภาพมาเผยแพร่ ใกล้ไกลแค่ไหน ไปถ่ายรูปไว้แล้ว แต่แค่วินมอเตอร์ไซต์ ปากซอยเข้าบ้าน ยังไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปสำหรับ "เรารู้จัก เราชื่นชม" ไว้เลย ใกล้แค่จมูกตัวเองแค่นี้ เหมือนอย่างชีวิตจริง ที่มีอีกหลายเรื่องที่คนเราคาดไม่ถึง
ขับรถเข้ามาตามถนนเข้าหมู่บ้าน สังเกตเห็น ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นหลายจุด มีโลตัสเอ็กเพรสด้วย ร้านโชวห่วยแถวนี้ คงเหลือน้อยลงไปทุกที ขับผ่านไปตามถนน พี่แคทก็เล่าให้ฟังว่า บ้านไหนรักในหลวง บ้านไหนเป็นเสื้อแดง เก็บรายละเอียดไว้หมด แล้วก็ขับเลี้ยวเ้ข้าไปในหมู่บ้าน เลี้ยวหลายรอบจนงง ให้มาอีกครั้ง มาเองก็มาไม่ถูก แล้วก็มาถึง "รัง" ของ กลุ่มดินรักษ์ฟ้า หรือ บ้านพี่แคทน่ะแหละ ลงจากรถ เข้าไปเปิดประตูรั้วบ้าน แล้วถอยรถเข้าไป ที่ประตูรั้ว ก็เป็นอย่างรูปที่เคยเห็นใน facebook คือ ติดสติกเกอร์ไว้แล้ว และถูกถ่ายรูปไปเผยแพร่ไว้แล้ว ตอนนั้น ฝนพึ่งหยุดตก พอลงจากรถเลยเดินไปแตะสติกเกอร์ ยังเปียกๆน้ำอยู่ แต่ก็ยังติดอยู่ตรงเสาบ้านอย่างนั้น
พี่แคทลงจากรถแล้ว ก็พาเข้าบ้าน ก่อนเข้าก็พูดกำชับเป็นครั้งที่สิบได้มั้ง ว่า ห้ามถ่ายรูปนะโว้ย กองสมบัติรกไปหมด เป็นสิ่งของบริจาคของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าทั้งนั้น เดินเข้าตัวบ้าน โห... รองเท้าของผู้หญิงวางเรียงแถวนับยี่สิบคู่ หรือมากกว่านั้น นึกว่าร้านขายรองเท้า แน่นอนว่า เป็นรองเท้าพี่แคททั้งหมด ถ้านับจริงๆ ทั้งบ้าน น่าจะเกินครึ่งร้อย พอเดินเข้าบ้าน เปิดประตูเข้าบ้าน "ปิกัสโซ่" แมวตัวโปรดของพี่แคท ก็เดินออกมาต้อนรับทันที.... อันนี้เป็นที่แน่นอนว่า มาถึงรัง ของดินรักษ์ฟ้าจริงๆ เพราะฟรีเซ็นเตอร์ของกลุ่มตัวเป็นๆ ออกมาต้อนรับเอง...
เดินเข้าบ้าน พี่แคทก็หันมากำชับ เสียงเข้มอีกเป็นครั้งที่สิบเอ็ดว่า ห้ามถ่ายรูปนะโว้ย บริเวณนั้นเป็นมุมหนึ่งของบ้าน ซึ่งจัดไว้เป็นห้องรับแขกได้ แต่ทว่า มีกล่อง ถุง วางอยู่เต็มพื้น เอกสาร หนังสือ อัดแน่นเต็มตู้ นี่คือ สิ่งของที่ได้รับบริจาคสำหรับกิจกรรมของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า วางแน่นไปหมด เลยดูรกๆ ความจริงแล้ว มีพื้นที่น้อยกว่า สิ่งของที่มี ต่อไป สิ่งของคงจะมากขึ้นกว่านี้ คงต้องไปหาเช่าโกดังเก็บสิ่งของแล้วมั้ง
จากห้องเก็บของ ของดินรักษ์ฟ้า อีกฝั่ง คงเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ตามแปลนของบ้านทั่วไป ห้องที่ถัดจากห้องเก็บสมบัติของดินรักษ์ฟ้า มีห้องน้ำอีกห้อง และห้องถัดไป ประตูเปิดอยู่ มีเสียงและแสงไฟออกมาจากห้องนั้น พี่กู๋ Sako อยู่ในห้องนี้เอง กำลังนั่งอยู่หน้าจอคอม ดูการถ่ายทอดสด มวยคู่ประกอบรายการ ก่อนการชกของ แมนนี่ ปาเกียว นักมวยพิลิปปินส์ พี่กู๋บอกว่า กำลังรอดูปาเกียว ตอนนี้เลยดูมวยคู่ชกคั่นเวลาไปก่อน ทีวีช่อง 7 ก็ยังไม่ถ่ายทอดสด เลยดูทางเนตสดๆ บางจังหวะสัญญาณภาพ ก็สะดุดไปบ้าง ไม่ทันใจเลย พี่แคทก็พาเข้าไปนั่งที่โซฟาตัวหนึ่งในห้อง สิ่งของในห้อง อัดแ่น่นเต็มไปหมด พี่แคทบอกว่า บ้านรก แต่ความจริง สิ่งของมีมากกว่า พื้นที่ของบ้านซะอีก เพราะเป็นบ้านชั้นเดียว แล้วต่างเป็นนักสะสม จึงมีข้าวของมากมาย คาดว่า เดี๋ยวคงจะล้นบ้านสักวัน คงต้องสร้างเพิ่มอีกชั้น หรือ เจาะชั้นใต้ดินไว้ทำห้องเก็บสิ่งของไว้ซะเลย
พี่แคทเ็ห็นมาเหนื่อยๆ เลยให้นั่งพัก ไปเทน้ำแข็ง ใส่น้ำแดงมาให้กิน แล้วพี่แคทก็ตั้งประเด็นว่า ไม่ชอบเสื้อแดง แต่กินน้ำแดง เออ นั่นสินะ
แป๊บเดียว ก็ถึงเวลาที่แมนนี่ ปาเกียว ขึ้นเวทีชก พี่กู๋รีบเปิดดูทีวีช่อง 7 เพราะเสียอารมณ์ที่เปิดดูทางอินเตอร์เนตแล้วภาพกระตุก หยุดไปหลายจังหวะ ขาดความต่อเนื่อง ทีวีภาพก็ไม่ชัด แต่ไม่สะดุด ส่วนทางอินเตอร์เนต ภาพสวย คมชัด แต่สะดุด พี่กู๋เลยยกทีวีมาวางข้างประตูห้องทำงานซะเลย ต่อสายสัญญาณเข้ากับทีวี ปรับนิด ก็รับภาพได้ชัด แล้วนั่งดูหน้าห้อง เห็นทั้งจอทีวี และจอคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเตอร์เนต ดู 2 จอได้พร้อมกัน
มวยคู่ปาเกียวที่หลายคนรอชม กลับไม่สนุกอย่างที่รอคอย เมื่อคู่ชกเอาแต่ป้องกันตัว เอาแต่ถอย ไม่ค่อยรุกต่อย ทำเอาแฟนมวยเซ็ง เวลาล่วงเลยใกล้ที่ยง พี่กู๋เลยเดินเข้าครัว ทำักับข้าวมื้อเที่ยงทาน แต่คงจะเป็นมื้อเช้าของคนบ้านนี้ จัดการหุงข้าว ซึ่งบ้านนี้ทานข้าวกล้อง เพื่อสุขภาพซะด้วย พอมวยชก ก็เดินมาดู พอหมดยกก็เดินไปทำกับข้าว 2 อย่าง คือ ผัด 1 อย่าง และไข่เจียวหมูสับ 1 จาน แหม นึกไม่ถึงว่าจะได้มีวาสนามากินข้าวฝีมือพี่กู๋ซะด้วย ส่วนพี่แคท นั่งหน้าจอคอม เปิด facebook ทั้งพิมพ์ทั้งตอบ หลายอย่าง...เห็นแล้วก็ชักสงสัย ทำไมพี่กู๋ต้องทำกับข้าว หรือว่า.... พี่แคท...ไม่ทำกับข้าว หรือ ทำไม่้เป็น...???
มวยชกจบครบ 12 ยก แมนนี่ ปาเกียว ชนะคะแนนตามคาด นายบอนก็กลับมานั่งที่โซฟาในห้องเหมือนเิดิม เวลาใกล้เที่ยงแล้ว งั้นทำงานกันเลยดีกว่า พี่แคท ก็เตรียมข้อมูล 11 ภาพในหลวง เพื่อที่จะเล่าเรื่องราวส่งต่อให้ลุงสุเวศน์ ไปถ่ายทอดต่อไป ระหว่างรอ ก็หยิบกล้องวิดีโอมาเตรียมพร้อม ลองกดถ่ายภาพในห้องนั้นไว้ ตั้งใจว่าจะถ่ายภาพเบื้องหลัง แต่ก็....
...พี่แคทหันมาพอดี เลยแชะ ได้ภาพนี้มา นี่คือ เบื้องหลังการทำงานของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า พี่แคทนั่งหน้าจอแบบนี้ มองดูที่จอคอมพิวเตอร์ กำลังเปิดหน้า facebook ของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าพอดี ตอนนั้น กำััลังทำแฟนเพจของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า เพราะหน้าเพจของ "กลุ่ม" มีการเปลี่ยนแปลงระบบ ซึ่งระบบใหม่ พี่แคทบอกว่า ไม่ค่อยชอบ เพราะสกรีนคนยาก ใครจะโพสต์ข้อมูลอะไรก็ได้ จะำทำให้กลายเ็ป็นแหล่งข้อมูลขยะ เหมือนกับหลายกลุ่มใน facebook ที่มุ่งเน้นปริมาณ ทั้งจำนวนคนและจำนวนโพสต์ แต่ของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า อยา่กจะเน้นคุณภาพมากกว่า เลยนั่งคลิกๆๆๆ และกลายเป็น www.facebook.com/DinRakFah ที่หลายคนเข้าไปกด like เพื่อเป็นสมาชิกของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ในรูปแบบ fanpage ได้ทันที
นี่คือ อีกมุมหนึ่ง เมื่อพี่แคท ลุกจากเก้าอี้ บนโต๊ะจะอัดแน่นไปหมด เจ้าของบ้านบอกว่า รก แต่ความจริงแล้ว สิ่งของมีมากกว่า พื้นที่ที่จะวางต่างหาก แบบนี้ถือว่า ใช้พื้นที่ได้คุ้มทุกตารางนิ้วเลยทีเดียว เห็นกรอบรูปแล้ว คงไม่ต้องบอกว่าเป็นรูปของใคร ส่วนกรอบรูปที่มีโลโก้ดินรักษ์ฟ้า และมีข้อความที่เป็นบทกวี เป็นสัญลักษณ์ที่บอกได้ว่า เป็นที่ทำงานของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ทุกจุดบนโ้ต๊ะ มีสิ่งของวางเรียงไว้เต็มไปหมด วางกรอบรูปบังแสงจากหน้าต่าง เลยทำให้ห้องดูมืดไปบ้าง แต่เ้จ้าของห้อง คงจะคุ้นเคยกับสภาพแสงอย่างนี้่อยู่แล้ว เพราะชอบทำงานดึกๆ
อีกมุึมหนึ่งถัดจากที่พี่แคทนั่ง ก็จะมีคอมอีก 1 ตัว ที่กำลังเปิดดูถ่ายทอดสด มวยคู่แมนนี่ ปาเกียว สิ่งของสารพัดอย่างวางเต็มโต๊ะ มุมนี้ของบ้านนี้แหละที่สื่อสารกับผู้คนมากมายจากหลายมุมของโลกผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เรื่องราวของในหลวงมากมาย ทั้ง "เรารู้จัก เราชื่นชม" และ " เราไม่รู้จัก แต่เราชื่นชม" ล้วนถูกส่งออกมาจากคนที่นั่งอยู่ในห้องๆนี้ และจากโต๊ะตัวนี้
ปกติแล้ว เรามักจะ้เห็นมีการติดธงชาติ และธงของในหลวง ที่ประตูบ้าน ชายคาบ้าน หรือ หลังคาบ้าน แต่ที่นี่ รังของดินรักษ์ฟ้า นอกจากกรอบรูปที่มีภาพของในหลวง แ้ล้ว ติดธงไว้ที่มุมหน้าต่างซะเลย และวิธีประดับตกแต่งนั้น ติดไว้อย่างมีศิลป์อีกด้วย เห็นปีกผีเสื้อติดกับก้านธง ทำให้มุมนี้น่ามองมากขึ้น
คงเป็นความตั้งใจของพี่แคท ที่จะมอบกรอบรูปที่ใส่บทกวีของดินรักษ์ฟ้า เลยหยิบมามอบให้นายบอน ซึ่งพิมพ์บนกระดาษสีเหลืองทอง แต่กล้องจับภาพได้ เห็นเท่านี้
เมื่อสัปดาห์ก่อน พี่แคทไปฟิลิปปินส์ และไปทำโทรศัพท์หายที่นั่น เป็นความทรงจำที่ไม่น่าจำเลย แล้วก็หยิบของฝากมาให้ เป็นพวงกุญแจรูปรองเท้า แต่มีข้างเดียว สงสัย ถ้าอยากจะได้อีกข้างให้ครบคู่ จะให้ไปหาซื้อที่ฟิลิปปินส์รึเปล่านะ
แล้วพี่แคท ก็เล่าเรื่องจากฟิลิปปินส์มา ที่ฟิลิปปินส์เรื่องการเล่นการพนันเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย แต่ถ้าในงานศพ สามารถเล่นการพนันได้ งานศพที่ฟิลิปปินส์ จะมีการตั้งเต็นท์แล้วยกโลงศพมาไว้ที่หน้าบ้าน คราวนี้มีบ้านหลังหนึ่ง ที่จัดงานศพเป็นเดือนๆ แล้วผู้คนก็มาเล่นการพนันกัน จนน่าสงสัยว่า ในโลง มีศพจริงหรือเปล่า หรือว่า จัดงานศพบังหน้า เพื่อจะเล่นการพนันได้อย่างไม่ผิดกฏหมาย
"เมื่ออยู่เมืองไทย เรามักจะรู้ึสึกว่า เืมืองไทยไม่น่าอยู่ ไม่สะดวกสบายบ้างล่ะ แต่เื่ื่มื่อไปที่ฟิลิปปินส์ หรือต่างประเทศ ไปสัมผัสบรรยากาศที่อื่นแล้ว จะรู้สึกได้ทันทีว่า เื่มืองไทยของเราน่าอยู่ที่สุด ที่ฟิลิปปินส์มีการลักขโมยทุกแห่ง จะไปซื้อของในร้าน ยังต้องใช้การ์ดผ่านประตูเข้าไป ไม่งั้น ของหาย อยู่ที่นั่นจะต้องระมัดระวังให้ดี".. แล้วพี่แคท ก็เจอประสบการณ์ัเข้ากับตัวเองเมื่อโทรศัพท์ หายที่ฟิลิปปินส์ จนต้องซื้อเครื่องใหม่ใช้ในวันนี้
ช่วงที่นั่งพักที่โซฟา นายบอนก็เหลือบดูพี่แคทใช้คอมพิวเตอร์ ถือได้ว่าเป็นระดับเจ้าแม่จริงๆ นั่งมองจากไกลๆ เห็นพี่แคมเปิด facebook หน้าหนึ่ง สักพัก ก็คลิกไปหน้าใหม่ เปิดดูข้อความ แล้วพิมพ์ตอบ สักพัก อ่านข้อความอันหนึ่ง แ้ล้วเปิด google ค้นหาข้อมูลสักพัก นั่งดูผลการค้นที่เป็นแผนที่ แล้วหยิบปากกา +สมุดมาจดข้อมูล ปั๊บ พอวางสมุดแล้ว ก็เปิดหน้าจอต่อไป ซึ่งที่เห็นในภาพข้างล่าง เ็ป็นสมุดที่จดรายละเอียดสำคัญต่างๆ ทั้งธุรกิจที่ทำ เรื่องส่วนตัว เรื่องของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า และ ฯลฯ
พอจดข้อมูลที่เห็นจากในจอปุ๊บ ก็วางสมุดไว้อย่างนั้น เปิดไว้อย่างนั้นแหละ สักพัก พอเจอข้อมูลสำคัญ ก็เอื้อมมือไปหยิบ ปากกา และสมุด มาจดไว้ทันที สมุดคงจะปิดตอนที่ปิดเครื่องและเก็บสิ่งของให้เข้าที่แล้วกระมัง
มาถึงกล่องที่เห็นนี้บ้าง เนื่องจากพี่แคทเป็นคนที่รักแมวอย่างมาก และเจ้าแมว ปิกัสโซ่ ก็แสนซนตามประสา แมวๆ ซุกซนจนทำให้สัตว์ตัวเล็กๆในบ้าน ต้องตายไปบ้าง แบบนี้พวก หนู จิ๊กจก ตุ๊กแก คงไม่เหลือในบ้านนี้แล้วมั้ง ด้วยความเป็นห่วงแมวตัวโปรด เลยตั้งกล่องสะสมบุญ กล่องทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรของ แมวตัวโปรด วางไว้ที่โต๊ะทำงานซะเลย เป็นสิ่งเตือนสติได้เป็นอย่างดี
มองดูรอบๆห้อง ผลงานของแมว ปีกัสโซ่ ฝากร่องรอยไว้หลายที่ เปียโนของหลานของพี่กู๋ ปีกัสโซ่ก็ฝากรอยไว้แล้ว แต่พี่กู๋เอาไว้กดเทียบเสียง midi ตอนแต่งเพลง และร่องรอยอื่นๆในบริเวณบ้าน ยืนยันได้ว่า ปีักัสโซ่เค้าแสนซนจริงๆ
เมื่อได้เจอตัวจริง มีโอกาสได้ลูบๆคลำๆ จนลืมถ่ายรูปไว้ เลยไปหยิบรูปที่พี่แคทถ่ายไว้ใน facebook ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า มาให้ดูแทน นี่แหละ แมวที่เห็นใน facebook แถมยังมี account ใน facebook คือ Picasso Atthakor (ดินรักษ์ฟ้า) อีกด้วย ส่วนเค้าจะใช้ facebook ยังไง ก็ถามพี่แคทหลังไมค์ละกัน
หลังจากนั่งบันทึกวิดีโอ ที่พี่แคทบอกเล่าเรื่องราวของในหลวง กับ 11 ภาพชุดล่าสุดเสร็จลง ก็ออกมานั่งทานข้าวเที่ยง แต่เป็นข้าวมื้อเช้าของคนบ้านนี้ กับข้าว 2 อย่าง เกือบหมดจาน เหลือนิดหน่อย พี่กู๋ก็หยิบทัพเปอร์แวร์เล็กๆมาใส่กับที่เหลือ คงเก็บไว้ให้ปีกัสโซ่ เวลา 3 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว นายบอนต้องรีบออกเดินทางแล้ว เพราะต้องเดินทางไกลไปที่อื่นต่อ พี่กู๋ขอตัวอาบน้ำก่อน จะรอได้่ไหม จะออกไปส่ง แต่เวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายโมงกว่าๆแล้ว เลยต้องสวัสดีร่ำลา แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า
บรรยากาศบริเวณบ้าน หรือ "รัง ของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า" ซึ่งเป็นภาพที่พี่แคท ถ่ายและนำไปเผยแพร่ลงใน facebook ซึ่งติดสติกเกอร์ไว้เป็นสัญลักษณ์ที่รั้วบ้าน บรรยากาศบริเวณบ้านร่มรื่นเพียงใด ดูเอาเอง
พี่แคท ต้องขับรถออกมาส่งอีกครั้ง ออกจากบ้าน ก็ชี้ให้ดูว่า บ้านฝั่งตรงข้ามหลังนี้ล่ะ เป็นบ้านของคนเสื้อแดง คนละขั้วกันเลย แต่ก็สามารถคุยกันไ้ด้ เพราะเป็นคนรักแมวเหมือนกัน เรืองการเมืองจะไม่คุยกัน ขับรถออกมาเรื่อยๆ ผ่านร้านของสัตวแพทย์รักษาสัตว์ พี่แคทก็รู้จักเจ้าของร้านดี แต่ดื่มเหล้า เมาบ่อย เคยคิดจะเอาแมวมาตรวจดูอาการ แต่หลายครั้งที่กลับเข้าบ้านดึก ผ่านร้านนี้ทีไร เห็นนั่งดื่ม นั่งเมากันบ่อยๆ เลยไม่กล้าเอาแมวมาฝาก กลัวจะดูแลไม่้ดี เลยเอาไปให้สัตวแพทย์ที่คลินิกอื่นที่อยู่ไกล ดูแลให้ดีกว่า แล้วพาขับมาทางเส้นที่จะผ่านร้านลุงหนวด บอกให้สังเกตดูบ้าน ร้านคาร์แคร์ และอีกหลายจุด ที่เดี๋ยวนี้ ติดธงในหลวง เปิดตัวว่า รักในหลวงแล้วนะ แต่ก่อนไม่ค่อยติดธงเปิดเผยแบบนี้ ไม่รู้ว่า แถวนี้ พี่แคทถ่ายรูปไปเผยแพร่ใน "เรารู้จัก เราชื่นชม" หมดทุกบ้านหรือยัง แต่่คิดว่า คงยัง เพราะขนาดวินมอเตอร์ไซต์ที่ถนนเข้าหมู่บ้าน บอกว่าจะถ่ายรูป ก็ยังไม่ได้ถ่ายซักที ใกล้เกลือกินด่าง ประมาณนั้น
พี่แคทขับรถมาโผล่ใกล้ๆทางลงสะพานพระนั่งเกล้า แ้ล้วแวะจอดส่งตรงสะพานลอยแรก ให้เดินข้ามไปขึ้นรถเมล์ต่อไปยังหมอชิต ได้ของฝาก ซึ่งมีหนังสือสามเล่มที่ฝากไปให้คุณลุงสุเวศน์ ที่จันทบุรีด้วย ส่งลงจากรถปุ๊บ พี่แคทก็ซิ่งรถจากไป พบกันใหม่โอกาสหน้า...
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
บันทึกการเดินทาง บุกรัง...กลุ่มดินรักษ์ฟ้า 8 พ.ค.2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บุกถ้ำเสือก็ จะเจอแม่เสือ เป็นธรรมมะดา
ตอบลบ"แหมม ระเอียดยิบ"
ตอบลบบุกรังเลยเหรอ คนเหรอนกเนี่ย
ตอบลบว๊าก.....
ตอบลบหวังว่าคงได้ พบกันในโอกาสต่อ ๆ ไป ตราบเท่าที่ "ดิน" ที่ "รักษ์" "ฟ้า" ของเรา ยังคงอยู่ในใจเช่นกัน.....เสมอ..
ตอบลบ