ความรักพ่อ- ม.112 และความจงรักภักดีที่ได้จากการบังคับ ??

          ตั้งแต่เกิดเป็นคนไทย หลายคนรับรู้เรื่องราวพระราชกรณียกิจของพ่อหลวงไทยอย่างมากมาย มองไปทางไหนก็มีแต่ผู้ที่จงรักภักดีเกือบทั้งประเทศ มีเพียงคนกลุ่มหนึ่งที่เ้ห็นต่างออกไป ซึ่งคนเหล่านั้นบอกว่า นั่นเป็นความจงรักภภักดีที่ได้จากการบังคับ

          มีข้อเสนอจากผู้ที่มีการศึกษาสูงหลายคนที่อ้างหลักประชาธิปไตย ความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันว่า ทุกอย่างน่าจะถูกตรวจสอบได้ จนมาถึงการเสนอแก้กฏหมายมาตรา 112 จนเป็นที่มาของความขัดแย้ง ความเห็นที่แตกต่างของคนที่เห็นด้วยและคัดค้านในการแก้ ม.112 จนกระทั่งมีการแสดงออก เขียน พ่น ข้อความในที่สาธารณะ เป็นข้อความหมิ่นพระเกียรติพ่อหลวง ทำให้กลุ่มรักพ่อภาคปฏิบัติ ต้องรวมตัวทำกิจกรรม ตามล่า ไล่ ล้าง ลน ข้อความเหล่านั้น ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.2554 ที่ผ่านมา

          ยิ่งเวลาผ่านไป ความขัดแย้งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นก็เริ่มขยายวง สิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็เห็นบ่อยขึ้น เช่นข้อความจาบจ้วง , เวบหมิ่น และภาพตัดต่อที่ไม่บังควร ฝ่ายหนึ่งพยายามกดรีพอร์ตเพื่อปิดเพจนั้น อีกฝ่ายก็พยายามเปิดเพจให้มากขึ้นเรื่อยๆ




         "ถือว่าเป็นการสร้างกระแสป่วนที่ได้ผล จากเดิมที่มีคนไทยร่วมกันเทิดทูนสถาบันกันทั้งประเทศ แต่วันนี้ คนรักสถาบันต้องถูกเบี่ยงเบนความสนใจ มาสู่ความขัดแย้งเรื่อง เอา-ไม่เอาสถาบัน ต้องหันมาต่อสู้ปกป้องตามแนวทางของแต่ละคน จึงมีเวลาแสดงความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันในช่วงใกล้วันเฉลิมพระชนมพรรษาเท่านั้น เพียงช่วงเวลาสั้นๆในรอบปี นอกจากนั้นก็พุ่งความสนใจไปที่เรื่องความขัดแย้งอื่นๆ"

         "ทุกคนไม่อยากถูกใครด่า อยากให้ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้าง แต่ความเป็นจริงแล้ว คนที่รักพ่อ คนที่จงรักภักดีก็มีส่วนทำให้สถาบันอันเป็นที่รัก เริ่มสั่นคลอนได้เช่นกัน เมื่อเห็นบุคคลที่คิดต่าง คนรักในหลวงหลายคนเข้าไปรุมด่าว่าคนกลุ่มนั้นเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ที่จริงแล้ว การใช้เหตุผล ความประนีประนอม ความรัก ความเข้าใจในการพูดคุย วิจารณ์จึงจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น  แต่สิ่งที่คนรักในหลวงบางกลุ่มแสดงออกมา มันกลับผลักดันให้ คนที่เริ่มมีข้่อสงสัยในเรื่องนั้น ถูกผลักให้ไปอยู่ในฝ่ายที่ไม่เอาสถาับันอย่างเต็มตัว ทั้งๆที่บางคนเพียงแค่มีคำถามว่า ทำไมถึงไม่เป็นอย่างที่กลุ่มคนล้มเจ้าพูด มันเท็จจริงหรือไ่ม่  ทำไมถึงไม่เป็นอย่างนั้น สิ่งที่พวกล้มเจ้าเผยแพร่ออกมา เป็นความจริงหรือไม่ เมื่อต้องการหาคำตอบ แต่โดนรุมด่าเหมือนสัตว์ตัวหนึ่ง แ้ล้วผลักให้เขาไปอยู่ฝ่ายที่ไม่รักในหลวง ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกด่า ทั้งที่ลึกๆแล้ว ยังมีความจงรักภักดีอยู่ แต่คนรักในหลวงเป็นคนไล่ให้เขาไปอยู่ฝั่งตรงข้ามซะเอง"


       นายบอนฟังความเห็นของเพื่อนแล้ว ก็จริงเหมือนกัน เหมือนกรณีเสื้อเหลือง เสื้อแดง ที่ถูกแต่งเติม หลายคนไม่สนใจการเมือง ไม่ได้อยู่สีแดง  แต่ถูกคนเสื้อเหลืองบางกลุ่มรุมด่าอย่างรุนแรงว่า เป็นคนเสื้อแดง เป็นคนเลว คนหน้าตาแบบนั้นเป็นคนเสื้อแดง จึงทำให้คนที่ไม่มีสีต้องถูกยัดเยียด และบังคับให้มีสีในที่สุด

          สำหรับเรื่อง ม.112 ที่นักวิชาการและนักการเืมืองบางคน หยิบยกมาพูดกันนั้น อยากถามจริงๆ่ว่า ถ้าไปแก้ไข กฏหมายนี้แล้ว ประชาชนจะอยู่ดีกินดีขึ้นหรือเปล่าหรือเพียงแ่ค่สนองตัณหาของนักวิชาการและนักการเมืองบางคนเท่านั้น

     หลากหลายประเด็นจากเพื่อนๆ ที่รวบรวมมา...

        *  แล้วในความขัดแย้งที่เกิดขึ้น คนรักในหลวงบางกลุ่ม กำลังพยายามที่จะบังคับให้คนที่คิดต่าง จะต้องคิดเหมือนพวกเขาใช่หรือไม่ ถ้าไม่คิดเหมือนกัน จะได้รับการประนาม รุมด่าทอ

         * * เห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดา จะดียื่งกว่าหากสามารถปรับใช้ให้พอดี
        * * * ถ้ามองโลกในแง่บวก ยังคิดว่าน่าจะมีหนทางออกสำหรับประเทศไทย แต่ถ้ามองโลกในแง่ลบ คิดว่าตราบใดถ้าคนที่เสี้ยมให้ประชาชนแตกแยกยังอยู่ ก้ออาจจะหมดหวัง

         

          สุดท้ายนึกถึงพระราชดำรัสของ ในหลวงท่านทรงรู้ว่ามีคนที่ ไม่อยากให้มีสถาบัน ท่าน ก็พยายามบอกผ่านคนทำงานของท่านว่า

"ขอให้บอกเรานะ อยากให้เราปรับตัวอะไรบ้าง" 

ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือ ให้โอกาสพระองค์ท่านในการที่เราจะปรับตัวด้วย...สะท้อนให้เห็นว่า พระองค์ยังพร้อมและยอมรับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวได้...เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและส่วนรวม

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

Related Posts by Categories

Widget by Hoctro | Jack Book