ในการทำงานต่างๆ ถ้าเจอคนที่เข้าใจ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมขยายผลในสิ่งที่ผู้ก่อตั้งโครงการ , ประธานกลุ่มดินรักษ์ฟ้าคิดไว้ จะดีแค่ไหน แล้วคนแบบนี้ จะหาได้จากที่ไหนบ้าง คนที่มีจิตอาสา ซึ่งหาได้ยากในสังคมปัจจุบันนี้แล้ว แล้วการค้นหา คนที่มีความตั้งใจมากกว่า คนที่มีจิตอาสาทั่วๆไป มันจะยากขนาดไหนกัน
ไม่ยาก แต่ต้องสร้างขึ้นมา สร้างพลังศรัทธา ถ่ายทอดพลังศรัทธาที่ประธานกลุ่มดินรักษ์ฟ้ามีเต็มหัวใจ ให้บุคคลต้นแบบรับรู้ ... แต่ที่ผ่านมา ประธานกลุ่มดินรักษ์ฟ้ายังไม่สามารถถ่ายทอดพลังศรัทธาที่มีอยู่ในตัวเองสู่สมาชิกในกลุ่มได้มากนัก ทำให้สมาชิกกลุ่มที่เข้ามากด like ใน facebook นับพันคน แต่มีกี่เปอร์เซ็นต์ล่ะที่เกิดพลังศรัทธาจนร่วมคิดร่วมทำ ร่วมขยายผล อย่างบุคคลต้นแบบ สุเวศน์ ภู่ระหงษ์
แล้วจะสร้างพลังศรัทธาเข้าไปในหัวใจคนได้ยังไงบ้าง จะทำยังไง แล้วพี่ Kat DinRakFah จะนึกออกหรือเปล่าว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้เอาพลังศรัทธาใส่เข้าไปในหัวใจของลุงสุเวศน์ อย่างไรบ้าง
หลักการ
1. ทำให้เห็นความตั้งใจ
2. ให้เวลา บ่มเพาะ ทำความรู้จัก ศึกษา จนเกิดความศรัทธาลงในหัวใจ
3. การได้ร่วมงานกัน !! ****
เริ่มจากความคิดของพี่ kat ที่อยากจะถ่ายทอดเรื่องราวของในหลวง ในแง่มุมของเธอ อยากให้คนไทยได้รับรู้ในวงกว้าง ซึ่งที่ผ่านมา เน้นค้นหาข้อมูลและถ่ายทอดลง facebook ทุกๆวัน เวลาำไปจัดกิจกรรมที่ต่างจังหวัด เมื่อออกไปกล่าวปิดงาน ก็ได้พูดเรื่องในหลวงให้เด็กนักเรียนฟังอยู่บ้าง เท่าที่นึกได้ในตอนนั้น เมื่อพูดได้ดี น่าจะเอามาขยายผล อยากให้รวบรวมเรื่องราว เลือกภาพในหลวงมาเล่าในประเด็นที่อยากเล่าดีกว่า แ้ล้วมองหาคนที่ีรักในหลวง อย่าง ลุงสุเวศน์ ทาบทามให้มาร่วมงานนี้กัน ปลายเดือนเมษายน 2554 ก็ขอให้พี่ Kat คัดเลือกภาพมา 20 ภาพ แล้วนั่งเล่ารายละเอียดให้ฟัง มี่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ทีแรก เธอบอกว่า จะให้เขียนให้มั้ย
"ไม่ต้่อง พูดออกมาเลยดีกว่า ใช้เวลาให้คุ้มค่า"
แล้วเธอก็พูดรายละเีอียด กล้องวิดีโอก็บันทึกภาพไป แล้วเอาไฟล์วิดีโอไปให้ลุงนั่งดู
การเขียนเ็ป็นการได้เรียบเรียงข้อมูลให้ดีขึ้น แต่การให้พูด เป็นการดึงศักยภาพที่พี่ kat มีอยู่แต่ไม่รู้ตัว ออกมาวางให้คนอื่นเห็น เมื่อลุงสุเวศน์นั่งดูวิดีโอ นอกจากการศึกษาข้อมูลแล้ว ยังจะต้องศึกษาพี่ Kat จากสีหน้า แววตา คำพูด และความตั้งใจด้วย เมื่อเห็นความตั้งใจจริง เห็นพลังศรัทธาในตัว จึงเต็มที่กับการร่วมงานนั้น (1. ทำให้เห็นความตั้งใจ)
วันเวลาผ่านไป ย่อมมีหลายอย่างที่จะต้องทำ หลายอย่างก็ลืมไปได้ พลังศรัทธาก็เช่นกัน คนอื่นก็ลืมเลือนได้ จึงต้องมีการทำซ้ำ !! ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม หลังปลายเืดือน เม.ย. 54 อีก 2 สัปดาห์ พี่ Kat ก็ต้องรีบเลือกภาพในหลวงแล้วมานั่งอธิบายเป็นครั้งที่ 2 อีก ทำซ้ำ ตอกย้ำพลังศรัทธา ทำให้เห็นว่า เป็นตัวจริงแค่ไหน เมื่อฝึกอธิบายครั้งแรกแล้ว จะรู้วิธีการ ครั้งที่สองจะรู้ตัวเองว่า จะต้องเตรียมตัว เตรียมข้อมูลอย่างไร .... อีกมุมหนึ่ง เป็นการฝึกให้คิด เรียบเรียงข้อมูลให้ดีขึ้น แบบไม่รู้ตัว ไม่ต้องบอก แต่ให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง
เมื่อ 19 มิ.ย.54 พี่ Kat มาเจอคุณลุงสุเวศน์ ได้บรรยายสดๆต่อหน้า ในจำนวนภาพที่มากขึ้น ใช้เวลานานขึ้น และมีคนซักถามบางประเด็นให้อธิบายเพิ่ม เป็นการถ่ายทอดพลังศรัทธาของพี่ Kat ลงในหัวใจเข้าไปอีก (2. ให้เวลา บ่มเพาะ ทำความรู้จัก ศึกษา จนเกิดความศรัทธาลงในหัวใจ) แล้วพี่ Kat ได้ใช้เวลาเตรียมตัว ทบทวนข้่อมูลอย่างตั้งใจ เพราะรู้ดีว่า ช่วงเวลาที่อธิบายจะเป็นอย่างไร เหมือนเป็นการแอบฝึกการพูดแบบไม่ใ้้ห้รู้ตัว และดึงพลังศรัทธาที่อยู่ในตัว ออกมาวางให้ลุงสุเวศน์เห็นตรงหน้า (3. การได้ร่วมงานกัน !! ****)
ที่กลุ่มดินรักษ์ฟ้ามาที่จันทบุรี ส่วนหนึ่งมาทำสกูีปสัมภาษณ์ ค้นคนดีของพ่อหลวง วันแรกที่มา มีกิจกรรมหลายอย่างที่ต้องทำ แต่นายบอนกำหนดเวลาให้ ต้องสัมภาษณ์คุณลุงในวันที่สอง วันแรกไม่ได้เด็ดขาด เื่พื่อให้เวลาทำความรู้จักคุณลุงมากขึ้น ได้สัมผัสสิ่งที่คุณลุงจะบอกเล่าในช่วงเย็น ส่วนใครจะได้อะไรแค่ไหน ขึ้นอยู่ักับแต่ละคน
เมื่อเกิดพลังศรัทธาในหัวใจต่อกลุ่มดินรักษ์ฟ้า จึงทำให้ลุงสุเวศน์ พูดว่า ขอเข้าร่วมกลุ่มด้วย พูดออกมาเอง รวมทั้งช่วยคิด ช่วยขยายผล ช่วยบอกต่อ ช่วยหาสมาชิก ช่วยคิดแนวทางที่จะทำให้กลุ่มเติบโตขยายใหญ่ ซึ่ง สมาชิกกลุ่มที่มีมากมายนับพันคน ไม่คิดแบบนี้ เพราะไม่ได้สร้างพลังศรัทธาลงในหัวใจ ยังไม่ได้เห็นความตั้งใจจริงๆ เหมือนที่คุณลุงเห็น ไม่ได้ให้เวลาบ่มเพาะ ทำความรู้จัก ศึกษา และได้ี่ร่วมคิด ร่วมงานกันจริงๆ
พี่ Kat ใช้เวลาถ่ายทอดพลังศรัทธาไปยังลุงสุเวศน์ ไม่ถึง 2 เดือน (ปลาย เม.ย.- มิ.ย.54) แต่ผลงานเกินคาด คนเดียว คิด ทำ ขยายผล เชื่อมโยง ต่อยอด ให้มากกว่าสมาชิกหลายคนที่พี่ kat หวังไว้ ... มากกว่า ญาติพี่น้อง คนที่รู้จักกันมานานซะอีก
คงต้องคิดใหม่แล้วล่ะ สำหรับอนาคต กับการทำกิจกรรมต่างๆ จะต้องบอกว่า "ขอให้พวกเราไปช่วยงานกันหน่อยนะ ช่วยสลับกันไปจัดกิจกรรมในต่างจังหวัดหน่อยนะ" หรือจะให้เกิดในแบบ จะไปจัดกิจกรรมที่จังหวัดไหน ในเดือนไหน แล้วมีคนช่วยคิด ช่วยทำ ช่วยขยายผล โดยไม่ต้องมากระตุ้น ขอร้อง หรือเปล่านะ
* หลักการทีุ่ลุงสุเวศน์ นำมาใช้ เป็นหลักการของในหลวงนั่นเอง
"เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"
พยายามนำมาคิดใช้กับงานต่างๆ แม้แต่งานของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า
นับจากนี้ก็อยู่ที่ว่า กลุ่มดินรักษ์ฟ้า ที่ศึกษาข้อมูล เรื่องราวของในหลวง จะหยิบหลักการของในหลวงเรื่องใดมาปรับใช้ให้เหมาะกับแต่ละช่วงเวลา
แต่ละอย่างก็มีวิธีคิด วิธีการที่ต่างกันไป......
ปิดท้าย
1) งานขอเป็นคนดี ฯ ที่ชลบุรี ก็สร้างพลังศรัทธาลงในหัวใจ ใครบางคนที่นั่นได้ อยู่ที่พี่ Kat แล้วล่ะ ว่าจะทำยังไง
2) จากวันนี้ และต่อไป ก็สร้างพลังศรัทธาลงในหัวใจ ของสมาชิกดินรักษ์ฟ้าใน facebook ได้ อยู่ที่พี่ Kat แล้วล่ะ ว่าจะทำยังไง
3) สิ่งที่ทำไปแล้ว เช่น ไปสัมภาษณ์บุคคลในวันที่ 18 มิ.ย.54 ถ้าตัดต่อ จัดทำิิออกมาให้เสร็จสมบูรณ์ เผยแพร่ตามที่ตั้งใจไว้ และส่วนหนึ่ง ทำเ็ป็นซีดี ส่งไปให้ผู้ที่ถูกสัมภาษณ์ชม จะเกิดผลงาน ผู้สนับสนุนหลายอย่างตามมา ตามหลักการ 3 ข้อ ที่ว่ามา (1. ทำให้เห็นความตั้งใจ, 2. ให้เวลา บ่มเพาะ ทำความรู้จัก ศึกษา จนเกิดความศรัทธาลงในหัวใจ, 3. การได้ร่วมงานกัน !! ****)
4) แม้แต่เพลงที่มีโอกาสได้ทำดนตรี ก็เช่นกัน จะนำไปสู่การขยายผลที่ คนทำดนตรี ยังไม่ได้คิด...
ถ้าคิดยังไม่ถึงตรงนั้น ใช้เวลาว่างๆ คิดให้ถึึงตรงนั้น
วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554
การสร้างความศรัทธาลงในหัวใจ จนเกิดผลงานที่มีชีวิต+มีอนาคต จากบุคคลต้นแบบ สุเวศน์ ภู่ระหงษ์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น