"มีท่านผู้หนึ่งโทรมาหาอาตมานะ บอกว่าเอาใจช่วยพี่น้องพันธมิตรที่ปักหลักชุมนุมในที่นี้ จึงแม้ท่านผู้นั้นจะถูกต่อว่าต่อขานจากเวทีพันธมิตรอย่างหนักก็ตาม แต่ก็ยังสนับสนุนพันธมิตรอยู่เช่นเดิม" ท่านจันทร์ สันติอโศก พูดประเด็นนี้เมื่อ 22 ก.พ.2554 ในช่วงธรรมะบนเวทีรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ทำให้มิตรสหายคนหนึ่ง นึกถึงหลายคนที่เคยร่วมต่อสู้ในช่วง 193วัน และถูกต่อว่าต่อขานอย่างรุนแรงจนหลายคนต้องหายไป ซึ่งมีทั้งคนดีและคนไม่ดี
"พวกเรามีแต่คนดี คนรักชาติบ้านเมือง รักในหลวง หวงแผ่นดิน แล้วทำไมถึงขัดแย้ง แตกแยกกัน บางครั้งก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ที่ว่ามีแต่คนดีๆนั้น ..คนดีของใครหรือ"
มิตรสหายที่ขอนแก่นที่พึ่งกลับมาจากมัฆวาน หยิบกล้องดิจิตอลเปิดให้ดูรูปถ่ายหลายรูป มีรูปที่ถ่ายในที่ชุมนุม ถ่ายกับศิลปิน พธม.บางคน , พิธีกรบนเวทีบางคน, และมีหลายมุมที่มัฆวาน มีเรื่องราวต่างๆมาเล่าให้ฟัง เพื่อนคนหนึ่งเดินผ่านมา เจ้าของกล้องดิจิตอลหันมาจ้องมองเขม็ง เพื่อนคนนั้นจึงก้มหน้าเดินจากไป คนที่มาดูรูปตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเพื่อนคนนั้นดูแปลกๆไป เขาเคยเป็นพันธมิตรตัวจริงนี่นา ร่วมต่อสู้ โดนแก๊สน้ำตามาด้วยกันเมื่อ 7 ต.ค.51 มาแล้ว
"พวกห้อยโหนกระแสน่ะสิ พวกเด็ก ปชป. ปีนี้ยังไม่เห็นไปสักครั้ง แต่ก่อนเคยมาช่วยงานพันธมิตร เคยบริจาคเงินให้ พธม. เดี๋ยวนี้ไม่เคยสักอย่าง คนมันเปลี่ยนอุดมการณ์ไปแล้วล่ะ"
แต่เพื่อนอีกคนไม่อยากเชื่อ เพราะเขาคนนี้ร่วมต่อสู้ด้วยกันมาตลอด เท่าที่คบกันมาหลายปี เขาคนนี้เป็นคนที่จริงใจ ใจคอหนักแน่น มั่นคง รักความถูกต้อง หรือวันเวลาที่ผ่านไป ทำให้ความเป็นพันธมิตรในตัวเขา..หายไป
ในค่ำวันต่อมา เพื่อนผู้คาใจได้ไปเยี่ยมเขาคนนั้นถึงบ้าน ซึ่งกำลังเปิดดู ASTV อยู่ จึงเข้าไปนั่งคุยด้วย ถามตรงๆว่า ทำไมไม่ไปมัฆวาน เปลี่ยนอุดมการณ์แล้วหรือ ชอบ ปชป.มากหรือ ไทยจะเสียดินแดนให้เขมรแล้ว ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ เสียดายที่เคยเป็นพันธมิตร....
"เดี๋ยวนี้ มีการผูกขาดความเป็นพันธมิตรไว้แล้วหรือ ถึงมาตัดสินว่าใครเป็นหรือไม่เป็นพันธมิตร ?..."
เขาบอกว่า ภูมิใจในความเป็นพันธมิตรอย่างมาก ตอน 193 วัน เขาเต็มร้อยกับ พธม. ช่วยบริจาคเงิน, ไปร่วมชุมนุม ช่วยเหลือทุกอย่าง แต่ช่วงปี 2553 ครอบครัวของเขาเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบ จึงต้องช่วยกันทำงานหาเงินใช้หนี้ เวลาที่ พธม.ขอนแก่นจัดกิจกรรม จึงไม่ได้ไปช่วย ไม่มีเงินไปบริจาค และเป็นช่วงที่ พธม.หลายคนที่ร่วมสู้ด้วยกันมา ขัดแย้ง แตกแยกกัน มีการพูดกันว่า คนไหนเป็นพวกไหน ขนาดตัวเขายังถูกตัดสินว่า ไปอยู่กับอีกฝ่าย บางคนก็ว่าเขาเป็นเสื้อแดงไปแล้ว เพื่อนหลยคนต่างคิดและพูดกันไป กว่าจะรู้เรื่องก็ดูเหมือนว่า ทุกคนต่างเข้าใจว่า เขาเปลี่ยนอุดมการณ์ไปแล้ว ทั้งๆที่เขายังไม่มีโอกาสได้พูดอะไรสักอย่าง แต่เพื่อนหลายคนได้ตัดสินเขาไปแล้ว จากคนที่เคยกอดคอร่วมต่อสู้มาด้วยกัน เมื่อเจอหน้ากันอีก ก็เกิดความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาต้องทำงานหาเงินมาใช้หนี้ ช่วงนี้จึงมาช่วยอะไรไม่ได้เลย แถมเพื่อนๆในกลุ่มตัดสินว่า เขาไม่ใช่ พธม.แล้ว
เสียงจากทีวีที่เปิด ASTV เป็นช่วงของดนตรี พี่ตั้ว ศรัณยู กับน้าเศกกำลังร้องเพลงบนเวที เพลงที่ได้ยินในตอนนั้นทำให้เขาคนนั้น เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้น.....
"คุณคือคนสำคัญ .....คุณคือคนแห่งมัฆวาน .....คุณคือคนที่ชาติต้องการ ....เราขาดคุณไม่ได้..."
เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า " เขาคงเป็นคนไม่สำคัญของเพื่อนๆแล้วล่้ะ"
เพื่อนที่แวะมาเยี่ยมก็อึ้งไปเหมือนกัน แล้วก็พูดให้ฟังว่า เพื่อนในกลุ่มพูดถึงเขาว่าอย่างไรบ้าง ต่างคนต่างพูดต่างคิดจนเรื่องไปไกลกว่าที่คิด จนไม่รู้จะช่วยอธิบายยังไงเหมือนกัน เพราะเพื่อนในกลุ่มต่างเชื่อในแบบที่พูดไปแล้ว
ถึงแม้สถานการณ์เปลี่ยนไป เขาไปเข้ากลุ่มเพื่อนไม่ได้แต่เขายังคงภูมิใจในความเป็นพันธมิตรเช่นเดิม ช่วง 193 วันแม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงไหน แต่เขาพร้อมทุกครั้งในการร่วมเดินทางเข้าไปปักหลักพักค้างใน กทม. เขารู้จักเืพื่อนหลายคนมากขึ้นจากการเป็นพันธมิตร เขายังเ็ก็บรูปถ่ายกับเพื่อนๆในช่วง 193 วัน ไว้เป็นอย่างดี ถึงแม้เพื่อนๆเหล่านั้น จะไม่เห็นเขาเป็นเพื่อนเหมือนวันวาน เขาเองก็รู้สึกเ่ช่นกันว่า พลังการชุมนุมในปีนี้ ลดลงกว่าช่วง 193 วัน ไม่ใช่เพราะคนมาน้อย แต่เป็นเพราะความไม่เข้าใจในหมู่เพื่อนที่คุ้นเึคยกันนีี่่แหละ ไม่เข้าใจจนเกิดรอยร้าวอย่างไม่น่าเกิด
จากที่เคยร่วมเดินทางไปชุมนุมกับเพื่อนๆ เขาจึงต้องเดินทางไปคนเดียวในวันที่ว่าง ซึ่งไม่ตรงกับวันที่เพื่อนในกลุ่มเดินทางไปมัฆวาน แม้วันนี้จะต้องเดินทางคนเดียว และเริ่มหาเพื่อนสนิทคนใหม่ๆที่มัฆวาน เวลาที่มาร่วมชุมนุม เขาพร้อมเป็นหนึ่งเดียวเหนียวแน่นกับพี่้น้อง เหมือนกับกลุ่ม TGO, กลุ่มพันธมิตรจังหวัดต่างๆ ที่รวมตัวมากันอย่างเหนียวแน่นในมิตรภาพ และเข้าใจกันและกัน ยืนหยัดร่วมต่อสู้ด้วยกันต่อไป....
"เคยเจอหลายคนถามว่า ทำไม ใครคนนั้นที่เคยเจอในช่วง 193 วัน ไม่มาขึ้นเวทีพันธมิตรในวันนี้ ทั้งนักวิชาการ หรือ ศิลปินเพื่อชีวิตบางคนที่เคยร่วมต่อสู้ด้วยกันมาตลอด วันนี้ ไม่ีมีคนบนเวทีพูดถึงชื่อคนเหล่านั้นเลย พี่น้องหลายคนก็วิจารณ์ักันไป ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่เคยเจอนักวิชาการท่านหนึ่งที่เวทีเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ เค้าอยากขึ้นเวทีพันธมิตรแต่ไม่รู้จะทำยังไง เพราะเคยถูกต่อว่าอย่างหนัก ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ไม่ได้ทำผิดต่ออุดมการณ์ของ พธม. เหมือนคนที่ไปเป็น รมต. หรือ ดอกเตอร์นักจัดรายการที่เชียร์ ปชป.... เลยได้แต่เอาใจช่วย เฝ้ามองด้วยความห่วงใยเท่านั้น ..เป็นคนที่ไม่สำคัญของมัฆวานไปแล้ว.."
"พวกเรามีเวลาฟังข้อมูลจากเวทีได้ตลอด มีเวลาฟังมากมาย มีเวลาที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขมากมาย มีเวลาพบปะพูดคุยมากมาย แต่กลับไม่ให้เวลาทำความเข้าใจ "มิตร" ที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันมา"
ช่วง 193 วัน ได้หล่อหลอมจิตใจหลายคน ให้ัรักชาติ รักแผ่นดิน รู้ทันนักการเมือง รู้จักรักษาผลประโยชน์ของชาติบ้านเืมือง แม้จะโชคไม่ดี ที่ถูกตัดสินด้วยอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของหลายคนว่า อุดมการณ์เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม หรือ ไม่ใช่ พธม.ตัวจริงก็ตาม...."
...แต่คน (ไม่) สำคัญแห่งมัฆวาน ยังคงเดินทางมาที่มัฆวานในวันที่มาได้ ไม่ต้องรอใครนัด ไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ไม่ต้องรอให้ชวน แม้จะมีเสียงดูถูกเหยียดหยาม ก่นด่า จากคนทั่วๆไป , คนรัก ปชป., คนเสื้อแดง, หรือคนในครอบครัวก็ตาม ..แม้กำลังใจจะเริ่มถดถอยไปบ้าง แต่ในเมื่อยังมีคนที่คิดตรงกัน รักในหลวง หวงแผ่นดินเหมือนกัน
แม้จะยากลำบากกว่าช่วง 193 วัน ถึงแม้ไม่มีรูปถ่ายไปยืนยันว่า เขาได้มาที่มัฆวานแล้ว แต่จุดหมายในการเดินทางของคนไม่สำคัญ คือ ที่มัฆวานเช่นเดิม...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น