บางส่วนจากการพูดคุยระหว่างลุงพงศ์ + ลุงสุเวศน์ ที่จันทบุรี มีป้ามีดบิน และป้ากร ร่วมวง..กับข้อมูลและข้อคิดหลายอย่างที่ยังมีคุณค่า แม้ตัวจากไป แต่ความรู้ยังคงอยู่......
ลุงพงศ์ - ..เราจะทำขิงดอง จากกิโลละ 25 บาท เราสามารถขายได้กิโลละ 400-500 ทำไมเราไม่ทำกัน เราทำสูตรเดียวกันทั่วประเทศแล้ว ส่งไปตีตลาดขาย เรามีตลาดอยู่แล้ว ทำ อย.กัน แล้วทำไม เราคิดจะไม่ทำ ผมมีแนวคิดที่จะทำแบบนี้. สอง คนทำน้ำพริกเผา ลงทุนแค่ไม่กี่บาท สามคุณทำน้ำพริกข่า น้ำพริกตะไคร้ คุณทำในลักษณะหมู่บ้าน อยู่ในสูตรเดียวกันทั้งหมด เราส่งไปศูนย์กลางที่กรุงเทพฯ หรือว่าส่งไปในศูนย์ของ MK หรือ ว่าศูนย์ของใน เซเว่นอีเลฟเว่นกับตามที่ต่างๆ ทำไม เค้าจะไม่รับของเรา ก็ต้องทำ ชาวบ้าน เค้าจะได้มีอาชีพทำ พอควร
เป็นแนวคิดบางอย่างที่เราควรจะทำร่วมกัน คุณจะไปทำที่กาฬสินธุ์ คุณจะไปทำที่ขอนแก่น คุณจะไปทำที่จันทบุรี คุณจะไปทำที่เชียงใหม่ คุณจะทำที่ตรงนี้น่ะนะ และก็เป็นในแบรนด์เดียวกันทุกอย่าง แต่ว่า วัตถุดิบ เราสามารถบอกเกษตรกรในท้องถิ่น ทำก็ได้ อย่างขิงดองเนี่ย คุณจะปลูกในตรงนี้ก็ได้ เรารับซื้อรับประกันราคาซื้อ ถ้าคุณขายราคา 25 บาท คุณชำระให้เราเรียบร้อยเนี่ย เราซื้อรับประกันไปตลอดปีตลอดชาติ หรือว่า เอามาจากแม่จัน แม่สาย ก็เสียค่าขนส่งหน่อยนึง ถ้าเราทำแบรนด์เป็นของเราเอง ทำไมเราจะขายไม่ได้ทั่วประเทศเนี่ย และทุกคนตั้งแต่เกษตรกร คนปลูก ตั้งแต่คนขาย ตั้งแต่แม่บ้าน อย่างขิงดอง ลงทุนกันแค่ คนละ 500 ๆๆๆๆๆ หรือการตั้งกลุ่มไอโดรโพนิกส์ หรือการตั้งกลุ่มปลูกพืชไร้ดิน หรือเกี่ยวกับการเพาะเห็ดเศรษฐกิจเนี่ย ลงทุนแค่คนละ 800 หรือ 900 ถึง 1,000 บาทเนี่ย
คนละแค่พันบาท แต่ละคนที่เข้ามาทำเนี่ย เราบริหารจัดการให้ได้ในทุกภาคส่วน แต่ว่าขอให้เกิดการรวมกลุ่มกันทำ ไม่ใช่ว่า กูทำดังแล้วกูจะทำเอง... คนไทยจะมีปัญหา
ลุงสุเวศน์ - จริงๆแล้ว ถ้ากลุ่มมันดัง แบรนด์มันดังขึ้นมาคุณรับคนเดียวไม่ไหวหรอก มันทำไม่ทัน มันไม่ใช่ 100 โล 200 โล แต่เป็นตัน คุณจะรับได้ไหวมั้ย
..เคยได้ยินชื่อยายแกลบมั้ย ตอนที่ยายแกลบเริ่มต้นใหม่ๆ ผมเป็นผู้ดำเนินรายการ เสวนากันเนี่ย แต่ตอนนี้เค้าไปไกลแล้ว แต่ผมไร่เดียวยังจนอยู่ เพราะดีแต่พูด
ลุงพงศ์ - คือ หนึ่งนะพี่ มันต้องเกิดการรวมกลุ่ม เกิดที่มวลชนในจันทบุรี พี่จัดการ ลุงพงศ์จะมาสอนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ พอเสร็จปุ๊บ ลุงพงศ์จะไปสอน ให้เกิดการรวมกลุ่ม โคราช อาจจะมีคนนึง เราประสานกัน ถ้าทาง MK ต้องการวันละ 1 ตัน หรือพันกิโลเนี่ย ผมทำไม่ได้หรอก คุณทำมา 300 กิโล ตรงนั้น 300 กิโล ที่โน่น 400 กิโล มารวมกันเพื่อขายเค้า ไม่ใช่แค่ขายในกรุงเทพ คุณขาย MK ในส่วนของภาคตะวันออก ขายเอ็มเคในส่วนของภาคอีสาน คุณขายเอ็มเคในส่วนภาคใต้ หรือว่าที่ศูนย์กระจายสินค้าของเซเว่นอีเลฟเว่น มันมีกระจายสินค้าทั่วประเทศ เราก็ไปส่งตรงนั้น ตรงนั้น ทำไมเราจะทำไม่ได้ เราสามารถทำได้ แต่ว่าตรงนี้ ไอเดียที่ว่า สามารถเกิดการรวมกลุ่ม เครือข่าย เราควรจะทำอย่างไร
ลุงสุเวศน์ - ผมจะเล่าประวัติยายแกลบให้ฟัง แกทำเรื่องกล้วยทอด ถ้าผมจำไม่ผิด ก็หลายปีเหมือนกัน แกเป็นนักสู้ เหมือนลุงพงศ์เนี่ย แกจะทำๆๆๆ จนกระทั่ง ชื่อเสียงแกเริ่มติด ผมก็สนใจแก แล้วก็สนใจ สินค้าด้วย เค้าบอกว่า ถ้าคุณจะขึ้นระดับนี้ คุณสามารถทำส่งได้มั้ย เป็นพัน... แกไม่ยอมแพ้ แกรับเลย บังอาจ พอรับแล้วนะ ก็ต้องวิ่งๆๆๆ หนึ่งเดือนเต็ม แกยังไม่ได้คำตอบ เท่าที่ผมรู้นะ แกมาเริ่มได้คำตอบ หลังจากสองเดือนไปแล้วนะ ด้วยความที่แกสู้ ถ้าไม่รับปาก แกไม่ได้เกิด นึกออกมั้ย คำพูดมันบังคับน่ะ ลุยใหญ่เลย สั่งโน่นสั่งนี่ หาความร่วมมือ ผลสุดท้ายตอนนี้ แกดังมาก มันเหรียญสองด้านเลยนะ ที่จะพลิกน่ะ เนี่ย ผมว่า เป็นแนวทางที่น่าศึกษานะ ยายแกลบเนี่ย ดูเหมือนแกจะเสี่ยง ถ้ามีลักษณะนี้ซัก 10 กว่าคน ..ทักษิณรวยขึ้นมา เท่าที่รู้ ไม่ได้ใช้ทุนตัวเองนะ แต่เค้ามีวิธีคิด
< < < < วิจารณ์ ทักษิณ+ การเมือง + ฟังในคลิปเสียง> > > >
ลุงสุเวศน์ - ..ผมผ่านจุดไอ้ที่มันแตกแยกไปนะ เราไม่อยากไปยุ่งกันมัน
ลุงพงศ์ - เราไม่มีอะไรมากมาย เพราะเรามีแค่ 2-3 เสียง 4-5 เสียง ถึงเราไปยุ่งกับมัน มันก็ไม่ได้ทำให้ประเทศชาติเป็นอย่างที่เราคิดงัย
ลุงสุเวศน์ - มันมีคนเดียวที่คุยกับผมไม่ได้ ทำไมรู้มั้ย เราฟังเค้าได้ แต่เราคุยกับเค้า เค้าไม่ฟัง มันต้องแลกกันงัย เราต้องเลือกฟังนะ มันได้ปัญญานะ
ลุงพงศ์ - พอเสร็จปุ๊บ คุณจะให้ปรองดอง ให้นิรโทษกรรม ให้ทักษิณกลับมาเหรอ แล้วระบบศาล ควรจะอยู่ตรงไหนล่ะ ก็ปวดหัวเหมือนกัน ไม่เอาละ กูขี้เกียจคุยเรื่องการเมือง ลุงค่อนข้างจะมีแนวทางในการวิเคราะห์สถานการณ์ ถ้าวันไหนลุงวิเคราะห์สถานการการเมือง ลุงจะบอกตั้งแต่เช้าเลยว่า จะวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง 2 ชั่วโมงเต็มที่คนเมืองเรดิโอ เด้อ คนฟัง สอง-สามร้อยคน เราก็วิเคราะห์ตามที่เรารู้นะ ถ้าคนที่วิเคราะห์จริงๆ เค้าควรที่จะรู้ลึกซึ้งยิ่งกว่าเรา ลุงเกือบรู้จักหมดล่ะ สนธิ บุญยรัตนกลิน ลุงก็รู้จัก เป็นเพื่อนลุงคนเชียงใหม่ .... มันโทรมานะ มาคุย ..คนนี้เป็นใคร .ลุงพงศ์เหรอ .. ครับ .... นี่ใครนิ .... ผม.. สนธิ บุญยรัตนกลิน โห แล้วมึงโทรคุยกะกูทำไม มึงไม่ต้องคุยกะกู ... เออ... พี่ พี่สบายดีเหรอ พี่ปฏิวัติทำไม เราก็ถามตรงๆนะ ว่า เหตุผลในการปฏิบัติ มันเป็นยังไง มี แต่ผมไม่อยากพูดออกมาให้พี่ได้ฟัง เค้าบอก ว่า ยังงี้ๆๆๆๆๆ โอเค พอแล้ว กูรู้ว่า มึงทำเพื่ออะไร แต่ตอนนี้ มึงมาทำแบบนี้ แล้วมึงทำ หาหอกอะไร แล้วก็ลุงอยากจะถามมันว่า มึงจะมาทำแบบนี้ เพื่ออะไร พอเสร็จปุ๊บ ก็ถามเค้า ก็ถามเค้า เออ คุณทำอะไรแบบนี้ ได้ผลประโยชน์ต่อประเทศชาติยังงี้ๆๆ ย้อนหลังไป 10 ปี 20 ปี มันไม่ใช่ คุณต้องการล้มคนนี้ เพื่อคนนี้ใช่มั้ย คุณต้องการตรงนี้ใช่มั้ย ลุงถามอย่างเดียว เค้าไม่ตอบ พอดี ท่านพลเอกกิตติศักดิ์ รัตนประเสริฐ เสธ อู๊ด บอก เบาๆหน่อยลุง เออ ลุงเป็นสื่อมวลชนโว้ย ถ้ามึงไม่ตอบ กูก็ไม่ถามแล้ว พอแล้ว จบ จบแค่นั้นก็พอ แล้วกูจะถามไปหาพระแสงของ้าวอะไร
ลุงสเวศน์ - ตอนผมเรียนจบสื่อสารมาใหม่ๆ กำลังเห่อเลย สมัครตัวเข้าไปเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เค้าบอก ไอ้น้อง ลงการเมืองเลย เราก็ภูมิใจมาก สะพายกล้องออกจากสำนักงานอย่างสง่าผ่าเผยเลย ไปถึงจะไปสัมภาษณ์รัฐมนตรี รัฐมนตรีไม่พูด โอย ชีวิตการเป็นนักข่าวครั้งแรก มันเซ็งขนาดนี้เลยหรือนี่ ผมไปบอกลูกพี ชีวิตการเป็นนักข่าวของผมมันจบสิ้นแล้ว... ทำไมวะ ..รัฐมนตรีไม่ยอมพูด.... ลุกพี่ว่างัยรู้มั้ย รัฐมนตรีไม่ยอมพูด มึงพาดหัวตัวโตๆไปเลย ไม่พูดเป็นข่าวใหญ่เลยเนี่ย....
วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
บันทึกถ้อยคำ ลุงพงศ์คุยกับลุงสุเวศน์ 10 เม.ย.2555 (ตอนที่ 1)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น