เมื่อได้มาร่วมงานแถลงข่าวการจัดงาน "หนึ่งคนยืนหยัด หนึ่งศตวรรษ เสม พริ้งพวงแก้ว" เมื่อ 24 พ.ค.2554 ที่อาคารสุขภาพแห่งชาติ กับคุณไก่ แมลงสาบ, คีตาญชลี, คุณหลุยส์, อ.ณรงค์, คุณพระอาทิตย์ หลังจากอาหารมื้อเที่ยง ก๋วยเตี๋ยวและของหวานที่ผู้จัดงานเตรียมไว้ให้ทานแล้ว ช่วงบ่าย คุณไก่ แมลงสาบก็ขับรถไปทำหนังสือเดินทางที่สำนักงานของกรมศุลกากรแถวแจ้งวัฒนะ-หลักสี่ เวลาผ่านไปราวชั่วโมงเศษ ก็ขับรถออกมา และโผล่ไปที่ดอนเมือง ไปที่บ้านพักของ ตั๊ก-โต่ย และ ติว ซึ่งเป็นย่านที่คุณพระอาทิตย์เติบโตมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ อยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมือง และบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ "ส.ส. เก่ง การุณ โหสกุล" สมัยเด็กๆ เป็นเพื่อนเล่นกันกับคุณพระอาทิตย์ แม้ปัจจุบัน หลายอย่างจะเปลี่ยนไปตามบทบาทหน้าที่ ซึ่งคุณพระอาทิตย์ ชี้ให้ดูบ้านฝั่งตรงข้ามที่เก่ง การุณ เคยอยู่ที่นั่น
เสร็จธุระจากบ้านโต่ย-ตั๊ก ก็ขับรถมาเรื่อยๆ โผล่มาทางจะไปสี่แยก วงเวียนบางเขน เลยแวะจอดรถที่ Food Center แห่งหนึ่ง ก่อนถึง ป.กุ้งเผา สั่งก๋วยเตี๋ยวมากิน ..แหม มื้อเที่ยงก็ก๋วยเตี๋ยว แล้วยังมาเจอก๋วยเตี๋ยวอีก แต่ก็อร่อยจริงๆ
16.45 น. ก็ถึงเวลาแยกย้าย คุณไก่ แวะจอดส่งนายบอนลงตรงสะพานลอยข้ามถนน แล้วร่ำลา กลับชลบุรี ส่วนนายบอนข้ามฝั่งมาขึ้นรถเมล์ จะไปยังสะพานควาย ขึ้นรถเมล์แล่นมาตามถนนวิภาวดี ช่วงเวลาเลิกงานพอดี ผู้โดยสารเบียดแน่นเต็มรถเมล์ ฝนเริ่มลงเม็ด จนรถแล่นมาถึงป้ายรถเมล์ที่จตุจักร ก็ลงจากรถ มาเจอฝนตกห่าใหญ่ เลยต้องยืืนหลบฝนที่ป้ายรถเมล์ เบียดผู้คนที่ยืนหลบฝนแถวนั้น ฝนก็ตกมาเรื่อยๆ กว่าครึ่งชั่วโมง เปียกแฉะ แม้จะรู้สึกเบื่อ แต่เมื่อมองไปรอบๆ สาวๆทั้งนั้น ที่มายืนหลบฝนข้างๆ เหลียวไปทางขวา แหม สาวออฟฟิศที่ยืนอยู่ น่ารักจริงๆ แม้จะมีหนุ่มยืนกางร่มบังฝนให้ แอบมองก็ยังเพลิน เหลียวมาอีกด้าน ก็สาวๆหลากหลาย แล้วก็มีสาวเดินตากฝนที่เริ่มซา ผ่านหน้าไป
ฝนตกหนักจริงๆ เลยลองโทรไปหาเพื่อนที่สะำพานควาย ซึ่งขอเลื่อนนัด เพราะเจอฝน รถติด ยังไ่ม่ได้ออกเดินทางกลับที่พัก รถติดมากๆ ไม่รู้จะได้เจอตอนไหน นายบอนเลยขึ้นรถเมล์ไปลงหมอชิต 2 เวลาตอนนั้น ปาเข้าไป 18.25 น.แล้ว
โทรไปหาลุงสุเ้วศน์ บอกว่า อยู่ทีจันทบุรีไม่ได้ไปไหน แวะมาได้เลย จึงขึ้นรถตู้ไปจันทบุรี ตรงทางออกรถเมล์ ขสมก.อยากไปถึงไว ถ้าดึกเกินไป คุณลุงก็ได้นอนดึกอีก แต่พอเดินไปถึงคิวรถตู้ คนขับที่นั่งอยู่บอกว่า รถตู้เที่ยวก่อนหน้าพึ่งออกไปไม่ถึง 5 นาทีนี่เอง คันนี้เป็นเที่ยวสุดท้าย ออกทุก 1 ชั่วโมง เลยจ่ายค่ารถตู้ไป 200 บาท คนขับเดินไปหยิบบัตรสะสมแต้มมาให้ เพราะนายบอนยังไม่มีบัตร เป็นการเดินทางด้วยรถตู้ครั้งแรก ถ้าเดินทางบ่อย มีบัตรสะสมแต้ม ก็เอาบัตรมาประทับตรา เดินทางครบ 10 ครั้ง ฟรี 1 ครั้ง
รถจะออกตอน 19.30 น. เลยต้องนั่งรอ มองดูเมฆฝนก้อนดำ ที่ลอยมา ดูท่าจะตกหนักแน่นอน ฝนตกใน กทม.ช่วงเย็นๆ แต่ช่วงกลางวัน ร้อนตับแตก นั่งรอไปเรื่อยๆ ก็มีสองสาว มารอขึ้นรถตู้กลับจันทบุรีเหมือนกัน รอๆๆๆๆ จนถึง 19.20 น. คนขับรถก็สตาร์ทเครื่อง บอกว่า ออกก่อนเวลาดีกว่า เพราะรถติดมากๆ จากคิวรถตู้ วิ่งออกมาทาง ถ.กำแพงเพชร เข้า ถ.พระราม 6 ฝนก็ตกมาเรื่อยๆ และรถติดมากจริงๆ
รถติดแช่นานหลายนาที คนขับก็คุยโทรศัพท์บอกว่า รถติดมากๆ ที่อนุสาวรีย์มีผู้โดยสารกี่คน พุดคุยสื่อสารกันไป เวลาผ่านไปใกล้ 2 ทุ่ม นั่งรอจนหงุดหงิด ท่าทางจะถึงจันทบุรีดึกกว่าที่คิด ตอนที่นายบอนโทรบอกคุณลุงบอกว่า คงจะถึงจันทบุรีราว 4 ทุ่ม ตอนนี้ 2 ทุ่มแ้ล้ว ดูท่าทางจะไปถึงดึกกว่านั้น
หลังจากรถค่อยๆขยับ มาจนถึงสี่แยกไฟแดง คนขับตัดสินใจ ขับรถผ่านสี่แยก ไฟแดงพอดี แต่ก็ตัดสินใจขับฝ่าไป แล้วมาขึ้นทางด่วนเพื่อไปลงตรงอนุสาวรีย์ เพราะโทรเช็คแล้ว รถติดมาก ถ้าไปเส้นทางเดิม กว่าจะถึงอนุสาวรีย์คงนานเป็นชั่วโมง จ่ายค่าผ่านทางด่วน รถก็แล่นมา ติดแหงกตรงทางลงอนุสาวรีย์เหมือนกัน เวลาเลย 20.00 น.ไปแล้ว กว่ารถจะลงจากทางด่วน กว่าจะยูเทิร์นแล้วมาติดไฟแดง กว่าจะผ่านอนุสาวรีย์วิ่งมาเข้าถนนซอยเล็กๆ สู่ภัตตาคารพงหลี บู๊ตทรูมูฟ ก็ปาเข้าไป 20.30 น.
มีผู้โดยสารขึ้นมาอีก 6 คน กว่าที่ีรถตู้จะโผล่ออกมาจากซอย แล้ววิ่งวนอนุสาวรีย์ วิ่งเข้าเส้นดินแดน มาจนถึงขึ้นทางด่วน ก็ปาเข้าไป 20.45 น.แล้ว คนขับรถตู้ ก็โทรบอกคนทางบ้านว่า ถึงไหนแล้ว คงกลับดึก เตรียมกับข้าวไว้ในตู้ละักัน พอขึ้นทางด่วน ก็เหยียบเต็มที่ ซิ่ง เหยียบ แซงๆๆๆ ติดไฟแดงสี่แยกไหน ก็ขับเข้ามาในช่องที่จะมาจอดแถวหน้า พอเขียวปุ๊บรถออกตัวได้ทันที พุ่งไปข้างหน้าขับเร็วได้ใจจริงๆ
21.40 น. รถมาจอดเติมแก๊ส NGV ที่ปั๊ม อ.บ้านบึง ชลบุรี นายบอนเลยโทรบอกคุณลุงว่า ถึงไหนแล้ว และคงจะถึงดึก คุณลุงก็บอกว่า ใกล้ถึงแล้ว โทรมาบอกละกัน พอเติม NGV เสร็จ คนขับก็บอกให้รีบขึ้นรถ แล้วนับจำนวนผู้โดยสาร พอครบแล้วก็บอกว่า รีบไปกันดีกว่า เสียเวลารถติดมามากแล้ว แล้วก็เหยียบซิ่ง ขับรถฝ่าฝนที่ตกลงมาตลอดทาง ขับเร็วมากๆ แม้ใจหนึ่งจะกลัวๆ ที่ขับเร็วแบบนี้ แต่ก็อยากให้ถึงที่หมายไวๆ ดูฝีมือการขับรถแล้ว ไว้ใจได้ ทั้งเหยียบ เร่ง เบรค แน่นอนจริงๆ
22.40 น. มาถึง อ.แกลง จ.ระยอง จอดส่งผู้โดยสารลงจากรถคนหนึ่ง แล้วก็เหยียบต่อ ช่วงหนึ่งขับมาถึงช่วงที่มีเลนกำลังราดยางใหม่ เลยวิ่งได้ช่องเลนเดียว รถคันหน้าวิ่งไปช้าๆ เพราะมีรถบรรทุกอยู่หน้าสุด พี่คนขับก็ขับช้าๆตามไปช่วงหนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจ หักเข้าเลนที่พึ่งราดยางใหม่ ทางยังไม่เรียบ รีบเหยียบๆๆๆ ขับแซง แล้วพุ่งไปข้างหน้า เร่งทำเวลาทันที ก่อนถึงตัวเมืองจันทบุรี ก็ัขับแซงรถทัวร์ ป.1 ของเชิดชัยทัวร์ หรือ พรนิภาทัวร์นี่แหละ ซึ่งออกจากหมอชิต ในช่วงเวลาใกล้ๆกับที่รถตู้ออก แต่รถทัวร์ ออกจากหมอชิต แล้วขึ้นทางด่วนออกจาก กทม.ทันที ไม่ต้องวิ่งมาอนุสาวรีย์ชัย เจอรถติด แต่รถตู้ก็วิ่งแซงรถทัวร์แบบไม่เห็นฝุ่น มาถึงจันทบุรี 23.10 น. จอดที่คิวรถตู้โลตัส จันทบุรี
แม้จะขับรถไว แต่คนขับอัธยาศัยดี พูดจาดีมาก เป็นกันเอง มีผู้โดยสาีรที่มาจันทบุรี ถามหาที่พัก พี่แกก็จอดที่หน้าโรงแรมที่พักคืนละ 200 บาท แนะนำข้อมูลที่จำเป็นให้ผู้โดยสารก่อนลงจากรถ แล้วก็มาส่งที่โลตัสจันทบุรี ก่อนที่จะรีบขับรถกลับบ้านทันที
ความจริงแล้ว ค่าโดยสารรถทัวร์ ป .1 กทม- จันทบุรี คือ 193 บาท นั่งสบาย กว้าวกว่า และมีน้ำ นม ขนม แจกให้ทานด้วย แต่ถ้าต้องการความเร็ว ก็ต้องนั่งรถตู้ รถตู้ NGV นี้ 200 บาท ถ้ารถตู้ของพรนิภา 150 กว่าบาท คุณภาพ และสภาพรถก็ตามราคานั่นแหละ
การได้เดินทางหลายแบบ นั่งรถหลายบริษัท หลายแนว ก็ได้อะไรใหม่ๆ ได้บรรยากาศ รสชาติใหม่ๆ ไม่ซ้ำซากจำเจ แม้ว่าจะเดินทางมาที่จุดหมายเดียวกัน จันทบุรีก็ตาม..
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
บันทึกการเดินทาง รถตู้ไปจันทบุรีเที่ยวสุดท้าย 24 พ.ค.2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น