"อยากปรึกษาข้อมูลกฎหมายหน่อยได้มั้ย หนูกำลังจะหย่า อยากรู้ว่าจะมีทางชนะมั้ย"
ประโยคนี้ ทนายความหลายคนได้ยินบ่อนจนคุ้นหู คดีความแบบนี้มีให้ทำอยู่บ่อยๆ ว่ากันไปตามหลักฐานข้อมูล แต่คราวนี้เป็นคดีที่ต้องคิดหนักพอสมควร เพราะคนที่มาติดต่อให้ทำคดีให้ เป็นคนที่ทนายรู้จักเป็นอย่างดี และคนที่ำกำลังจะถูกฟ้องหย่า ก็เป้นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตอนชั้ยมัธยม!!
เรื่องภายในครอบครัวของเพื่อน ทุกคนรู้ดีว่า ไม่ควรไปยุ่งเรื่องนี้ ให้สามี-ภรรยาพูดคุยกันเอง แต่คราวนี้ ภรรยามาติดต่อเขาให้เป็นทนายทำคดีฟ้องหย่าให้ หลังจากเคยทำคดีความที่เคยมีเรื่องกันมาแล้ว จนได้คำพิพากษาที่ยอมรับทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อข่าวเรื่องการหย่าร้างเริ่มเป็นที่รับรู้ในหมู่เพื่อนๆ บางคนบอกให้ใจเย็นๆ ค่อยพูดค่อยจากัน , ..จะหย่าจริงหรือ..ล้อเล่นน่า..., เฮ้ย ไม่ใจดำไปหน่อยเหรอที่จะทำลายครอบครัวของเพื่อนน่ะ..ฯลฯ
เพื่อนย่อมเป็นห่วงเพื่อน หวังดีกับเพื่อน มองเพื่อนในแง่ดีเสมอ แต่ทุกคนย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีหลายอย่างที่สุดจะทนจริงๆ จนฝ่ายหนึ่งต้องขอหย่า
"ไอ้ทนาย จะทำคดีนี้จริงเหรอ ทำไมไม่พูดให้เค้าคืนดีกันวะ อยู่กันมาร่วมสิบปีแล้ว ลูกก็โตแล้ว จะทำลายครอบครัวของเพื่อนทำไมวะ"
เพื่อนที่เป็นทนาย ไม่ได้ตอบโต้ ก้มหน้าก้มตาทำคดี ให้ฝ่ายหญิงได้ฟ้องหย่ากับฝ่ายชายตามความต้องการ
ตั้งแต่แต่งงานกันมา จากคนที่เคยเอาใจใส่ครอบครัว สิ่งเหล่านั้นค่อยๆเลือนหายไป จากความรัก กลายมาเป็นเพียงหน้าที่ที่ต้องทำ จากที่เคยพุดคุยห่วงใย เวลาผ่านไป กลับไม่มีคำพูดใดๆ แม้เพียงคำทักทายเล็กๆน้อยๆ ในขณะที่กับผู้หญิงคนอื่น กลับพูดจาเอาใจ ดูแลห่วงใย มีรูปคู่เป็นที่ระลึกในเวบไซต์ส่วนตัวยืนยันความรักหลายรูป สุดที่ผู้เป็นภรรยาจะทนไหว แต่ก็พยายามอดทนมานาน วันแล้ววันเล่า แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น คิดแล้วคิดอีก พยายามหาที่ปรึกษา ถามเพื่อน ถามคนที่รู้จักไว้ใจ จะหย่าดีมั้ย มีโอกาสจะชนะหรือเปล่า เพราะสุดทนจริงๆ
เพื่อนที่เป็นทนาย รับทำคดีความนี้ใ้ห้ เป็นคดีที่สามแล้ว ที่ทำให้เพื่อนและคู่ครองของเพื่อนได้หย่ากัน 2 คดีแรก ทนายโดนเพื่อนในรุ่นต่อว่า วิจารณ์มากพอสมควร เื่พื่อนที่ต้องหย่า ก็ตกอยู่ในอาการโศกเศร้า ยิ่งทำให้ทนายถูกเพื่อนในรุ่นโจมตีพอสมควร แต่เพื่อนอีกหลายคนก็เข้าใจ และเห็นด้วยในสิ่งที่เพื่อนทนายทำลงไป
6 เดือนผ่านไป หลายคนมองเห็นความจริงว่า สมควรแล้วที่หย่า เพราะเพื่อนตัวดีหลังจากเป็นอิสระ ก็ไปมีรักใหม่ แล้วก็ทำให้คนรักใหม่ต้องผิดหวัง เสียใจอีก แยกทางกันอีกครั้ง ส่วนเพื่อนที่ถูกหย่าคดีที่สอง ทั้งฝ่ายอดีตสามี-ภรรยา ได้เจอคนที่รักจริง หลังจากที่ชีวิตแต่งงานไปกันไม่ได้ จนต้องหย่าร้างกัน
คดีที่ 3 ที่กำลังทำ ก็มีเพื่อนบางคนวิจารณ์อีกเช่นเคย
" ถ้าเราบริสุทธิ์ใจ อยากช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนจริงๆ จะไปแคร์อะไรกับคำพูดของคนอื่น เพื่อนคนนั้นไม่ได้รู้ไปหมดทุกอย่างนี่ แต่เมื่อเป็นแบบนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ได้เหมือนกันว่า เพื่อนแต่ละคนเป็นคนแบบไหน ได้พิสูจน์หัวใจของความเป็นเพื่อนด้วย.."
เพื่อน...ก็สำคัญ และคู่ครองของเพื่อนก็สำคัญเช่นกัน วันเวลาที่ผ่านมานานหลายปี คงได้เห็นอะไรที่ชัดเจนแล้ว ให้โอกาสปรับปรุงแก้ไขนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อมันไม่ดีขึ้นเลย ทางชีิวิตที่เลือกเดินมันผิดไป ถ้ายังมีสติและลมหายใจ ก็ตั้งหลักเลือกเส้นทางใหม่ได้ ขนาดคนเราขับรถหลงทาง ยังเลี้ยวรถกลับมายังเส้นทางที่ถูกได้ ชีวิตก็ต้องแก้ไขได้เช่นกัน
........ เป็นข้อคิดจากเพื่อนที่เป็นทนายคนหนึ่ง ที่น่าคิดทีเดียว...
วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วิกฤติชีวิตครอบครัวกับบทพิสูจน์หัวใจของความเป็นเพื่อน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น