ภาพวิดีโอน้ำท่วมที่ศาลายา และอีกหลายที่ ทำให้หลายคน เริ่มคุ้นเคย เพราะเปิดทีวีเห็นแต่ข่าวน้ำท่วมมาหลายวันแล้ว แต่หลายคนที่มีรถยนต์ ช่วงนี้คงจะเครียดกันพอสมควร
สารพัดความกังวลเรื่องรถ จะหาที่จอดที่ไหน ถ้าเจอน้ำท่วม จะดูแลรถยังไง ไหนจะเรื่องทรัพย์สินภายในบ้านอีกหลายอย่าง แต่เรื่องรถ หลายคนเป็นห่วงเหมือนกัน เมื่อน้ำเอ่อท่วม หลายคนมองหาสถานที่จอดรถ สถานที่หนึ่งที่เล็งไว้เป็นอันดับแรกๆ อยู่ใกล้ๆ และให้จอดฟรี
หลายคนจึงเอารถไปจอดในที่สูง ที่ไหนดีล่ะ หลายคนตัดสินใจเอารถไปจอดบนทางด่วน ขอแค่1 ช่องทางให้รถของตัวเองรอดจากน้ำท่วมก็พอแล้ว
แต่นั่นทำให้เกิดปัญหาในการเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วม เพราะการไปจอดรถบนสะพาน หรือบนทางด่วน ทำให้การลำเลียงถุงยังชีพ และความช่วยเหลือต่างๆ ทำให้ ล่าช้ากว่าเดิม อย่างเช่นกรณีที่ชาวพระนครศรีอยุธยานำรถยนต์ไปจอดหนีน้ำบนสะพานปรีดีธำรงค์ แทบจะเต็มทุกช่องทาง ส่งผลให้รถที่ลำเลียงถุงยังชีพ เรือ และความช่วยเหลือต่าง ๆ ไม่สามารถเข้าไปยังจุดที่ต้องการได้ เพราะมีรถยนต์กีดขวาง สุดท้ายแล้ว ทางการจึงต้องสั่งยกรถลงจากสะพานปรีดีธำรงค์ไปจอดไว้ที่อื่นแทน เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าไปถึงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันไม่ให้สะพานพังลงมา เพราะแบกรับน้ำหนักที่มากเกินไปเป็นเวลานานนั่นเอง
ถ้าติดตามข่าว จะมีประกาศแจ้งข่าวถึงสถานที่ที่ให้จอดรถได้ ติดตามข่าวเรื่อยๆ แล้วเอารถไปจอดในสถานที่ที่จัดไว้ให้
รายละเอียดของข่าวที่ฝากมา
-------------
สำหรับผู้ประสบอุทกภัยที่ต้องการนำรถไปจอด สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์ประสานงานการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของ กทพ. โทร. 1543 (EXAT Call Center) ตลอด 24 ชั่วโมง
เช่นเดียวกับบนสะพานข้ามแยก สะพานกลับรถเกือกม้า ที่มีผู้นำรถยนต์ไปจอดเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ตำรวจจราจรนครบาลออกประกาศห้ามจอดรถ บริเวณทางด่วนพิเศษฯ ทางยกระดับ จุดกลับรถ สะพานข้ามแยก สะพานข้ามแม่น้ำ สะพานข้ามคลอง สะพานกลับรถ ทั้งหมดแล้ว เนื่องจากเป็นการกีดขวางเส้นทางการจราจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมจุดจอดรถฉุกเฉินไว้ให้จำนวน 109 จุด รองรับรถได้ 69,959 คัน สามารถตรวจสอบได้ที่ trafficpolice.go.th หรือ โทร.1197
ขณะเดียวกัน ยังมีจุดอื่น ๆ ที่ไม่ควรนำรถยนต์ไปจอด ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าโรงพยาบาล หน้าสถานีดับเพลิง หรือบริเวณท่อสูบน้ำดับเพลิง เป็นต้น เพื่อที่ว่าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้น รถยนต์จะได้ไม่กีดขวางเส้นทางจราจรที่จะทำให้การช่วยเหลือเข้าไปถึงอย่างล่าช้าจนไม่ทันการนั่นเอง
ทราบแล้วกระจายข่าวบอกต่อกันด้วยค่ะ เพราะหากเกิดเหตุการณ์วิกฤตขึ้นมาจริง ๆ อย่างน้อย...ก็อย่าให้รถของคุณ ไปสร้างความเดือดร้อนเพิ่มเติมให้กับคนที่กำลังรอรับความช่วยเหลือจริง ๆ เลยนะคะ
-------------
** อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ การเอารถไปจอดไว้ในโรงพยาบาล อันนี้ก็ไม่ควรทำเหมือนกัน เพราะจะทำให้ เจ้าหน้าที่และคนไข้เดือดร้อนกันมากขึ้น เพราะการเข้าออกไม่สะดวกยิ่งกว่าเดิม
น้ำท่วม หลายคนเดือดร้อนกันทั่วหน้า คิดถึงใจเขาใจเรากันบ้างนะครับ
ดูภาพข่าวน้ำท่วมเมืองไทย ในเวบไซต์ของต่างประเทศ
http://www.theatlantic.com/infocus/2011/10/worst-flooding-in-decades-swamps-thailand/100168/
เรื่องน่าอ่าน [ที่เห็นและเป็นอยู่] มูลค่าของความหวัง
วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554
เรื่องน่ารู้กับการหาที่จอดรถยนต์ เมื่ออยู่ในสถานการณ์น้ำท่วม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น