วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บันทึกการเดินทางรถไฟ-รถทัวร์ จากบ้านห้วยขวาง-บางละมุงถึงกาฬสินธุ์ 1 มิย.2554

           31 พ.ค.2554  หลังจากเสร็จจากงาน หนึ่งคนยืนหยัด หนึ่งศตวรรษเสม พริ้งพวงแก้ว ที่จุฬาแล้ว คุณไก่ แมลงสาบ นำทีมงานไปกินข้าวเย็นที่ร้านไก่ย่าง โคราชแถวดอนเมือง ออกจาก กทม.กลับมาถึงบ้านห้วยขวาง - พัทยา ถึง 6 ทุ่มพอดี พี่ต่อ เข้านอนแล้ว

            พี่ต่อตื่นขึ้นมาแล้วไปหยิบถุงนอนมาปูพื้นให้นอน แล้วบอกว่า ช่วงนี้ งดเหล้า เบียร์ตั้งแ่ต่วันวิสาขบูชามาแล้ว กินข้าววันละ 1 มื้อ ก่อนเที่ยง กำลังตั้งใจปฏิบัติธรรม แล้วล้มตัวลงนอน  ช่วงเช้าตื่นขึ้นมา พบกับผนังห้องของห้องจัดรายการสถานีวิทยุบ้านห้วยขวาง ทาสีใหม่ เนื่้่องจากทีมงานสยามตามรอยพ่อ จะเดินทางมาบันทึกเทปที่ีนี่วันที่ 2 มิ.ย. เลยถือโอกาสปรับปรุงใหม่ ก่อนที่จะมาทำสกู๊ปน้องโลมา ซึ่งจัดรายการเรารักพระเ้จ้าอยู่หัว ช่วงสายๆ คุณพ่อคุณแม่ของน้องโลมา ก็แวะมาที่ห้อง เอาเครื่องดูดฝุ่นมาด้วย ช่วงก่อนเที่ยง นายบอนก็ให้คุณซัน คุณไก่ เซฟไฟล์งานต่างๆ เพื่อเอาไปเผยแพร่ในเวบ ก่อนที่จะเดินทางกลับด้วยรถไฟ เ้ที่ยว 14.00 น. ที่สถานีรถไฟบ้านห้วยขวาง

            คุณไำก่ และคุณซัน ขับรถมาส่งเช่นเคย ช่วงนี้ยังเป็นรถไฟฟรีอยู่ ซึ่งวิ่งมาจากสถานีบ้านพลูตาหลวง - เขาชีจรรย์ - สวนนงนุช - บ้านห้วยขวาง หลังจากขับรถมาส่งแล้ว คุณไก่ก็รีบกลับ เพราะให้หลานชายมาลงโปรแกรมฆ่าไวรัส และโปรแกรมสำัคัญๆอื่นๆ ทิ้งร้านให้หลานเฝ้าเลยรีบกลับ



            ระหว่างรอรถไฟ ก็เดินไปรับตั๋วรถไฟฟรี บอก ไป กทม. พนักงานก็ปริ๊นตั๋วส่งให้ ใกล้เวลารถไฟจะมา เ้จ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินมาเห็นคุณลุงคนหนึ่งนั่งข้างๆถุงปุ๋ย เลยถามว่าคุณลุงได้ตั๋วหรือยัง เมื่อยังไม่ได้ เจ้าหน้าที่เลยปริ๊นตั๋วเอาไปส่งให้ถึงมือ คุณลุงจะลงชลบุรี มาที่นี่มาเก็บยาสมุนไพร



           
            รถไฟมาถึงสถานีตอน 14.03 น. ผู้โดยสารที่บ้านห้วยขวาง 4 คนขึ้นบนรถ รถแล่นผ่านสถานีพัทยา- บางละุมุง-ศรีราชา-ชลบุรี ผู้โดยสารตามสถานีที่แวะจอด มีไม่เยอะ ที่นั่งเลยดูโล่ง ว่างไปหมด นั่งเหยียดขาได้สบายๆ ดูเงียบเหงาไปนิด แ่ต่ก็ไม่เงียบเสียทีเดียว เพราะที่นั่งหล้งนายบอน ที่พนักที่นั่งหลังติดกัน มี 2สาวเรียนนิเทศนั่งอยู่ ที่รู้เพราะคุณป้าที่นั่งแถวตรงข้าม ถามไถ่และชวนคุณ เธออุ้มแมวน้อยน่ารักมาด้วย คงเอาแมวไปที่หอพักด้วย นั่งไปสักพัก มีเสียงโครม เพราะเบาะเก้าอี้ไม้ หล่นจากที่วางพนัง

            "อุ้ย...แม่"



            พอหันไปมอง พนักเก้าอี้หลุดลง ที่นั่งด้านหนึ่งลงพื้น อีกด้านยังคากับที่วางแขน ป้าเลยถามด้วยความเป็นห่วงว่า เป็นอะไรมั้ย ถลอกรึเปล่า โทรศัพท์ตก ยังใช้ได้มั้ย  นายบอนเลยหันไปมอง โห สองสาวย้อมผมแดง มาแนวญี่ปุ่น น่ารักดี แ่ต่ซวยนิดหน่อย เก้าอี้พัง จนต้องเอาขึ้นมาพาดที่พนักวางแขนอีกครั้ง

            รถไฟวิ่งมาถึงสถานีดอนสีนนท์ และ พานทอง รถจะจอดนานมากๆ ร่วมครึ่งชั่วโมง เพราะรอขบวนรถสินค้าที่จะวิ่งสวนมา เป็นรถไฟบรรทุกน้ำมันขบวนยาว เพราะบางช่วงที่มีรางรถไฟรางเดียว แต่บริเวณที่สถานีรถไฟจะทำไว้หลายราง ก็ต้องจอดรอให้รถสวนผ่านไปก่อน จึงจะวิ่งต่อไปได้ จอดอยู่3 ครั้ง แล้ววิ่งไปเรื่อยๆเวลา 17.05 น. ก็มาถึงสถานีฉะเชิงเทรา

            มาถึงแปดริ้ว ทีนี้มีผู้โดยสารขึ้นมาเยอะมากๆ มีสองสาวทำงานออฟพิศเิดินขึ้นมานั่งข้างๆ และเก้าอี้ตรงข้ามนายบอน  หน้าตาน่ารักทีเดียว แต่งหน้าได้ดูดี ได้ยินแต่เม้าท์เรื่องหนุ่มที่คุณเธอแอบปิ๊ง เงินเดือนเท่าไหร่ นามสกุลเป็นถึงหม่อมเ้จ้าเชียวนะ แหม ชอบหนุ่มไฮโซซะด้วย พอถึงสถานีเปรง ทั้งสองสาวก็ลงจากรถไป



            รถแล่นผ่านอีกหลายสถานี มาจนถึง สถานีหัวตะเข้ ชาน กทม.แล้ว มีนักศึกษาพระจอมเกล้าขึ้นมาบนรถเต็ม คงช่วงเลิกเรียนพอดี บรรยากาศคึกคักขึ้นมาทันที กลิ่นอายบรรยากาศการรับน้องใหม่ก็อยู่บนรถไฟขบวนนี้ทันที มีนักศึกษา 3 คน ชาย 2 หญิงหนึ่ง มานั่งเบาะข้างนายบอน หญิงหนึ่งเป็นรุ่นพี่ ออกเสียงเข้มปราม2 หนุ่มรุ่นน้อง แล้วก็มีอีกหนึ่งหนุ่ม ยื่นดอกไม้ให้ รุ่นพี่สาวปีสอง  ถามเสียงเข้ม "ใครบอกให้เอาดอกไม้มาให้ ใคร... บอกมา"

            ฝ่ายรุ่นน้องปี 1 ก็ยิ้มเขินๆ  รุ่นพี่หญิงถามต่อ เอามาจากไหน คาดคั้นพักหนึ่ง รุ่นน้องปีหนึ่งก็บอกว่า หักมาจากหน้าห้องน้ำชาย แต่ไม่ได้เยี่ยวใส่นะ แหม ยิงมุขกันตลอด แล้วรุ่นพี่สาวปี 2 ก็คิดมุกใหม่ บอกให้ได้น้องคนนี้ ถือดอกไม้ช่อน้อย บอกให้เดินไปมุมด้านโน้น ที่มีสาวๆ คณะเดียวกันนั่งอยู่ บอก ให้ไปคุกเข่าขอความรักกับพี่คนนั้นเร็ว..เร็วๆซี่ รุ่นน้องคนนั้นก็เิดินเขินๆ ไปบอกรุ่นพี่ปี 2 ที่นั่งอยู่มุมโน้น แล้วก็คุกเข่ายื่นดอกไม้ ตามที่ทางนี้สั่งไป คนทางนี้มองแล้ว ก็หัวเราะชอบใจ

            บรรยากาศคึกคัก สักพัก รุ่นน้องชายก็เดินไปคุยกับเพื่อนหลายคนที่ยืนอยู่ตรงประตู รุ่นพี่สาวปี 2 ที่นั่งอยู่คนเดียว เก้าอี้ฝั่งตรงหน้านายบอน ก็หยิบหูฟังมาฟังเพลงเพลินๆ ไม่สนใจอะไร แอบมองแว๊บ แหม ย้อมผมแดง บุคลิกซ่าได้ใจ พอรถวิ่งถึงสถานีมักกะสัน คุณเธอและน้องๆนักศึกษาก็ลงจากรถไฟ

            รถไฟจอดหยุดตามสถานีต่างๆ มาถึงหัวลำโพง 18.50 น. นั่งนานๆก็เหนื่อยเ้หมือนกัน ช่วงเวลารถติด นั่งรถเมล์ออกไป เจอรถติด นั่งนานอีก เลยไปรถไฟฟ้าใต้ดินซะเลย สถานีต้นทางก็อยู่ที่หัวลำโพงนี่แหละ เดินเข้าสถานีไปซื้อตั๋วไปลงจตุจักร 40 บาท



            ขึ้นรถไฟใต้ดิน ก็เจอผู้คนอีกบรรยากาศหนึ่ง คราวนี้เป็นหนุ่มสาว ออฟฟิศชาวกรุง มีนักศึกษาบ้าง แต่ชาวออฟฟิศเป็นส่วนมาก ขึ้นมาบนรถ แต่ละคนมี บีบี ipad, iphone ถือติดมือกันเพียบ แต่ละคนแต่งตัวกันเข้มทั้งนั้น ตามสไตล์ชาว กทม. มีสาวหนึ่งมายืนข้างๆนายบอน เพราะที่นั่งเต็ม แหม แต่งหน้าสวยทีเดียว แอบมองจนเพลิน เมื่อจอดหนึ่งสถานี มีคนออก มีที่ว่าง เธอขยับไปตรงที่ว่าง ระดับแสงที่ส่องกระทบคงจะเปลี่ยนไป มองอีกที ทำไมเครื่องสำอาง ดูสีมันไม่เข้ากับสีผิวซะงั้น ตอนยืนใกล้ๆยังดูน่ารักอยู่เลย พอเปลี่ยนมุมยืน ไหงดูแต่งหน้า สีไม่ลงตัว ไม่สมดุลอย่างนั้น เดี๋ยวดูน่ารัก เดี๋ยวดูเฉยๆ เลยไปมองคนอื่นๆ แหม มีน่ารักหลายๆคน

            ผ่านหลายสถานี มีคนเข้าๆออก เห็นสาวที่แต่งตัวเปรี้ยวๆหลายคน มีทั้งที่แต่งตัวเข้าท่า แต่ใบหน้าไม่ให้ บางคนก็ดีทุกส่วน ดูผู้คนจนเพลิน แป๊บเดียว ก็มาถึงสถานีจตุจักร ที่ว่าแป๊บ เพราะรถแล่นไปเรื่อยๆ รถไม่ได้ติดเหมือนบนถนน เลยมาถึงไว แต่ดูนาฬิกา จากหัวลำโพงมานี่ก็เกือบครึ่งชั่วโมงเข้าไปแล้ว  .แต่ถ้านั่งรถมาบนถนน คงใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมง

            ถึงจตุจักร ก็ขึ้นรถเมล์สาย 138 มาลงหมอชิต ผู้คนบนรถคนละแนวกับรถไฟใต้ดินเลย เพราะเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ นั่งรถเมล์ตามฐานะ รถวิ่งแป๊บนึง ก็ถึงหมอชิต 2 แ้ล้ว 2 ทุ่มพอดี ไปถามซื้อตั๋วกลับกาฬสินธุ์ ได้รถเที่ยวสุดท้ายพอดี 21.30.น. ถึงบ้านตี 5 ครึ่ง แ้ล้วก็ไปหาทางข้าว แต่ก็ไม่มีที่นั่ง เพราะคนที่รอขึ้นรถ ก็มาจับจองที่นั่งตรงที่กินข้าว นั่งเต็มกันหมด เลยไปหาขนมกิน กินตรงไหนก็ได้ แล้วเิดินไปที่ชานชลารอขึ้นรถ

            แต่เดิม ช่องรอขึ้นรถ 99 สายอีสานจะเป็นช่อง 4 ก/1, 5 ก/1 แต่เดือน มิ.ย.เปลี่ยนใหม่ เป็นช่อง 87-88-89-90 ให้เป็นตัวเลขอย่างเดียว เคยขึ้นที่ช่อง 4 ก1 ก็เปลี่ยนเป็นช่อง 87 ที่จริงก็ที่เดิม แค่เปลี่ยนตัวเลขช่องให้เรียกง่ายเท่านั้น ไม่มี ก ข ต่อท้าย  เรียกแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ



            รถที่นั่งกลับกาฬสินธุ์เป็นรถกาฬสินธุ์-สมเด็จ-ห้วยผึ้ง 30-370 รถคันที่คุ้นเคย นั่งประจำจากกาฬสินธุ์ มีคนขับที่อารมณ์ดี ขี้เล่นเฮฮา ชอบแซวผู้โดยสารสาวๆ แต่สุภาพมากๆ ดูแลผู้โดยสารดี พอรถมาเทียบท่า หลังจากเที่ยว 21.00 น. ออกจากท่าไปแล้ว คนขับอารมณ์ดีก็จะจัดให้ผู้โดยสารนั่ง หญิงกับหญิง ชายกับชาย จัดให้ใหม่เลย เพราะเคยมีผู้ชาย นั่งกับผู้หญิงแล้วอึดอัด บางคนไม่พอใจ บางคนเกร็ง เลยจับให้เพศเดียวกันนั่งด้วยกันเลย คราวนี้ก้ได้จัดอีก เมื่อผู้โดยสารชายที่นั่งหลัง ไม่พอใจที่นั่งติดกับผู้หญิงคนหนึ่ง คนขับเลยขอให้ผู้โดยสารชายตัวเล็กๆที่นั่งเบาะด้านหน้า ลุกไปนั่งคั่นกลางระหว่าง 2 คนนั้น

            ออกจาก หมอชิต 21.30 น. มาถึงสีคิ้ว ร้านอาหาร 199 จุดพักรถของ บขส. ตอน 0.20 น. ตั้งแต่ออกจากหมอชิตมา หลับตลอด เพราะเพลียๆ รถจอดก็ลงมาเข้าห้องน้ำ มาเจอสาวชุดดำ ผมยาว โห...หน้าตาดี แถมตอนขึ้นรถก็นั่งเบาะฝั่งตรงข้ามซะด้วย  แต่ก็ได้แค่ดู พอรถออกก็ปิดไฟมืด เลยหลับต่อ มาถึงมหาสารคาม 2 สาวก็ลงจากรถไป มาถึงกาฬสินธุ์ตอน 5.30 น.
   

Related Posts by Categories



Widget by Hoctro | Jack Book

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น