วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ตัวเสี้ยม-อีปลวก และการผูกขาดการเป็น พธม.!!

         "ใครกันแน่ที่.....ทำให้พันธมิตรแตกแยก 
           ใครกันแน่ที่.....ลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องให้เข้ามา
           ใครกันแน่ที่.....ที่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ให้เป็นเรื่อง
           ความดัดจริต ตอแหล มักจะนำความฉิบหายและหายนะ มาสู่กลุ่มตน"


          ข้อความจากใจที่ตรงไปตรงมาอย่างนี้ ทำให้หลายคนที่ไม่รู้เรื่องราวถึงกับสะอึกขึ้นมาทันที ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ เป็นเรื่องปกติที่หลายคนที่ติดต่อสื่อสารกัน มักจะมีความคิดที่ต่างกันบ้าง แล้วก็เคลียร์กันได้ มีหลายเรื่องที่ขัดแย้งกัน แต่เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี แต่ดูเหมือนว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น มันไม่ใช่อย่างนั้น

           จากเรื่องที่ขัดแย้งกันในกลุ่มเล็กๆ ดูเหมือนจะเกิดความแตกแยกกันมากขึ้น แม้กระทั่งคนที่เห็นทางหน้าจอ ASTV อยู่บ่อยๆ ยังถูกลากเข้าสู่เกมนี้ด้วย





             ไม่น่าเชื่อว่า คนที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันมา ผ่านสถานการณ์วิกฤติมาหลายครั้ง วันนี้ ต้องมาแตกแยกกัน มีคนบอกว่า อุดมการณ์หายไป อุดมกิน เข้ามาแทนที่ พร้อมกับคำใหม่ที่โผล่เข้ามาให้ได้ยิน เหตุที่หลายคนต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะมี "ตัวเสี้ยม" อยู่เบื้องหลัง

         มีพรรคพวกหลายคนให้ความหมายของ "เสี้ยม" ไว้ เช่น

Numo Cybe - เสี้ยมเป็นทั้งนาม สรรพนาม กริยา วิเศษ คุณศัพท์ แต่เป็น กรรม มากสุด
Nui LovetheKing - วจีกรรม ทำให้คนตายได้ ตายทั้งเป็น ... พูดให้ดีก็ได้ ให้เสียก็เป็น
ผู้ชายอบอุ่น ที่สุดในโลก รักในหลวง - มันคือเศษไม้เล็ก ๆที่ตำเท้าเวลาเราเดิน


         นกสองหัว Thai-English Lexitron Dictionary 2.0 ของ อธิบาย:
N. double eagle
def:[คนที่แสดงตนว่าเป็นพวกของฝ่ายนั้นๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้น โดยที่แต่ละพวกนั้นเป็นศัตรูกัน]


          ** . ทุกกลุ่มมีตัวเสี้ยมหมด ไม่ว่าจะในกลุ่ม พธม ปชป หลากสี เพราะตัวเสี้ยมนั้นไม่หวังดีกะใคร ในบ้านพี่ตี๋น้อยเองก็เช่นกัน ... คำว่าเสี้ยม ก็คือพฤติกรรมที่คนๆนั้น มายุแยงตะแคงรั่ว ให้กลุ่มนั้น ทะเลาะกลุ่มนี้ เข้าใจกันผิด และมีปัญหากันในที่สุด ซึ่งตัวเสี้ยมนี้ ถ้าทำความเข้าใจ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน มันก็มีทั้งดีและเสีย ของแบบนี้ขึ้นอยู่ที่วิจารณญาณแต่ละคน ว่าจะเชื่อดีหรือไม่ หูหนักพอรึป่าว เป็นกลางพอรึยัง ... ถ้าคิดชั่งใจตนได้ คำว่าตัวเสี้ยม ก็ไม่มีผลอะไรกับเรา

       มีคนยกคำพูดนี้มาย้ำเตือนเสมอว่า  "มารไม่มี บารมีไม่เกิด.."

         แต่คนที่กำลังเจอกับตัวเสี้ยม รีบบอกกลับมาทันทีว่า

        "ตัวเสี้ยมเข้ามา พี่ป้าน้าอามารุมจัดหนักกันเถิด"


        เหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากการสื่อสาร พูดคุยกันทาง facebook ช่องทางสื่อสารที่น่าจะทำให้พี่น้องได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น
เมื่อความขัดแย้งเล็กๆ เริ่มขยายวงไปเรื่อยๆ จากเรื่องค้างคาใจ ถูกลากโยงไปยังเรื่องอื่นๆอย่างแยบยล จากเพจหนึ่ง ไปสู่เพจหนึ่ง แล้วกลับลุกลามมาเป็นเรื่องเงินบริจาค จากกลุ่มใหญ่ ถูกโยงมายังกลุ่มเล็กๆ กับการตอกย้ำเรื่องความโปร่งใส จนเรื่องทำท่าจะวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม





          ช่องทางสื่อสารที่น่าจะทำให้พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกัน แต่ทว่า กลับทำให้ใครบางคน ทำให้คนหลายกลุ่ม แตกแยกกันมากขึ้น ถึงขั้น แบ่งเขา แบ่งเรา แล้วก็มีใครคนหนึ่ง ชี้นิ้วบอกว่า คนไหนเป็น พธม. คนไหน ไม่ใช่ จนมีคนมาถามว่า แล้วเราจะต้องลงทะเบียนเพื่อการเป็น พธม.หรือเปล่า เราจะต้องมีบัตรสมาชิก เพื่อแสดงตนเหมือน นปช.มั้ย?

        2 ปีที่ผ่านมา เมื่อถามหลายคนว่า คุณสีไหน หลายคนพูดเสียงดังฟังชัดว่า "สีเหลือง"
แต่วันนี้ กลับบอกว่า "ไม่ใช่สีเหลืองนะ แต่อยู่สีเดียวกับคนที่รักในหลวง"

         "อ้าว ทำไมไม่เป็นสีเหลืองแล้วล่ะ"

        "แต่ก่อนที่เป็นสีเหลือง หรือ พธม เพราะเลือกอยู่ข้างความถูกต้อง ความยุติธรรม แต่วันนี้ มันไม่ใช่แบบนั้น
      เราไม่ต้องเป็นสีเหลืองเหมือนกับคนบางกลุ่มก็ได้ แต่เรารักความถูกต้อง ความยุติธรรมอยู่นะ"


           เหตุการณ์น้ำท่วมช่วงนี้ คนไทยต่างรินน้ำใจ นำสิ่งของมาบริจาคกันมากมาย ที่ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ มีกลุ่ม ชมรมของ นปช. สวมเสื้อแดง นำสิ่งของมาบริจาคกันอย่างพร้อมเพรียง แล้วก็เหลือบไปเห็น คนที่เคยเป็นแกนนำ พธม.ของจังหวัด นั่งคอยรับสิ่งของ เช็คสิ่งของในสถานที่รับบริจาคด้วย เลยไปถามว่า ไม่ชักชวน พี่น้อง พธม.ของจังหวัดเรามาบริจาคสิ่งของช่วยน้ำท่วมบ้างหรือ เขาตอบว่า ขอช่วยน้ำท่วมเป็นการส่วนตัวดีกว่า ในจังหวัดก็แตกแยกแบ่งฝ่ายกัน เกิดความรู้สึกว่า ไม่มีความภูมิใจในการเป็น พธม.เหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ก่อน มีเรื่องคาใจกัน ยังเคลียร์กันได้ แต่ตอนนี้เป็นอะไรกันก้ไม่รู้ เคลียร์กันไม่ได้ มันจะเป็นจะตายกันรึยังไง

           แม้แต่ในต่างจังหวัด ก็ยังมีตัวเสี้ยมเหมือนกัน ไม่ต่างจากใน facebook


           กลับมาที่ facebook อีกครั้ง ความขัดแย้งที่มีตัวเสี้ยม และอีปลวก เข้ามาทำงานจนปั่นป่วนวุ่นวายไปหมด จากเรื่องเล็กๆ จนเกิดเรื่องราวมากมาย ลุกลามไปเรื่อยๆ แล้วเราก็ได้เห็นหลายคนที่คุ้นๆหน้า โผล่หน้าทางทีวีอยู่บ่อยๆ พยายามเข้ามาแก้ไขปัญหาตามความคิดของพวกเขา แทนที่จะได้รับความบุติธรรมอย่างที่คาดหวัง แต่กลับตรงกันข้าม จนมีเสียงสะท้อนมาว่า


นี่หรือคือวิธีการแก้ปัญหาของคนที่จะไปเป็นแกนนำมวลชน..ในการต่อสู้และตรวจสอบรัฐบาล
วิธีการแยกปลาออกจากน้ำ..ด้วยการโยนความผิดไปยังคนที่เขามาบอกว่ามีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น

ว่าเป็นแค่คนไม่มีตัวตน " เพื่อดิสเครดิต " คำพูดเขา..
โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่เขานำมาบอกกล่าวมันมีประเด็นที่ควรแก้ไขอย่างไร

คุณทราบเรื่องนักรบศรีวิชัยที่ชื่อ ส..... มาวางก้ามเบ่งใส่ พธม. ด้วยกัน
คุณทราบเรื่องการ " เจตนา " ยกพวกไปเจอเพื่อข่มขู่คนอื่นในร้านอาหาร
คุณทราบเรื่องการรุมยำบทความวิจารณ์หนังแบบหาเรื่องด่า...
คุณทราบเรื่อง อ.... ตั้งใจให้มีการทะเลาะกันหน้าเพจของกลุ่มตัวเอง (แล้วคิดจะไปเคลียร์ทีหลัง)
คุณทราบเรื่อง อ.... ด่ามวลชนที่เคยร่วมบริจาคและร่วมต่อสู้กันมาว่าเป็นพวกไม่มีหัวนอนปลายตีน
พวกคุณรู้ ......

แต่สิ่งที่คุณสนใจและเดือดร้อน..
กลับเป็นเรื่องเงินบริจาคที่มีการนำมาให้ดูในช่องโหว่ของบัญชีตัวเลข..



ฯลฯ


          ถ้าจะไล่เรียงเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็สามารถที่จะหาหลักฐาน ข้อมูลทั้งหมด เพื่อความชัดเจนได้

          ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย หากเรื่องราวทั้งหมด แบ่งเป็นตอนๆ ได้ 10 ตอนคือ

   ตอนที่ 1 - ตอนที่ 2 - ตอนที่ 3 - ตอนที่ 4 - ตอนที่ 5 - ตอนที่ 6 - ตอนที่ 7 - ตอนที่ 8 - ตอนที่ 9 - ตอนที่ 10

          ดูเหมือนว่า ตัวเสี้ยม จะหยิบแค่ตอนที่ 6-7-8 เอามาตีความขยายผล แล้วชี้บอกว่า อีกกลุ่ม ทำผิด เป็นคนไม่ดี ใครได้ยินได้ฟัง และดูข้อมูลเฉพาะตอนที่6-7-8 ก็จะเชื่อคำพูดของตัวเสี้ยม แล้วตัดสิน และทำไปตามสิ่งที่รับรู้

        แต่ความจริงแล้ว หลายคนติดตามอ่านข้อมูลได้ครบทั้ง 10 ตอน และเข้าใจสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อเห็นการตัดสินใจ คำพูดของแกนนำมวลชนที่แสดงออกมา จนมีเสียงหนึ่งสะท้อนความรู้สึกผิดหวังออกมาว่า


"....ท่าน.....รู้ไหมครับ พวกผมก็เสียดายความรู้ของท่านเหมือนกัน
พ่อผมบอกผมไว้อย่างนึงที่น่าจำมากเพราะเป็นเรื่องจริงทีเห็นได้คือ
"เจ้านายที่ฉลาดจะไม่ใส่ใจหรือให้ความสำคัญกับพวกสอพลอ(เลีย)"
ถ้าท่าน.........ต้องการทราบความจริง ผมนี่แหละที่อยู่ในเหตุการณ์
ตังแต่เริ่มนับหนึ่งของความขัดแย้ง ป้ายขี้ให้ใครบางคน จนถึงวันนี้
อีพวกหน้าด้านมันยังไม่ยอมรับผิด แต่ยังเสี้ยมคนไปทั่ว จนเหตุการณ์
ลุกลามใหญ่โตจนทุกวันนี้...."


          ในระหว่างการสื่อสาร การปะทะกันทาง facebook ต่างฝ่ายต่างจับหน้าจอ คำพูด คำวิจารณ์ไว้เป็นหลักฐาน แล้วเอาไปให้อีกกลุ่มเห็น แล้วขยายความขัดแย้งให้มากขึ้น
ต่างฝ่ายต่างเก็บหลักฐานไปเรื่อยๆ เมื่อหลักฐานหลายเรื่อง เริ่มแสดงความจริงออกมา ทำให้ใครบางคน เริ่มเปิดประเด็นใหม่


        "แถลงการณ์ ของ.....สรุปว่า อ........จะปรึกษาทนาย......เพื่อฟ้องร้อง บุคคล หลายคนในเพจนี้ เพื่อไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง"

       แหม กำลังลุกลามกลายเป็นคดีความไปแล้ว   เลยลองไปถามน้องที่เป็นทนายความว่า เรื่องแบบนี้ มันจะเป็นยังไงต่อไป

          ".......เวลาที่จะทำคดีความ ก็จะต้องสืบสวนข้อมูลให้ครอบคลุมทั้งหมด ที่มาที่ไปของเหตุการณ์ เริ่มต้นจากตรงไหนยังไง ทุกๆเรื่อง ใครพูดยังไง มีเจตนายังไง ดูจากหลักฐานทั้งหมด จากทั้งสองฝ่าย ดูว่าสมเหตสมผลหรือเปล่า ก่อนที่จะเป็นคดีความ ไม่ใช่ง่ายๆเหมือนกัน ถ้าเสี้ยมๆแบบนี้ ตัวเสี้ยมไม่กลัวความจริงจะถูกเปิดเผยเหรอ ในเมื่ออีกฝ่ายเก็บหลักฐานไว้ทุกอย่าง จะต้องชี้แจงทุกประเด็นด้วย แล้วมันจะเข้าตัวหรือเปล่าล่ะ แล้วจริงๆ ใครจะเสียหายกันแน่"

         เหมือนกับที่ว่า เรื่องราวทั้งหมด ถ้าแบ่งเป็น 10 ตอน เวลาสืบสวนหาข้อมูลทำคดี ก็ต้องสืบสวนทั้ง 10 ตอน
ไม่ใช่แค่บางตอนตามที่ใครบางคนเอามาฟ้อง หรือต้องการฟ้องเท่านั้น เพราะลักษณะของเหตุการณ์มันเชื่อมโยงกันหมด

       ที่จะเสียหายหนัก ก็เรื่องที่ถูกโยงเข้าไปถึงเรื่องตัวเลขในบัญชีเงินบริจาคจากเว็บไทยเดย์นั่นแหละ เมื่อสื่อมวลชนค่ายอื่นจะเล่นข่าว ก็ต้องเล่นประเด็นนี้ เรียกว่า ฟ้องคดี เพื่อฆ่าตัวตาย ตายทั้งกลุ่ม ตายกันทั้งสี!!!

      แล้วตัวเสี้ยม .. อีปลวกนี่ มันรับงานจากคนนอกมาทำลายสีเหลืองรึเปล่านะ ??

      นั่นสิ น่าสงสัยเหมือนกันนะ

"....แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน..."



มาถึงตอนนี้ หลายคนก็รู้แล้วว่า ใครคือ อีปลวก ใครเป็นตัวเสี้ยม.....
...หลายคนกำลังรอที่จะจัดหนัก ให้อีปลวก อย่างเต็มที่!!!

มอบเพลงนี้ให้ตัวเสี้ยม ให้อีปลวกฟังเป็นข้อคิดละกัน

Related Posts by Categories



Widget by Hoctro | Jack Book

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น