สถานการณ์การเมืองในเวลานี้ การความขัดแย้งระหว่างคนสีต่างๆ ทั้งสีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน ดูเหมือนรอเวลาที่จะระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง ในความรู้สึกของคนทั่วไปนั้น คนเสื้อแดง ไม่เห็นข้อดีของคนเสื้อเหลืองในสายตาเลย และคนเสื้อเหลืองก็ไม่เคยเห็นด้านดีๆของคนเสื้อแดงแม้แต่น้อย ดูท่าแล้ว ประเทศไทยคงต้องถูกแบ่งพื้นที่ประเทศแน่ๆ
แต่ในความเป็นจริง ใช่ว่า จะเป็นอย่างความรู้สึกนึกคิดของคนที่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์คิดเช่นนั้นเสมอไป
เมื่อเดือน พ.ย. 2552 เกิดอุบัติเหตุ รถมอเตอร์ไซต์ถูกระกระบะที่วิ่งด้วยความเร็วสูงมาบนถนนมิตรภาพ เฉี่ยวจนรถมอเตอร์ไซต์ต้องหลบลงข้าวทาง คนขับมอเตอร์ไซต์แขน ขาถลอก พกช้ำไม่มากนัก คนที่ขับมอเตอร์ไซต์ตามมา ได้เข้าช่วยเหลือ พาคนที่ถูกรถเฉี่ยวไปทำแผลที่คลินิคแห่งหนึ่ง จึงได้สอบถามชื่อ ทำความรู้จักกัน คนที่ถูกรถเฉี่ยว ชื่อ "ต้อม" ส่วนคนที่มาช่วยเหลือ ชื่อ "แดน"
อีก 3 วันต่อมา ระหว่างที่ต้อมกำลังเดินซื้อของที่ตลาด เห็นคุณยายคนหนึ่งกำลังขี่รถจักรยานซ้อนท้ายหลานสาวสะพายกระเป๋าในเล็ก ช่วงนั้นเป็นเวลาเลิกเรียน คุณยายคงไปรับหลานตอนเลิกเรียน ระหว่างที่ขี่จักรยานผ่าน 3 แยกมาได้ไม่กี่เมตร รถจักรยานดูเหมือนจะเสียการทรงตัว ตัวรถเอียงจะล้ม คุณยายพยายามทรงตัวจับตัวรถเอาไว้ แต่สัมภาระ อาหาร ถุงขนม ที่อยู่ในตะกร้าหน้ารถ ก็หล่นออกมาบนพื้นถนน ส่วนหลานสาวก็หล่นจากรถ กระเป๋าสะพายหลุดจากหลัง ต้อมอยู่ตรงนั้นพอดี เลยเข้าไปช่วยประคองรถ และเก็บสัมภาระที่หล่นลงมา ใส่ตะกร้าหน้ารถ หยิบกระเป๋าใบสีชมพูของหลานสาวขึ้นมา ช่วยปัดดินที่ติดตามแขน ขาของหลานสาวคุณยายให้ แล้วถามว่า "เจ็บรึเปล่า"
แดนขับรถมอเตอร์ไซต์ผ่านมาพอดี เลยจอดรถแวะดู บอกว่า เด็กคนนี้ เป็นลูกสาวของเขาเอง ส่วนคุณยายก็คือ คุณแม่ของแดน เลยขอบคุณ ต้อมยกใหญ่ และชวนไปทานข้าวเย็นที่บ้านของแดน ที่อยู่แถวๆตลาดแห่งนั้น
ต้อมกับแดนคุยกันถูกคอ แต่แล้ว สายตาของต้อมก็เหลือบไปเห็นเสื้อสีแดง "ความจริงวันนี้" ที่แขวนอยู่ที่ราวตากผ้าข้างรั้วบ้านของแดน.... อ้าว "แดนเป็นคนเสื้อแดงหรือนี่" แต่ต้อมก็ไม่ได้ถูกอะไรเกี่ยวกับการเมือง ต้อมไม่อยากแสดงตัวว่า ตัวเองเป็นคนเสื้อเหลือง เป็นพันธมิตร ถ้าไม่พูดเรื่องการเมือง คนไทยทุกคนก็น่าจะคบหากันได้
แต่บังเอิญ มีเพื่อนบ้านคนหนึ่ง เอาถุงผลไม้มาให้แดน พอเห็นหน้าต้อม ก็บอกว่า "เฮ๊ย ไอ้นี่มันพวกเสื้อเหลืองนี่หว่า ชวนมันมาที่บ้านได้ยังไงวะ"
แดนถึงกับอึ้ง มองหน้าต้อมอยู่ครู่หนึ่ง หันไปบอกเพื่อนบ้านคนนั้นว่า
"เสื้อเหลืองแล้วไงวะ ยังไงเค้าก็มีน้ำใจช่วยเหลือ แม่กับลูกสาวของข้านะ"
แล้วก็พูดคุยกันตามปกติ
ช่วงหนึ่ง แดนก็ชวนคุยเรื่องการเมืองจนได้ บอกว่า เลือกข้างผิดก็คิดใหม่ได้นะ คนอีสานตั้งเยอะ ไม่ชอบรัฐบาล ชอบทักษิณ เดี๋ยวเลือกตั้งใหม่ พรรคของทักษิณจะกลับมาบริหารประเทศ คราวนี้ล่ะอยู่ยาว คอยดูตอนนั้นละกัน ถ้าจะเลือกข้างใหม่ก็ยินดีนะ
ต้อมก็พูดขึ้นมาบ้านเหมือนกัน ทักษิณทำลายชาติ มีแต่เสื่อมลงทุกที คอยดูคำทำนายของหลวงตามหาบัวละกัน ท่านบอกว่า อีกไม่นานทักษิณจะสูญเสียหมดทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สินเงินทอง แม้แต่ชีวิตก็จะรักษาไว้ไม่ได้
คุยกันแบบนี้ ดูท่าทาง อาจจะมีการปะทะ จนถึงลงไม้ลงมือกันได้ แต่ความจริง กลับไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งคู่คุยกัน แบบหยอกๆ เหมือนกับแฟนฟุตบอลทีม แมนฯยู กับ ลิเวอร์พูล ที่พูดถึงทีมโปรดของตน และพูดจาทับถม เย้ยหยันทีมคู่แข่ง ต้อมกับแดน ก็พูดคุยในลักษณะเดียวกัน พูดถึงฝ่ายที่ตัวเองเชียร์ และทับถม เย้ยหยันอีกฝ่าย แล้วก็คุยกันเรื่องอื่นๆ
ครั้งต่อๆมา เจอกัน ก็แซวๆกัน "เป็นไงวะ ไอ้คนเสื้อแดง ไม่ไปชุมนุมที่อุดรเหรอ" "เฮ๊ย เมื่อไหร่พวกพันธมิตรจะชุมนุมอีกวะ งานยังไม่เข้าอีกเหรอ"
คงมีอีกหลายที่ หลายคน ที่คบกันได้ แต่ไม่เคยถูกกล่าวถึงมากนัก
แม้จะต่างขั้ว ต่างสีกัน แต่ก็ยังอยู่ร่วมกันได้ เป็นเพื่อนกันได้
คุณวิรัตน์ ขอนแก่น -เรื่องราว
อีก 3 วันต่อมา ระหว่างที่ต้อมกำลังเดินซื้อของที่ตลาด เห็นคุณยายคนหนึ่งกำลังขี่รถจักรยานซ้อนท้ายหลานสาวสะพายกระเป๋าในเล็ก ช่วงนั้นเป็นเวลาเลิกเรียน คุณยายคงไปรับหลานตอนเลิกเรียน ระหว่างที่ขี่จักรยานผ่าน 3 แยกมาได้ไม่กี่เมตร รถจักรยานดูเหมือนจะเสียการทรงตัว ตัวรถเอียงจะล้ม คุณยายพยายามทรงตัวจับตัวรถเอาไว้ แต่สัมภาระ อาหาร ถุงขนม ที่อยู่ในตะกร้าหน้ารถ ก็หล่นออกมาบนพื้นถนน ส่วนหลานสาวก็หล่นจากรถ กระเป๋าสะพายหลุดจากหลัง ต้อมอยู่ตรงนั้นพอดี เลยเข้าไปช่วยประคองรถ และเก็บสัมภาระที่หล่นลงมา ใส่ตะกร้าหน้ารถ หยิบกระเป๋าใบสีชมพูของหลานสาวขึ้นมา ช่วยปัดดินที่ติดตามแขน ขาของหลานสาวคุณยายให้ แล้วถามว่า "เจ็บรึเปล่า"
แดนขับรถมอเตอร์ไซต์ผ่านมาพอดี เลยจอดรถแวะดู บอกว่า เด็กคนนี้ เป็นลูกสาวของเขาเอง ส่วนคุณยายก็คือ คุณแม่ของแดน เลยขอบคุณ ต้อมยกใหญ่ และชวนไปทานข้าวเย็นที่บ้านของแดน ที่อยู่แถวๆตลาดแห่งนั้น
ต้อมกับแดนคุยกันถูกคอ แต่แล้ว สายตาของต้อมก็เหลือบไปเห็นเสื้อสีแดง "ความจริงวันนี้" ที่แขวนอยู่ที่ราวตากผ้าข้างรั้วบ้านของแดน.... อ้าว "แดนเป็นคนเสื้อแดงหรือนี่" แต่ต้อมก็ไม่ได้ถูกอะไรเกี่ยวกับการเมือง ต้อมไม่อยากแสดงตัวว่า ตัวเองเป็นคนเสื้อเหลือง เป็นพันธมิตร ถ้าไม่พูดเรื่องการเมือง คนไทยทุกคนก็น่าจะคบหากันได้
แต่บังเอิญ มีเพื่อนบ้านคนหนึ่ง เอาถุงผลไม้มาให้แดน พอเห็นหน้าต้อม ก็บอกว่า "เฮ๊ย ไอ้นี่มันพวกเสื้อเหลืองนี่หว่า ชวนมันมาที่บ้านได้ยังไงวะ"
แดนถึงกับอึ้ง มองหน้าต้อมอยู่ครู่หนึ่ง หันไปบอกเพื่อนบ้านคนนั้นว่า
"เสื้อเหลืองแล้วไงวะ ยังไงเค้าก็มีน้ำใจช่วยเหลือ แม่กับลูกสาวของข้านะ"
แล้วก็พูดคุยกันตามปกติ
ช่วงหนึ่ง แดนก็ชวนคุยเรื่องการเมืองจนได้ บอกว่า เลือกข้างผิดก็คิดใหม่ได้นะ คนอีสานตั้งเยอะ ไม่ชอบรัฐบาล ชอบทักษิณ เดี๋ยวเลือกตั้งใหม่ พรรคของทักษิณจะกลับมาบริหารประเทศ คราวนี้ล่ะอยู่ยาว คอยดูตอนนั้นละกัน ถ้าจะเลือกข้างใหม่ก็ยินดีนะ
ต้อมก็พูดขึ้นมาบ้านเหมือนกัน ทักษิณทำลายชาติ มีแต่เสื่อมลงทุกที คอยดูคำทำนายของหลวงตามหาบัวละกัน ท่านบอกว่า อีกไม่นานทักษิณจะสูญเสียหมดทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สินเงินทอง แม้แต่ชีวิตก็จะรักษาไว้ไม่ได้
คุยกันแบบนี้ ดูท่าทาง อาจจะมีการปะทะ จนถึงลงไม้ลงมือกันได้ แต่ความจริง กลับไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งคู่คุยกัน แบบหยอกๆ เหมือนกับแฟนฟุตบอลทีม แมนฯยู กับ ลิเวอร์พูล ที่พูดถึงทีมโปรดของตน และพูดจาทับถม เย้ยหยันทีมคู่แข่ง ต้อมกับแดน ก็พูดคุยในลักษณะเดียวกัน พูดถึงฝ่ายที่ตัวเองเชียร์ และทับถม เย้ยหยันอีกฝ่าย แล้วก็คุยกันเรื่องอื่นๆ
ครั้งต่อๆมา เจอกัน ก็แซวๆกัน "เป็นไงวะ ไอ้คนเสื้อแดง ไม่ไปชุมนุมที่อุดรเหรอ" "เฮ๊ย เมื่อไหร่พวกพันธมิตรจะชุมนุมอีกวะ งานยังไม่เข้าอีกเหรอ"
คงมีอีกหลายที่ หลายคน ที่คบกันได้ แต่ไม่เคยถูกกล่าวถึงมากนัก
แม้จะต่างขั้ว ต่างสีกัน แต่ก็ยังอยู่ร่วมกันได้ เป็นเพื่อนกันได้
คุณวิรัตน์ ขอนแก่น -เรื่องราว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น