เมื่อความรัก ไม่มีที่สำหรับคนสามคน โลกที่สดใสสวยงามก็เริ่มขุ่นมัวขึ้นมาทันที เมื่อเกิดความขัดแย้งในเรื่องของความรัก
ชีวิตของคนมีโอกาสได้พบเจอกับผู้คนมากมาย ได้รู้จัก ถูกใจ ชอบพอ และรักใครได้หลายครั้งหลายคน จึงมีรักเก่า รักใหม่ รักในอดีต และรักในปัจจุบันเกิดขึ้น เมื่อคนหนึ่งกลายเป็นอดีต และคนใหม่เป็นปัจจุบันในหัวใจ สำหรับผู้ที่เป็นคนเลือก ย่อมรู้ดีว่า สิ่งไหนคือปัจจุบัน สิ่งไหนจบไปแล้ว แต่ความคิด และความรู้สึกของแ่ต่ละคนนั้นแตกต่างกัน
สำหรับคนหนึ่ง เรื่องเก่าอาจจะจบไปแล้ว แต่สำหรับอีกคน เรื่องนั้นมันยังคงติดค้างคาใจยากจะลบเลือน แม้จะพยายามบอกตัวเองว่า มันไม่สำคัญ แต่หากวันใด ถูกสะกิดเบาๆ เรื่องที่เก็บกดไว้ ก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
คนในอดีต และคนในปัจจุบัน ต่างคิดว่า ตนทำถูกต้องแล้ว แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะอีกฝ่ายทำให้เกิดขึ้น ยิ่งนึก ยิ่งแค้น ยิ่งเจ็บใจ หลายครั้งจึงหาทางระบาย บอกเล่าเรื่องคาใจให้คนอื่นรับรู้ คนฟังก็ตัดสินไปตามที่ได้ยินว่า อีกฝ่าย ผิด!! แต่ความจริงนั้น ไม่มีใครรู้ดีเท่าสองฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
เมื่ออดีตถูกสะกิดขึ้นมาคราวใด เรื่องราวความขัดแย้งก็ถูกหยิบขึ้นมาบอกเล่า เมื่อคนฟังที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต่างคนต่างฟังเรื่องราว ปรากฏว่า เรื่องที่ได้ยิน ไม่ตรงกันบ้าง ถ้าได้ฟังจากสองฝ่าย ยิ่งไม่ตรงกันเลย ถ้าคนฟังจะทำความเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นให้ดีๆ ต้องตั้งสติ และพยายามลำดับเรื่องราว ที่มาที่ไปให้ดีๆ เพราะสองฝ่ายจะบอกเล่าในสิ่งที่อยากเล่า แต่คนอื่นไม่รู้ที่มาที่ไปว่า ทำไมถึงเกิดเหตุอย่างนั้น ถ้าตั้งสติและฟังไม่ดี อารมณ์ก็พาไป แล้วตัดสินไปตามสิ่งที่ได้ยิน และเชื่ออย่างนั้น
ถ้าหากตัดเรื่องความขัดแย้ง เรื่องในอดีต แล้วทำความรุ้จักในแง่มุมอื่นๆบ้าง จะพบว่า มีหลายอย่างที่น่ารู้จัก น่าคบหา มีความจริงใจ ความตั้งใจที่ดีๆ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง สองฝ่ายที่ขัดแย้งกัน จะทำงานร่วมกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้อย่างดีทีเดียว แต่โชคไม่ดีที่มีปัญหาหัวใจกันซะก่อน
ต่างฝ่ายต่างคิดว่า ฝ่ายตนถูกต้อง เมื่อไม่พอใจอีกฝ่าย หรืออีกฝ่าย ทำอะไรให้ไม่พอใจ ก็จะตอบโต้ตามวิธีการของตนเอง ทำให้เกิดความขัดแย้ง ความไม่พอใจ เกิดแผลที่ลึก ยิ่งนานวันยิ่งสะสมความขัดแย้งมากขึ้นเรื่อยๆ จนเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ วนไปมา ไม่จบเสียที
แต่เมื่อลองสอบถาม คุยกับทั้งสองฝ่าย สองฝ่ายมีสิ่งหนึ่งที่คิดตรงกัน คือ "รักในหลวง"
หลังจากที่ได้คุยกับฝ่ายหนึ่ง ในเืรื่องความขัดแย้งของความรัก เมื่อเธอได้ระบายความรู้สึกออกมาชุดใหญ่ และได้แสดงความคิดเห็นให้เป็นข้อคิดกลับไปบ้าง หลายสิ่งที่วิจารณ์ออกไป เธอบอกว่า ผิด เมื่อผิดก็ยอมรับ และขอโทษตรงๆที่มองเธอผิดไป
เธอนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วคงจะคิดอะไรบางอย่างได้ ท่าทีจึงเริ่มเปลี่ยนไป ก่อนที่จะพิมพ์ความรู้สึกที่กลั่นออกมาจากใจ ว่า
"......่ในเมื่อ เรากิดมาบนผืนแผ่นดิน
เรามีพ่อคนเดียวกัน
พ่อสอนเรา
ให้เรารู้จักอภัย
เราลูกของพ่อ
เรามีจิตสำนึกที่ดี
เราถูกหล่อหลอมมาในสิ่งที่
ถูกตรง
กล้ายอมรับควมจริง
สิ่งไหนผิด
เราขอโทษได้
แต่ถ้าไม่ใช่เราขอเหตุผล
คนเราก็เป็นแบบนี้
เราเข้าใจ
เราเข้าใจเจตนารมย์ของกลุ่ม
ทุกคนเชื่อมั่น
ศรัทธา
ในความดี
อยากทำให้พ่อยิ้ม
มีความสุข
''อภัย''
คือสิ่งที่ประเสริฐ์ที่สุด
ถ้าพ่อรู้
พ่อคงภูมิใจ
ที่ลูกๆๆปรับตัวเข้าหากันได้
''เรามาทำสิ่งดีๆๆเพื่อพ่อกันเหอะ''
''เรามาทำสิ่งดีดีเพื่อพ่อกันเหอะ''
นี่คือคำตอบ
เราต้องเคลียร์
ไม่งั้นทำงานด้วยกันไม่ได้"
...............
นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการสื่อสาร สนทนากันในเวลานั้น หลังจากที่สื่อสารกันกับการบอกเล่าเรื่องที่ขัดแย้งในเรื่องความรักมานานหลายนาที เมื่อเธอได้สติ ก็ขบคิดถึงคำสอนของในหลวงขึ้นมาทันที
อย่างน้อย การชนะใจตัวเอง มีสติ และนึกถึงบุคคลต้นแบบ นำคำสอนมาเตือนสติตัวเองได้ นับว่า ประเสริฐที่สุด
วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ความรัก ความขัดแย้ง สติและการชนะใจตัวเอง เมื่อนึกถึงพ่อหลวง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ถ้าคนเราลองมองหันกลับไปดูการกระทำหรือ พฤติกรรมของตัวเองแล้วจะรู้ว่าตัวเองเป็นเช่นไร..
ตอบลบการที่จะกล่าวร้ายป้ายสีถึงคนอื่น หัดไปดูพฤติกรรมของตัวเองก่อน
ตอบลบแต่เกลียดที่สุด คือความถ่อยสถุนของคน
ตอบลบเก็บตะวัน ไว้ที่ปลายฟ้า คนที่ขึ้นชื่อว่า ปัญญาชน รู้อะไรควรไม่ควร
ตอบลบเก็บตะวัน ไว้ที่ปลายฟ้า เหนือฟ้ายังมีฟ้า
ตอบลบส่วนใหญ่มักมองข้ามตนเอง หรือเห้นแก่พวกพ้อง ..เห็นพรรคพวกเพื่อนถูกไว้ก่อน..
ตอบลบทุกคนมีสิทธิเสรีภาพของตัวอง แต่ควรให้
ตอบลบเก็บตะวัน ไว้ที่ปลายฟ้า ความสัมพันธ์ส่วนตัวม้าง เอี๊กกกก....
ตอบลบDon Thanapon Maneesuwan แต่ไม่ควรก้าวล้ำสิทธิของคนอื่น....ควรให้เกียรติกัน
ตอบลบDon Thanapon Maneesuwan ช่ายยยยยยยยย.....มันบังตา
ตอบลบถูกต้องคร่า...
ตอบลบมากคนมากความ...ความวุ่นวายของคน....
ตอบลบ