หลายวันกับการเดินทางเพื่อค้นคน ค้นใจ และค้นความหมายของชีวิตหลายอย่างตั้งแต่ต้นสัปดาห์จนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ มีถ้อยคำประโยคหนึ่งที่โดนใจ กล่าวว่า
"การเดินทางนอกจากเป็นการเรียนรู้โลกกว้างและผู้คนรายทางแล้ว การเดินทางแต่ละครั้งยังเป็นการเรียนรู้เรื่องราวภายในใจของตัวเองด้วย"
หลังจากร่วมเดินทางกับเพื่อนร่วมทาง และสิ้นสุดการเดินทางกว่า 96 ชั่วโมง ส่งเพื่อนร่วมทางที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตอนบ่ายโมงยี่สิบนาที ใน กทม.แล้ว ก็เดินมาขึ้นรถ ปอ.สาย 509 มาลงที่หมอชิตใหม่ มาถึงเกือบ 14.00 น. รีบไปหาซื้อตั๋วกลับบ้าน ได้รถเที่ยว 15.00 น. รถ.ป.2 เบอร์ 26-1794 แต่เป็นรถ 2 ชั้น มาตรฐาน ม.4 (ค) กว้าง ใหม่ นั่งสบายเหมือนรถ ป.1 เพียงแต่ไม่มีห้องน้ำ และไม่มีบริการอาหารเสริม และอื่นๆเหมือน ป.1 เท่านั้น เดินไปที่เคาเตอร์ซื้อตั๋ว คนขายให้เลือกที่นั่งมีที่นั่งว่างหลายที่ อยากจะเลือกเบาะหน้าสุด จะได้ชมวิวสองข้างทาง แต่สุดท้าย ก็เลือกแถวกลางๆ ที่นั่ง D6 ติดทางเดิน เพราะจะได้เหยียบขาได้เต็มที่ ไม่ติดที่นั่งเบาะหน้าที่เอนเบาะลงมา และที่สำคัญ ตอนลงจากรถยามดึก ก็ลุกจากเบาะได้ทันที ไม่ต้องปลุกคนที่นั่งเบาะข้างๆ ให้ตื่นขึ้นมาอย่างเสียอารมณ์ในการหลับ
นั่งรอรถออก เลยมาหาข้าวกิน เป็นข้าวราดแกงตามเคย กับข้าวที่หมอชิตชั้นสอง ค่อนข้างจะมันเยิ้ม แต่ก็กินรองท้องไปก่อน 14.45 น. ก็เดินไปขึ้นรถ เบาะนั่ง D6 มีสาวนั่งอยู่แล้ว และขอนั่งกับเพื่อนของเธอ คนตรวจตั๋วเลยให้นายบอนไปนั่งเบาะ E5 ซึ่งที่เบาะ D5 มีคุณลุงท่านหนึ่งนั่งอยู่ นายบอนเลยให้ท่านย้ายเข้าไปนั่งที่ติดหน้าต่าง แล้วนั่งเบาะ D5 แทนซึ่งคุณลุงท่านมากับคุณป้าและหลานอีก 2 คน ซึ่งนั่งเบาะ ฝั่งตรงข้าม จะนั่งรถไปลงที่ บ.คำเพิ่ม จ.สกลนคร คุณลุงบอกว่า พึ่งเคยนั่งรถของ บขส. เที่ยวนี้เป็นครั้งแรก แต่ก่อนนั่งรถบริษัท แสงประทีปบ่อยๆ ซึ่งในช่วงเทศกาล จะเจอรถของบริษัทนั้น มักจะยัดคนมานั่ง จากเบาะที่นั่ง 2 คน ก็ยัดให้นั่งสามคน
คนขับรถเอาลูกสาววัย 5-6 ขวบมาด้วย เห็นวิ่งซุกซนไปทั่วรถ พอวิ่งมาหลานสาวของลุงที่นั่งใกล้นายบอน ก็ แลบลิ้นทักทายเพื่อนวัยเดียวกัน รถออกตอน 15.05 น.รถไม่ค่อยติด มาถึงสถานีขนส่งย่อยรังสิตตอน 15.45 น. แวะรับผู้โดยสารแล้ววิ่งต่อไป นั่งรถผ่านนวนคร เพื่อนร่วมทางที่ไปส่งที่อนุสาวรีย์ ้โทรมาบอกว่า กลับถึงบ้านแล้ว แต่เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย เมื่อลงจากรถตู้ ช่วงที่ขนกระเป๋า 4 ใบลงจากรถ ประตูรถตู้เลื่อนมากระแทกหัวตรงยางรัดผมพอดี เป็นแผลที่บริเวณนั้น เลือดออกนิดๆ พอถึงบ้านก็นั่งมึน ทำอะไรไม่ถูก นั่งฟังเพลง รอเวลา 17.00 น. เพื่อจะออกไปงานเลี้ยงของครอบครัว
รถวิ่งมาเรื่อยๆ จนเข้า บขส.สระบุรี ตอน 16.30 น.คนขับรถเปิดไมค์พูดบอกผู้โดยสารว่า จะแวะเซ็นเวลา 2 นาที อย่าพึ่งลงจากรถ เดี๋ยวถึงมวกเหล็กจะแวะให้เข้าห้องน้ำ ถึงมวกเหล็กตอน 17.20 น. จอด 10 นาที มีสาวคนหนึ่งขึ้นรถที่มวกเหล็ก จะไปลงที่ อ.สมเด็จ กาฬสินธุ์ คนขับก็พามานั่งที่เบาะที่ว่าง แต่ต้องมาซื้อตั๋วที่ ร้านอาหาร 199 จุดจอดพักรถทัวร์ที่ อ.สีคิ้ว จ.โคราช ถึงกับประกาศให้ผู้โดยสารคนนั้นมาซื้อตั๋วโดยสารกันเลย ตามระเบียบของ บขส. (นึกว่าซื้อตั๋วที่ มวกเหล็กซะอีก) รถวิ่งมาถึง ร้าน 199 เวลา 18.15 น. คนขับก็จะเปิดเสียงไมค์อีก แต่พลาด เสียงแสบแก้วหู เสียงวิทยุดังแทนหลายครั้ง จนผู้โดยสารลงจากรถแล้ว จึงพูดไมค์บอก จะจอดพักรับประทานอาหาร 30 นาที
มาถึงก็ไปซื้อคูปองทานอาหาร 35 บาท ที่ทำเป็นกระดาษเคลือบสีเหลือง สั่งข้าวมันไก่มาทาน นั่งรถมาเที่ยวก่อน นั่งรถ ป.1 แต่อาหารที่มีให้ทาน ก็แค่ก๋วยเตี๋ยว และกับข้าว+ข้ามต้มที่มีกับให้คีบทานไม่กี่อย่าง กินแล้วไม่อิ่มเท่าไหร่ 19.20 น. รถวิ่งถึง บขส.โคราช รถไม่ติดจึงมาถึงที่นี่ไว 21.20 น. วิ่งถึงเมืองพล 21.45 น. ถึง บขส.บ้านไผ่ 22.44 น. ถึง หน้า รพ.มหาสารคาม 23.00 น. มาแวะจอดที่ ปั้ม ปตท. ก่อนถึงท่าขอนยาง ให้ผู้โดยสารเข้าห้องน้ำ เพราะต้องวิ่งอีกหลายชั่วโมง ก่อนถึงนครพนม มีสาวไทย แฟนฝรั่งคนหนึ่ง นั่งเบาะด้านหน้า ลงไปซื้อเบียร์ ทำเอาแฟนสาวคนไทย โห่ ที่แฟนเอาแต่กินเบียร์ ตอนขึ้นไปบนรถ สักครู่ แฟนฝรั่ง ก็เอากาแฟกระป๋องมายื่นให้คนขับรถ คนขับก็เลยพูด thank you พร้อมจับมือเช็คแฮนด์ 23.11 น. ก็ขับรถออกจากปั้ม วิ่งมาถึง หน้า บขส.กาฬสินธุ์ตอน 23.45 น. ได้กลับมาถึงกาฬสินธุ์ก่อน 6 ทุ่ม รีบส่ง SMS บอกเพื่อนร่วมทาง ที่กลับมาจากงานเลี้ยงแล้ว กำลังลงรูปถ่ายใน facebook อยู่ มีคนขอเบอร์ซะด้วย
วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554
บันทึกการเดินทางจาก กทม.- กาฬสินธุ์ 2 ต.ค.2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น