ในโลกออนไลน์ ทุกคนมีโอกาสได้พบเจอเพื่อนมากมายภายในพริบตา และปลายนิ้ว ทำให้เราได้รู้จักผู้คนมากมายผ่านทางโลกไซเบอร์ หลายครั้งที่มีโอกาสได้รู้จักคนบ้านเดียวกัน แต่อยู่คนละจังหวัด บางครั้งมีแนวความคิดตรงกัน ต่อสู้ในเรื่องเดียวกัน แต่ดูเหมือนจะมีโอาสน้อยจริงๆ เพราะส่วนใหญ่ จะมีโอกาสได้รู้จักคนที่มีแนวคิดตรงกัน ต่อสู้เรื่องเดียวกัน แ่ต่อยู่ต่างจังหวัด คนละจังหวัดซะนี่
เล่น facebook มีโอกาสได้รู้จักเพื่อนหลายคนที่เป็นคนกาฬสินธุ์บ้่านเดียวกันอยู่หลายคน แต่ทว่า ไม่ได้ต่อสู้ในเรื่องเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องความถูกต้อง เรื่องการรักชาติ รักแผ่นดิน ต่างคนต่างมีความคิด มีเหตุผล ความชื่นชอบของแต่ละคน
แล้วใันวันอาิทิตย์ที่ 13 มี.ค.54 ก็ได้รู้จักกับน้องอ้อม Aom รักในหลวง ใน facebook เมื่อมีคำขอเป็นเพื่อน ซึ่งก็กดรับไปตามธรรมเีนียม เพราะมีคำขอเป็นเพื่อนมาตลอด พอดีเป็นวันหยุด ช่วงเวลาว่างๆ ก็เลยลองคลิกเข้าไปดูข้อมูลของน้องอ้อมสักนิด
เมื่อเห็นว่า จบ kku และดูข้อมูลที่เม้นท์ และโพสต์แบบคร่าวๆ มีคำว่า "เป่านกหวีด" ด้วยแฮะ แบบนี้ ก็เป็นพวกเดียวกัน รักชาติ รักแผ่นดินเหมือนกันนี่นา แบบนี้พอจะคุยกันได้สนิทใจ คลิกๆดูไป อ้าว เป็นพันธมิตรเหมือนกัน และมีพรรคพวกกลุ่ม TGO เข้ามาทักน้องอ้อมอย่างคุ้นเึคย แบบนี้ พวกเดียวกันชัดเจน
เริ่มเปิดประเด็นคุยกัน จากเรื่องข่าวตำรวจจะสลายการชุมนุม ก่อน 15 มี.ค. .. เป่านกหวีดแล้ว แล้วน้องอ้อมก็เล่า ว่า
Aom รักในหลวง คราวที่แล้วอ้อมลาออกจากงานไปสู้ อยู่ได้ถึงไหนถึงกัน แต่คราวนี้จะลาออกอีกก็คงไม่ได้เพราะภาระเยอะคงไปได้ช่วงเสาร์ทิต แต่ยังไงก็สู้ไม่ถอยอยู่แล้ว
...........โห ถือว่า เป็นคนจริง แน่จริงเหมือนกัน ถึงขนาดลาออกจากงานไปต่อสู้ในช่วงปี 2551 แสดงว่า เป็นผู้หญิงที่มีหัวใจนักสู้ตัวจริงเ้สียงจริง หลายคนไม่กล้าตัดสินใจอย่างน้องอ้อม ที่ลาออกมาสู้ทั้งตัวและหัวใจ
เปิดไปหาดูภาพเก่าๆของน้องอ้อม มีหลายภาพ แต่ภาพนี้ที่ประทับใจมากเป็นพิเศษ
น่าจะเป็นภาพเมื่อ 7 ต.ค.2551 ที่น้องอ้อมไปร่วมต่อสู้ในวันนั้นด้วย ท่ามกลางความไม่แน่นอน ความระทึก และข่าวลือต่างๆ สิ่งสำคัญที่ทำให้หลายคนหยัดยืนต่อสู้อยู่ได้ คือ สิ่งที่อยู่ในหัวใจ และน้องอ้อมแสดงออกมาตรงกำปั้นที่ชูขึ้น
ปัจจุบัน เธอเป็นนักกาพภาพบำบัดอยู่ที่ รพ.ภูเวียง จบ มข.หลังนายบอน 10 รุ่น ก่อนที่จะมาร่วมทีมกับ TGO มาเป็นพันธมิตร เธอก็เหมือนกับคนทั่วๆไป ที่ยังไม่ได้สนใจติดตามการเมืองมากนัก แต่วันหนึ่ง เมื่อเข้าอินเตอร์เนต เข้าเวบผู้จัดการออนไลน์ เพื่ออ่านคอลัมซ้อ 7 แล้วไล่อ่านสิ่งต่างๆในหน้าเวบ จนมาพบกับ mblog ได้อ่านบันทึกต่างๆ
".....พี่รู้ป่าวว่าอ้อมรู้จักพันธมิตรจากบล๊อกพี่กะพี่แคทหาดใหญ่ เป็นคนจุดประกายให้อ้อมรักชาติเลยนะ..."
ยิ่งทึ่งไปใหญ่ น้องอ้อมรู้จักนายบอนมาก่อน ติดตามอ่านบันทึกในช่วงนั้น จนกลายเป็นคนรักชาติในวันนี้ และยังได้ร่วมต่อสู้ในเกือบทุกเหตุการณ์สำคัญๆใน กทม. จนนายบอนต้องขออคารวะในความกล้าหาญ เสียสละเวลาของเธอ
Aom รักในหลวง อายอ่ะ ที่จะบอกว่าเมื่อก่อนตอนอยู่อเมริกาอ่านเว็ปผจกเพราะคอลัมน์ซ้อเจ็ด แต่พออ่านจบไม่มีไรอ่านก็เลยไปอ่านในบล็อกถึงรู้เรื่องพันธมิตร ก็เลยเกิดสำนึกรักชาติตอนที่ไม่ได้อยู่แผ่นดินไทยซะงั้น ไม่ต้องคารวะอ้อมหรอก อ้อมก็ทำในสิ่งที่อ้อมสามารถทำได้เท่านั้น แต่อ้อมภูมิใจนะที่ได้อยู่ในเกือบทุกเหตุการณ์ที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาติ แต่คราวนี้ยังไม่ได้ไปเลย เศร้า
นายบอน กาฬสินธุ์ ไม่ต้องอายหรอก แรกๆ ทุกคนก็ไม่รู้เรื่องพันธมิตรหรอก แต่หลังจากได้รู้ข้อมูล แล้วการมาร่วมต่อสู้นี่สิ อันนั้นน่ะสำคัญ ยิ่งอ้อมมีโอกาสเ้ข้าร่วมสู้หลายครั้ง ยิ่งน่าชื่นชม
Aom รักในหลวง อยู่นี่อ้อมก็ไม่มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เลย เวลาไปชุมนุมก็ไปเองตลอด มีหลังๆที่ไปกะพธม.ขอนแก่นบ้าง ใครจะคิดยังไงก็ช่างเค้าเถอะพี่ ขอให้เรามั่นใจว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วก็ยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องก็พอ อย่างน้อยพี่ก็มีอ้อมเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่อยู่ภูธรนะ
อือม เท่าที่คุยกันผ่าน facebookในเวลาไม่นาน ถือว่า คุยได้เรื่อยๆ ดูเหมือนน้องอ้อมจะออนไลน์อยู่ตลอด การทีุ่คุยได้ตลอด เพราะความเป็นคนบ้านเดียวกัน อุดมการณ์รักชาติเหมือนกัน และนักสู้ภูธรเหมือนๆกัน
ในห้วงเวลาที่หลายคน เปลี่ยนไป เปลี่ยนอุดมการณ์ เลือกความอยู่รอดของตัวเองเป็นหลัก แม้ว่า คนที่ยังยืนหยัดต่อสู้ เหมือนช่วง 193 วันจะมีน้อยลง แต่ก็เป็นเหมือนสิ่งที่บอกว่า ใครคือ ทองแท้ทองเทียม... แต่อย่างน้อยก็มีน้องอ้อมคนหนึ่งล่ะ ที่ัยังมั่นคงในความรักชาติ รักความถูกต้องเหมือนกับชาว TGO และพี่น้องพันธมิตรที่ยังยืนหยัดอยู่จนถึงวันนี้
ขอคารวะอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น