2 ทุ่มกว่าคืนวันที่ 10 ก.พ.2554 โทรศัพท์มือถือดังขึ้น เมื่อกดรับสาย เสียงจากคนคุ้นเคยผู้ร่วมอุดมการณ์ โทรมาทักทาย สอบถามกันว่า จะลงมาเจอกันอีกเมื่อไหร่ จะเข้ามารวมพลังวันเสาร์นี้หรือไม่ เลยตอบไปว่า เค้านัดหมายศุกร์ที่ 11 กพ.54 ต่างหาก
"ผมไม่ได้เปิดดูเวบเลย 3-4 วันนี้ไม่ได้ตามข่าวเลย ที่ทำงานผมบล็อกเนตไว้อ่ะนะ แต่ผมก็หาทางเข้าไปดูข้อมูลให้ได้....."
ช่วงแรกฟังเขาพูดแล้วอึ้ง อะไรกัน ไม่รู้ข่าวเลยหรือ ปกติก็เห็นเขาในเวบบ่อยๆ ทำไมถึงตกข่าวได้ล่ะ แต่เมื่อเขาบอกสิ่งที่เขาพบเจอให้ฟังว่า เขาทำงานกับเจ้านายที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองคนละขั้ว ช่วงแรก เขาใช้เวลาหลังเลิกงาน+วันหยุด ไปทำงานอุดมการณ์ของเขา เขียนเล่าเรื่องราว แสดงความคิดตามอุดมการณ์ในเวบของกลุ่มคนที่คิดตรงกัน แต่แล้ววันหนึ่ง คนในที่ทำงานอบตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์จนรู้ว่า เขามีหัวใจสีเหลือง สืบเสาะจนแน่ใจว่า เขาคิดยังไง ชอบไปแสดงความคิดเห็นที่เวบแห่งไหน แล้ววันหนึ่ง ผู้คนในที่ทำงานก็เรียกชื่อที่เขาใช้ในเวบเครือข่าย ทำให้เขารู้ตัวว่า ผู้คนในที่ทำงานรู้แล้วว่า เขาอยู่คนละสีคนละขั้วกับคนในที่ทำงาน
นับแต่วันนั้นมา เขาถูกกดดัน ปิดกั้น ถูกต่อว่า ขัดขวาง และถูกชักชวนให้เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนสี แต่เขาเป็นคนที่มีจุดยืนในหัวใจที่ชัดเจน ไม่หวั่นไหวง่ายๆ ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง แม้จะมีแรงเสียดทานมากมาย แต่จิตใจยังมั่นคงหนักแน่น เช่นเิดิม
บทบาทหน้าที่ของเขาในที่ทำงานนั้น หาคนมาทำ่งานแทนเขาในตำแหน่งนั้นได้ยาก เขาจึงยังคงทำงานที่นั่นต่อไปได้ รับรายได้ต่อเดือนในระัดับที่สูง แม้จะอึดอัด แต่รายได้จากที่นี่ ช่วยจุนเจือครอบครัว ผ่อนบ้านผ่อนรถได้ แต่แรงกดดันในที่ทำงาน มีอยู่ตลอด
ณ ที่ทำงานแห่งนั้น หน้าที่ส่วนหนึ่งต้องดูแลข้อมูลในเวบไซต์ การเขียนข้อมูลข่าวสารต่างๆ ซึ่งเขามีความสามารถทำในจุดนี้ไ้ด้ดี และรายได้ในส่วนนี้ก็สูงมาก คนในที่ทำงานเคยชักชวนเขาให้มาทำหน้าที่ในส่วนนี้ แต่ขอให้เปลี่ยนอุดมการณ์ เปลี่ยนสี เปลี่ยนขั้วเป็นสีแดง แล้วจะมีรายได้เพิ่มขึ้นทันที แต่เขาตอบว่า
"จะให้ผมทำอย่างนั้น ผมทำไม่ได้หรอก ผมเป็นแบบนี้ ถ้าผมขายจิตวิญญาณตัวเอง ผมจะอยู่ในสังคมของผม จะมีที่ืยืนในกลุ่มเพื่อนของผมได้ยังไง ผมทำไม่ได้หรอก"
เพราะมีจุดยืนที่ชัดเจน มั่นคงมาตลอด เขาจึงถูกหลายคนในที่ทำงานรุมต่อว่า กดดันอยู่ตลอด บางคราว มีหลายคนรุมต่อว่าเขาเพียงคนเดียว ความจริงแ้ล้ว ในที่ทำงานแห่งนั้น มีคนที่คิดเหมือนเขาเช่นกัน แต่ไม่กล้าเปิดเผยตัว เพราะกลัวจะกระทบกับหน้าที่การงาน เขาจึงต้องยืนหยัดอยู่คนเดียว
เมื่อได้เจอเขาทีไร เขาจะบ่นระบายความอึดอัดออกมาทุกครั้ง บางครั้งระบายความอึดอัด และปล่อยมุขตลกบ้าง เพื่อให้บรรยากาศในหมู่กัลยาณมิตรไม่เครียดจนเกินไป ให้หัวเราะ เฮฮากันได้ ทั้งที่ความเป็นจริง เขาอึดอัดสุดจะทน
10 กพ 54 มีเพื่อนของเขาที่ทำงานที่แห่งหนึ่ง มีหลายอย่างคล้ายกับที่ทำงานปัจจุบันของเขา ชักชวนเขาให้มาทำงานที่ใหม่ เป็นที่ทำงานที่ผู้คนมีอุดมการณ์เดียวกับเขา หัวใจสีเหลืองเหมือนกัน เมื่อถูกชักชวนแบบนี้ หัวใจของเขากว่า 80% พร้อมจะไปทำงานทันที แต่ต้องหยุดคิด เพราะเรื่องผ่อนบ้านผ่อนรถ ... ในอนาคตอันใกล้ เขาวางแผนกับภรรยาว่าจะไปทำงานต่างประเทศ รอเวลาให้วีซ่าผ่านเท่านั้น แล้วจะไปทันที
เขาจึงโทรมาปรึกษากับนายบอน ว่า ที่ทำงานใหม่ น่าไปทำมั้ย มีข่าวว่าเงินเดือนได้ไม่ตรงตามเวลา และมีปัญหาสภาพคล่องด้วย ทำให้เขาคิดหนักในจุดนี้ แต่ถ้าถามใจเขา เขาอยากไปทำงานที่นี่
"แม้เงินจะน้อย แต่เจ้านายเค้าดูแลดีมากๆจริงๆ ทำให้หลายคนทำงานอยู่ที่นี่ด้วยหัวใจ"
"ถ้าพี่อยู่ได้ เงินพอใช้ พอผ่อนบ้านผ่อนรถ จะไปก็ได้ครับ พี่จะไปทำงานรอเวลาไปเมืองนอก ก้ไม่เลวนะ ถ้าไปทำงานเมืองนอก ได้เงินเยอะ คงปลดหนี้ได้หมด..."
แม้ที่ทำงานใหม่ หัวใจสีเหลือง จะไ้ด้เงินน้อยกว่าที่เดิม แต่ในวิกฤติอาจจะมีโอกาสดีๆอยู่ เขามีความสามารถเีขียนเรื่องราวที่ถูกใจคนอ่าน มีคนตามอ่านเรื่องราวเก่าๆที่เขาเีขียนอยู่ตลอด แม้ว่าจะโดนปิดกั้นจากที่ทำงานปัจจุบันก็ตาม.... หากเขาไม่ถูกปิดกั้น ได้เขียนเต็มที่อย่างที่หัวใจต้องการ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำเต็มที่ เขาจะทำได้ดีกว่่าช่วงเวลาที่ถูกปิดกั้นมากขนาดไหน นี่เป็นโอกาสที่ท้าทายเช่นกัน
คุยกันทางโทรศัพท์เกือบ 50 นาที โดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนพี่เขาจะเริ่มมองเ็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงบ้างแล้ว เมื่อชีวิตยังมีลมหายใจ ก็ย่อมมีความหวัง รอเวลาให้หัวใจที่ถูกปิดกั้น ถูกปลดปล่อย มาอยู่ในที่ที่ควรอยู่ หรืออาจจะขยับมาอยู่ในมุมที่การปิดกั้น ไม่มีผลใดๆ
ขอคารวะในหัวใจอันเข้มแข็งของเขาคนนี้
วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
หัวใจสีเหลืองที่ถูกปิดกั้นจากสีแดง จิตวิญญาณที่ถูกกักขังไว้ไม่ได้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น