ได้รับสติกเกอร์ "ดินรักษ์ฟ้า ปวงประชารักในหลวง" เลยนึกถึง คนที่อยากมอบให้ ทีแรกตั้งใจว่าจะส่งสติกเกอร์ไปให้ทางไปรษณีย์ แต่เมื่อมานึกดูอีกที เอาไปให้เองกับมือจะดีกว่า ยิ่งถ้าเป็นคนที่อยากพบเจอ อย่าง 2 น้องสาวคนโปรด การได้พบปะ พบเจอตัวเป็นๆ ให้ความรู้สึกที่ดีๆมากกว่า พบเจอแต่รูป และตัวหนังสือผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเทียบไม่ได้
นึกถึงน้องคนแรก "น้องแนน" ปุณรดา ซึ่งรู้จักน้องแนนมานานแล้ว เพราะเธอเข้ามาอ่านบันทึกสมัยที่เขียนใน mblog แล้วติดตามอ่านเรื่อยมาตามโอกาสและเวลาจะอำนวย ถามไถ่จึงรู้ว่า อยู่ที่ร้อยเอ็ดนี่เอง เมื่อพูดคุยติดต่อกันแล้ว ถูกชะตาทันที เลยแวะไปเยี่ยมถึงร้อยเอ็ด และกลายเป็นพี่น้องกันมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
แต่ก่อน แนน มีปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกาย ต้องทนทุกทรมานอยู่นานหลายปีพอสมควร แม้ร่างกายไม่แข็งแรง แต่เมื่อเป็นคนคิดบวก และชอบยิ้ม จึงสามารถผ่านพ้นวันเวลาอันเลวร้ายมาได้ทั้งเรื่องสุขภาพ เรื่องงาน เรื่องของคนที่คิดต่างทางการเืมือง วันนี้ แนนเ็ป็นคุณครูที่เริ่มทำงานที่ ต.วังชัย อ.น้ำพอง จ.ร้อยเอ็ด
เจอแนนครั้งล่าสุด ตั้งเกือบ 1 ปี หรือ ปีครึ่งแล้ว ทั้งที่อยู่จังหวัดใกล้กันแค่นี้เอง วันที่ 15 พ.ค. เลยรีบไปเจอ เพราะแนนไปทำงานเป็นครูที่ขอนแก่น วันเสาร์ต่อไป คือ 21 พ.ค. เป็นวันเกิดของแนน ไม่รู้ว่าจะกลับร้อยเอ็ดหรือเปล่า เพราะช่วงเปิดเทอม งานคงเยอะแน่นอน เลยรีบไปหาซะเลย ที่โลตัสร้อยเอ็ด
พอได้เจอสักที ก็ดีใจมากๆ นั่งคุยกันสักพักใหญ่ แนนก็เอามือถือของแม่ไปให้ร้านซ่อมดู สายชาร์ทแบตมันหลวม และตัดสินใจซื้อสายอันใหม่ แล้วก็เดินดูของ ดูเสื้อผ้า ที่สวยๆทั้งนั้น หาซื้อรองเท้าไปใส่ในห้องเรียน สักพักก็ขับรถพาไปตลาดยิ่งเจริญ แนนไปเดินชอปปิ้งรองเท้า กระเป๋า เห็นเลือกอย่างคล่องแคล่ว เลืิอกได้รองเท้าคู่น่ารักทั้งนั้น แนนให้ช่วยดูสี ว่าจะเอาสีไหน นายบอนดูบุคลิกแล้วก็ชี้เอาอันที่เข้ากับบุคลิกของแนน แป๊บเดียว เพลินมากๆ บ่าย2 แล้ว แนนต้องไปธุระต่อ เลยมาส่งที่ ขบส. แต่ก่อนออกจากตลาดยิ่งเจริญ เลยให้เอาสติกเกอร์มาติด จะได้ถ่ายรูป เลยถ่ายไว้ 2 มุม ดังภาพที่เห็น
มาถึงวันวิสาขบูชา ได้นัดเจอ น้องต่าย ซึ่งเ็ป็นภรรยาของเพื่อน เริ่มจากรู้จักใน facebook ที่จริงก็รู้จักกันมานานแล้ว เพราะต่ายจะรู้จักเพื่อนของสามีเกือบทุกคน แต่ไม่ค่อยเจอนายบอนสักที ครั้งนี้เลยได้เจอเป็นครั้งแรก
น้องต่าย ก็มีปัญหาชีวิต คือ เรื่องครอบครัว ซึ่งถือว่าหนัก กระทบความรู้สึกมากพอสมควร แต่วันเวลาที่ผ่านไป ทำให้ต่ายคิดได้ และตัดสินใจทางชีวิตของตัวเองไว้แล้ว ถือว่า ผ่านความทุกข์ ค้นพบสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆแล้ว แม้บางเวลา อาจจะปรี๊ดบ้างก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องปกติของคนที่เจอปัญหาชีวิตแบบนี้ ที่ต้องรู้สึกแย่ อยากเคลียร์ปัญหาบ้าง
นัดเจอกันที่กาฬสินธุ์พลาซ่าสาขา 2 ตอนเที่ยง ทั้งที่เจอกันตัวเ็ป็นๆครั้งแรก แต่เหมือนคุ้นเคยกันมานาน พอนั่งคุยกันที่ Hotpot ต่าย ก็คุยๆๆๆๆ เรื่องคาใจ ปัญหาชีวิต ทีแรกที่เริ่มคุย หน้าตาดูเครียดๆ แบกปัญหา แบกโลกไว้ในหัวอยู่ตลอด แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงอย่างรวดเร็ว เมื่อต่ายได้ระบายความรู้สึก พูดคุยเรื่อยๆ หน้าตาสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่เคยแบกไว้ ถูกวางลงทันที เดินอย่างสดชื่นแจ่มใส ไปที่รถ แล้วก็เอาสติกเกอร์ของดินรักษ์ฟ้่าไปติดที่หลังรถ
เป็นคนที่สู้ ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตาของชีวิตที่ไม่ดี เพราะชีวิตของเรา เรากำหนดเส้นทางเดินได้
น้องต่าย เรียนปริญญาโท ที่ ม.ราชภัฏมหาสารคาม ใกล้จะจบแล้ว แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มีค่าไม่แพ้กัน น้องต่ายได้ปริญญาแห่งชีวิต จากวันเวลาที่ผ่านมา คิดอะไรได้หลายอย่าง ได้แต่หวังว่า เื่พื่อนที่เป็นสามี จะคิดอะไรดีๆได้อย่างต่ายมั่ง
เวลา 2 ชั่วโมงทั้งที่ร้อยเอ็ด และที่กาฬสินธุ์พลาซ่า ไวมากๆ ต่อไปคงต้องหาวันที่จะมาเจอ 2 สาวนี่อีกครั้งแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกัน ...
วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
พบกับ 2 น้องสาวคนโปรด 2 รสชาิติแห่งชีวิต กลาง พ.ค.2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น