ในงานคืนสู่เหย้าศิษย์เก่าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่กาฬสินธุ์ เพื่อนหลายคนต่างแปลกใจเมื่ออดีตรองประธานรุ่นคนเก่ง ได้หย่ากับอดีตดรัมเมเยอร์คนสวยของรุ่นที่รักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เป็นคู่รักที่ทุกคนอิจฉา คบกันมานานหลายปีจนแต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องหย่าร้างกัน
"น่าจะอดทนกันสักนิด หนักนิดเบาหน่อยน่าจะให้อภัยกันได้ แบบนี้ลูกทั้ง 3 คนไม่กลายเป็นเด็กมีปัญหาหรือ เมื่อพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้"
แต่ภาพที่เห็นลูกทั้ง 3 วิ่งเล่นกับลูกๆของเพื่อนในรุ่นอย่างสนุกสนาน เพื่อนที่เคยไปเยี่ยมบ้านของอดีดดรัมเมเยอร์คนสวยบอกว่า เห็นลูกทั้ง 3 คนน่ารักมากๆ อยู่กับคุณตาคุณยาย ครอบครัวอบอุ่นจนน่าอิจฉา ทั้งๆที่หย่ากับสามีไปแล้ว ผิดไปจากครอบครัวที่หย่าร้างกัน
แทนที่จะเห็นเด็กมีปัญหา แต่เพื่อนกลับมีปัญหาคาใจซะเอง เพราะไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อลูกขาดพ่อ แต่ลูกทั้ง 3 กลับมีความสุขมากกว่าครอบครัวที่มีพ่อ-แม่ ลูก อยู่พร้อมหน้ากัน ...อะไรกันนี่ ไม่เป็นอย่างที่คิดอย่างที่เชื่อมาตลอดนี่ว่า พ่อ แม่ต้องอยู่พร้อมหน้ากัน ลูกถึงจะไม่เป็นเด็กที่มีปัญหา !!!
อดีตดรัมเมเยอร์คนสวยเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่แต่งงานกัน ตอนแรกก็มีความสุขดี แต่เมื่อเขาต้องเป็นผู้นำครอบครัว ต้องรับผิดชอบภาระหลายอย่าง เขาก็เปลี่ยนไป จากที่เคยเอาใจใส่ก็เริ่มห่างเหิน แทนที่จะรับฟังเหตุผลของกันและกัน หรือมีเวลาให้กันเหมือนแต่ก่อน ก็ไม่สนใจใส่ใจเหมือนเดิม เมื่อเริ่มไม่พอใจ สามีจะทำเป็นไม่สนใจ ใส่ใจความรู้สึกของเธอ ปล่อยให้โดดเดี่ยว บางทีก็มาคุกคาม ข่มขู่ หยามน้ำใจให้เจ็บช้ำตลอด พอถึงช่วงหนึ่ง เริ่มรู้สึกตัวว่า ทำผิด ก็จะขอโทษขอโอกาสเริ่มต้นใหม่ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย จนปีหลังๆ ไม่พูดจา เฉยเมยไปเลย เมื่ออยู่ใกล้กัน ก็อึดอัด สามีอยู่ด้วยก็ไม่มีความสุข อึดอัดเช่นกัน จนในที่สุด เธอเอ่ยปากขอหย่า แต่เขาไม่ยอมหย่า แต่ไม่บอกเหตุผลว่า ทำไม ทั้งที่เขาก้ไม่มีความสุข เมื่ออยู่ด้วยกัน
แต่ละวันที่ผ่านไป ชีวิตก้ไม่มีอะไรดีขึ้น ขอหย่าก็ไม่ยอมไปหย่า กลัวลูกมีปัญหา แต่เขาก็เลี้ยงลูกไม่เป็น เอาใจไม่เป็น ปู่ย่าก็บอกให้อดทนกันไป อย่าหย่าร้างกันเลย สงสารลูก เดี๋ยวลูกมีปัญหา
ยิ่งนานวัน ทั้งเธอและสามีเหมือนอยู่กันคนละโลก ทั้งอึดอัด เครียด ไม่มีความสุข เธอเอ่ยปากขอหย่าสามีอีกหลายครั้ง แต่สามีเงียบ นิ่งเฉย ไม่ยอม แต่ไม่มีเหตุผลที่จะพูด เธอร้องไห้หลายครั้ง เจ็บป่วยบ่อยๆ คิดมาก เจ็บปวดทุกข์ทรมานใจมาตลอด จนเมื่อญาติคนหนึ่งแวะมาเยี่ยมเธอ เห็นสภาพครอบครัวแล้วทนไม่ไหว เลยเรียกมาเปิดใจคุยกัน
"ชีวิตคน ไม่มีสูตรที่ตายตัว คนอื่นทำแบบนั้นได้ แต่เราทำแบบนั้นแล้ว ไม่ได้ผลเหมือนกันก็มีเยอะไป การอดทนอยู่ด้วยกันเพื่อรักษาชีวิตครอบครัว แต่ไม่เคยเข้าใจกัน ไม่เคยพูดกันอย่างจริงใจ ไม่มีหัวใจเดียวกัน การทนอยู่ต่อไป มันยิ่งเป็นสิ่งที่กัดกร่อนแต่ละคนให้ตายทั้งเป็นอย่างช้าๆ จะโกหกใครก็โกหกได้ แต่ความรู้สึกในใจ ตัวเรารู้อยู่แล้วว่า เราสุขหรือทุกข์แค่ไหน ปัญหามันเกิดตรงนี้แหละ อย่าไปอ้างเลยว่า กลัวลูกจะมีปัญหา ในเมื่อตัวเองกำลังมีปัญหา และกำลังจะทำให้ลูกเป็นคนมีปัญหาซะเอง"
"ลูกจะไม่เป็นเด็กมีปัญหา ถ้าพ่อแม่ไม่เป็นตัวปัญหาซะเอง"
ญาติของเธอพูดคุยเรื่องครอบครัวให้ฟัง แล้วตั้งคำถามว่าอยากให้ชีวิตมีความสุขไหม แต่ละคนอยากทำอะไรได้เต็มที่โดยไม่ต้องอึดอัดมั้ย อยากให้ลูกมีความสุข มีความอบอุ่น แม้พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ เมื่อทั้งคู่ตอบว่า "อยากๆๆๆๆ" ก็มาตั้งเป้าหมายชีวิตกันใหม่ เมื่อให้เป้าหมายนั้น คือ "ความสุข ความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่นของลูก" โดยที่ทั้งคู่จะต้องจากกัน หย่ากัน ในเมื่อสามีดูแลเอาใจใส่ ให้ความอบอุ่น และความสุขใจกับภรรยาไม่ได้เลย แม้จะพยายามและทนอยู่มาหลายปี แต่ก็ทำอะไรให้ดีขึ้นไม่ได้เลย "....แล้วยังมีใครอีกไหมที่สามารถ มอบความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่นใจ ดูแลห่วงใย ได้มากกว่า คนที่เป็นพ่อของลูก โดยไม่มีเงื่อนไข และเป็นความรักที่แท้จริง " ไม่หงุดหงิด ไม่ทำร้าย ข่มขู่ คุกคาม แม่ของลูกเหมือนสามี เมื่อทำผิด รู้จักให้อภัย เข้าใจและรับฟังเหตุผลของเธอ
เธอมีคำตอบแล้ว คือ คุณตา คุณยายที่พร้อมจะดูแลหลานๆทั้ง 3 คนอย่างเต็มใจชนิดที่สามีของเธอก็เทียบไม่ติด
เมื่อเจอข้อมูลและเหตุผลต่างๆ อดีตสามีก็พูดไม่ออก ญาติของเธอก็ให้ข้อมูลกับสามีว่า บทบาทการเป็นสามีคงไม่เหมาะกับเขา ถ้าเป็นเพื่อนเหมือนแต่ก่อน เขาจะทำหน้าที่ได้ดีกว่า ไม่ต้องกดดัน ไม่ต้องแบกภาระต่างๆ จนอึดอัดอย่างนี้ ซึ่งจะทำให้เขาและเธอ มีความสุข อิสระทั้งคู่ หากสำนึกและอยากจะเริ่มต้นใหม่ ก็ต้องพยายามปรับปรุงตัวเองละกัน
แล้วทั้งคู่ก็ไปหย่ากัน ซึ่งช่วงที่หย่า ต่างเจ็บปวดและรู้สึกแย่พอๆกัน พ่อแม่ของฝ่ายสามีก็ไม่เห็นด้วย
แต่ในงานคืนสู่เหย้าศิษย์เก่าครั้งนี้ เธอมาร่วมงานอย่างมีความสุข ส่วนอดีตสามีก็มากับแฟนคนใหม่ ที่คบหากันและอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้จดทะเบียนผูกมัดกัน อดีตสามีกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีเหมือนคนเดิม มาเล่นกับลูกทั้งสามคนอย่างมีความสุข เมื่อเลิกงานเลี้ยงต่างแยกย้ายกันไป ต่างคนต่างมีชีวิตในเส้นทางที่ตนเลือกไว้
"แล้วเธอไม่รู้สึกเศร้าหรืออาลัยอาวรณ์กับเขาเลยหรือที่มีคนใหม่"
เธอบอกว่า ทีแรกก็รู้สึกแบบนั้น แต่ก้ไม่มีเวลามาคิดมากนัก เพราะวุ่นวายกับเรื่องของลูกๆ ทำโน่นทำนี่ ทำงานต่างๆอยู่ตลอด แต่กลับมีความสุขกว่าเดิม เพราะไม่กดดัน ทุกข์ใจอีกแล้ว ทุกสิ่งเธอเป็นคนดูแลด้วยตัวเอง มีเวลาเติมความรักความอบอุ่นในครอบครัวเล็กๆของเธอ อยู่กับพ่อ-แม่ของเธอและลูกๆทั้ง 3 กับหมา แมวและเพื่อนบ้านที่เข้าใจกัน ช่วยเหลือกัน มีชีวิตที่ดีกว่าแต่ก่อนมากมาย
++++
การหย่าร้าง ไม่ได้ทำให้ลูกมีปัญหาเสมอไป ความจริงแล้ว อยู่ที่ว่า ตัวเราจะสร้างความอบอุ่น ความรักและความสุขในครอบครัวให้ดีกว่าเดิมอย่างไรต่างหาก ถ้าเรารู้ว่า ความสุข อยู่ตรงไหน เราก็ทำตรงนั้นให้ดีขึ้น เพื่อคนในครอบครัวที่เรารัก แค่นี้ ลูกๆก็จะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ดียิ่งกว่า ครอบครัวที่มีพ่อ-แม่ ลูก อยู่พร้อมหน้ากัน แต่ไม่ช่วยกันสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัว....
วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
เมื่อการหย่าร้าง ทำให้ชีวิตของคู่สมรสและลูก มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น