เมื่อชีพจรลงเท้าให้นายบอนต้องเข้ามาทำธุระหลายอย่างใน กทม. ตั้งแต่เช้าตรู่ 16 ม.ค.2554 ที่อนุสาวรีย์ชัย, สะพานควาย มาจนถึงย่านลาดพร้าว ล้วนแต่เป็นเรื่องเครียดๆทั้งนั้น แต่พอช่วงก่อนเที่ยงก็เริ่มผ่อนคลายสมใจ เมื่อได้นัดพบเจอกับเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานร่วม 10 ปี มาคราวนี้ เธอมาพร้อมกับ "พี่นิก" สามีที่แต่งงานกันมาได้ร่วมปีเศษ หลังจากเทียวไปมาระหว่าง กทม-ขอนแก่นทุกสัปดาห์ จนเธอตัดสินใจย้ายมาทำงานใน กทม. สมหวังทุกฝ่าย หลังทานข้าวเที่ยง คุยกันจนหายคิดถึงแล้ว จึงแยกย้ายเพื่อจะกลับมาพบกันใหม่ พร้อมกับเพื่อนที่ไม่ได้มาในวันนี้ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
แยกจากเพื่อนก็เป็นเวลา 13.00 น.แล้ว นายบอนรีบขึ้นรถเมล์สาย 104 ไปเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ไปเจอคุณ Kat Atthakor และคุณ Sako ตามนัดทันที ครึ่งชั่วโมงผ่านไปก็มาถึงที่หมาย รถติดพอสมควร โทรไปบอกคุณ sako ว่ามาถึงแล้ว อีกชั่วโมงเศษๆ คุณsakoและคุณ kat พึ่งขับรถออกมาถึงหน้าเดอะมอลล์ เพราะวันนี้รถติดมากจริงๆ ถึงแม้จะพักอยู่แถวนั้น แต่กว่าจะรถออกมาถึงเดอะมอลล์ได้กลับใช้เวลานาน เมื่อรับนายบอนขึ้นรถจากหน้าเดอะมอลล์แล้ว ก็วิ่งไปตามเส้นทางที่จะไปบางแค เพราะนายบอนจะพาไปเยี่ยมคุณ sasivimol ถึงบ้านพักของเธอ แต่คุณ sakoและคุณ kat ขอแวะทานก๋วยเตี๋ยวก่อน เพราะหิว..
จากร้านก๋วยเตี๋ยวขับรถมาตามถนนราชพฤกษ์มาโผล่ที่ท่าพระ ขับไปตามถนนเพชรเกษม จนมาถึงปากซอยบ้านคุณ sasivimol คุณ kat เลยรีบโทรบอกคุณ koko ให้ขับรถมาเจอกันที่นั่น พร้อมบอกเส้นทาง ทางเข้าและจุดสังเกตไว้พร้อม แล้วขับรถเข้าไปในซอยจนสุดซอย หาที่จอดรถแล้ว ลงจากรถมาข้ามสะพานมายังหน้าประตูบ้านคุณ sasi ประตูเปิดแง้มรอไว้แล้ว นายบอนโทรเข้าไปบอก
"มาแล้วโว้ย...."
"เออ..เข้ามารอที่ศาลา กำลังต้มปลาอยู่ ..แล้วนั่น พาใครมาวะ"
แหม... มองเห็นซะด้วย มองจากตรงไหนวะเนี่ย
เมื่อพาคุณ sakoและคุณ kat มานั่งรอที่ศาลาหน้าบ้าน มองเข้าไปในบ้าน เห็นหัวของ sasi แว๊บๆ วุ่นกับการต้มปลาอยู่นั่น น้องปรางกะน้องโมก็โผล่มาก่อน น้องปรางยกถาดน้ำมาเสิร์ฟ แล้วsasi ตัวแม่ก็โผล่ออกมา พอเห็นหน้าแขกผู้มาเยือน ก็รู้จักทันที เพราะคุ้นหน้ากันใน facebook ดีอยู่แล้ว ใบหน้าเป็นโลโก้อย่างดี
เมื่อพบเจอตัวจริง ก็ใช้เวลาพูดคุยกันไม่นาน ก็คุ้นเคยกันทันที เนื่องจากมีอุดมการณ์ตรงกัน ต่อสู้ในเรื่องเดียวกัน จึงคุยเรื่องการเมือง การมุ้งและทุกเรื่องได้อย่างเป็นกันเอง พักใหญ่ คุณ koko ก็ขับรถเข้ามาถึง พร้อมกับเครื่องดื่มที่ติดมือมาสานสัมพันธไมตรี แต่พี่ kat ไม่ชอบดื่มขวดนี้ คุณ sasi เลยไปหยิบเครื่องดื่มของเธอจากในบ้าน ออกมาเปิดขวดทันที แล้วออกไปซื้อน้ำแข็ง โซดา บาบิคิวมาร่วมวงสังสรรค์ นายบอนเดินตามไปช่วยถือถุงน้ำแข็ง โซดาจากซอยเล็กๆหลังบ้านของเธอ ซึ่งมีร้านค้า บ้านพัก เยอะ เป็นอีกบรรยากาศหนึ่งที่ต่างจากซอยเข้าบ้านของเธอ
คุณ sasi บอกว่า มีนายทุนสนใจที่จะมาซื้อที่ดินตรงบ้านของเธอ เรียกราคา 7 หลัก เธอเลยเรียกราคาที่มากกว่าที่ฝ่ายนั้นเสมอมาสูงกว่า 2-3 เท่า ทำเอาฝ่ายนั้นถอยกลับไป ซึ่งคุณ sasi บอกว่า ยังไม่จะขาย ถ้าหากขายไปแล้วชาวบ้านในชุมชนแถวนั้น ต้องเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อย่างแน่นอน
กลับมานั่งคุยกันที่ศาลาริมน้ำหน้าบ้าน คุยกันไปจนระบบขับถ่ายออกอาการ ต้องขอเข้าห้องน้ำกันบ่อยๆ คุณ kat ใช้บริการบ่อยครั้งในห้องน้ำบ้านคุณ sasi พักใหญ่คุณ koko และนายบอน จะไปหามุมรดน้ำต้นไม้บ้าง คุณ koko เดินไปข้างบ้าน ไปทักทายคุณลุงคนหนึ่งที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ซึ่งคุณ sasi บอกทีหลังว่า นั่นคือ คุณพ่อของเธอ คุณ koko และนายบอนต้องรีบสวัสดี หลังจากไปเข้าห้องน้ำในบ้านคุณ sasi แล้ว นายบอนมาตั้งหลายครั้ง ก็พึ่งมีโอกาสได้เจอคุณพ่อของ sasi ในครั้งนี้เอง
นั่งสังสรรค์ที่ศาลาริมน้ำหน้าบ้าน sasi จน 6 โมงเย็น คุณ Hataraki Pad ที่นัดให้มาเจอกัน ก็ส่ง SMS มาบอกว่า "เลี้ยงหลาน อดไป" (16 ม.ค.2554 - 17.58 น.) คุณ sako จึงชวนกันไปนั่งสังสรรค์กันต่อที่ร้าน "คำหยาด" ที่พี่อุ๋ย - กลุ่มดินรักษ์ฟ้า เป็นผู้จัดการร้านนั้นอยู่ คุณ sasi เลยรีบเข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อออกไปสังสรรค์ยามราตรีด้วยกัน
ออกจากซอยจะไปร้านคำหยาด ซึ่งเป็นอีกสาขาหนึ่ง (สาขาที่ไปนี้ อยู่ห่างจากสาขาแรกที่อยู่ใกล้บ้าน sasi) คุณ sasi กะนายบอนนั่งรถไปกะคุณ koko ให้ ่คุณ sakoและคุณ kat ขับรถตามมา ซอยแคบ หาที่กลับรถยาก พอดีที่บ้านใกล้ๆกำลังจะเอารถเข้าบ้าน เลยเปิดประตูบอกให้คุณ koko กลับรถได้เลย ถนนจะได้ว่างแล้วเอารถเข้าบ้านได้ง่ายขึ้น sasi บอกว่า เจ้าของบ้านคนที่เห็น ปกติแล้วเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยยุ่งกับใคร เธอก็พึ่งเคยเห็นหน้านี่แหละ
ออกจากซอยมาถึงแยกบางแค ขับรถไปยังร้านคำหยาด sasi เล่าให้ฟังอีกว่า ที่แถวนั้นเธอเคยเจอผี สมัยอุ้มท้องน้องปราง เคยเจอจังๆเห็นเด็กใส่ชุดนักเรียน ก็เพราะแถวนั้นเคยเป็นป่าช้าเก่ามาก่อน ขับรถมาถึงร้านคำหยาด คุณ sasi บอกว่า แถวนี้ แต่ก่อนเคยเป็นทุ่งนา สักพักรถคุณ sako ก็ขับตามมาถึง แล้วก็มาหาที่นั่ง เจอพี่อุ๋ยกำลังดูแลเวที ตั้งเครื่องเสียงอยู่ แล้วพี่อุ๋ยก็ลงมาทักทายอย่างเป็นกันเอง ขึ้นไปเลือกเปิดเพลงบนเวทีให้แขกที่มากินอาหารขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีมั่ง พี่อุ๋ยร้องเองมั่ง แล้วชวนให้คุณ sako + koko ขึ้นไปร้องเพลง แล้วยุให้คุณ sassivimol โชว์เสียงบนเวทีสักหน่อย เพราะนายบอนการันตีว่า เสียงดีจริงๆ แต่ sasi ยังเขิน บอกไม่พร้อม เพราะเคยแต่แหกปากร้องในห้องคาราโอเกะ ไม่เคยร้องในที่โล่งแบบนี้ พร้อมกับเติมเครื่องดื่มอีกหลายแก้ว
พี่อุ๋ย ขึ้นไปเปิดเพลงให้แขกที่มาร้องบนเวที ก็เป็นแขกโต๊ะเดิม คุณ koko เลยไปร้องเพลงอีกหลายรอบ พี่อุ๋ยบอกว่า วันนี้พึ่งมีลูกค้าเข้าร้านในช่วงหัวค่ำ พร้อมถามว่า อาหารอร่อยมั้ย คุณ sasi เลยช่วยถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะของร้านคำหยาดให้ เพื่อช่วยโปรโมท
คุณ sasi มีจินตนาการบรรเจิด ชอบหามุมดีๆถ่ายรูปสวยๆ ถือกล้อง sony cybershot รุ่นแรกไว้ถ่ายรูปมาลงใน facebook เรื่อยๆ นายบอนเลยให้เธอลองใช้กล้อง cybershot รุ่นใหม่ ถ่ายรูปอาหาร sasi บอกว่า รุ่นนี้ดีเนาะ แบ่งเป็นเฟรม เวลาถ่ายรูป จับโฟกัสได้ง่าย
มาดูรูปถ่ายฝีมือ sasi ในแบบที่เธอชอบถ่ายมั่ง จากร้านคำหยาด ที่นายบอนสังเกตเห็นเธอไปยืนถ่ายจากมุมต่างๆ ซึ่งรูปเหล่านี้ อยู่ใน facebook ของ sasi แล้ว
เวลาผ่านไปถึง 3 ทุ่ม ท่ามกลางแรงเชียร์จากหลายคน อยากให้ sasi ขึ้นร้องเพลง แต่เจ้าตัวยังบอกว่า ไม่พร้อม ในที่สุดคุณ kat ก็บอกว่า "ถ้าพี่ขึ้นไปแล้ว น้องขึ้นตามนะ.." แล้วคุณ kat ก็ขึ้นเวทีร้องเพลงเป็นครั้งแรกในเพลง ปล่อยใจฝัน ของ ตุ๊ก วิยะดา ทำเอาคุณ sako ทึ่ง บอกว่า คุณ kat ไม่เคยร้องเพลงให้ฟังเลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงคุณ kat ร้องเพลง โดยตอนแรกคุณ kat ไปร้องคอรัสให้กับแขกที่กำลังร้องเพลงบนเวที ก่อนที่เธอจะยึดไมค์ร้องซะเอง
เมื่อคุณ kat ร้องบนเวทีแล้ว sasi ก็ถูกกดดันอีก "แกอยากถ่ายวิดีโอชั้นมากนักใช่มั้ย" แล้ว sasi ก็ตามขึ้นเวทีไปนั่งหน้าจอคอม คอยเลือกเพลง พิมพ์ชื่อเพลง แล้วก็นั่งร้องเพลงอยู่ตรงนั้น โดยเริ่มร้องเพลงร่วมกับคุณ kat ในเพลง ปล่อยใจฝัน ตามด้วย I will survive, zombie, คนดังลืมหลังควาย, ดาวเรืองดาวโรย(เพลงโปรดของ sasi) และตามด้วยเพลงสากลเพราะๆอีกหลายเพลง และนายบอนก็ตามถ่ายวิดีโอเก็บไว้ทุกเพลง รวม 22 เพลง ครบถ้วน!!
...แต่ละคนก็ชัดหวั่นไหวเหมือนกัน ถ้าหากต้องเอาวิดีโอเหล่านี้ทั้งหมดไปเผยแพร่ในอินเทอร์เนต คุณ sako บอกว่า ขอเซ็นเซอร์ก่อนได้ไหมก่อนเผยแพร่ ซึ่งนายบอนจะเก็บรวบรวมไว้ให้ใส่ CD ตามที่ sasi บอกจะดีกว่า เอาลงหมดคงไม่ไหว หลายวิดีโอเป็นเวอร์ชั่นส่วนตัวทั้งนั้น ทั้งหมด 22+3+6 = 31 ไฟล์ ทั้งวิดีโอช่วงที่ถ่ายที่บ้านศศิ, วิดีโอที่คุณ sako และ koko ขึ้นร้องเพลงบนเวทีช่วงที่ไมค์ยังไม่ได้ปรับเสียงให้ดีขึ้น และที่มีพี่แดงและกลุ่มคาวบอยมาร้องบนเวทีด้วย
...ถ้าไม่เอาลงอินเทอร์เนตเลย ก็คงไม่มีใครเชื่อ ซึ่งนายบอนเลือกเอามาเผยแพร่ 1 เพลงกับเพลง อยากได้ยินว่ารักกัน ที่มุมกล้องที่ถ่ายต่างจากเพลงอื่นๆ เมื่อเริ่มถ่ายจากเวทีด้านขวา แล้วปีนขึ้นเวที เคลื่อนกล้องวิดีโอเข้าไปใกล้ๆ ให้คุณ kat หันมาเล่นกับกล้องได้เต็มที่ ให้รู้จังหวะการเคลื่อนไหวของกล้องไปด้วย ซึ่งเป็นวิดีโอที่มองเห็นหลายมุม ได้เห็นลีลาการร้องเพลงอย่างใกล้ชิด ในมุมที่ใกล้มากๆ ส่วนเพลงอื่นๆ ใครที่อยากชมคงต้องติดต่อขอชมกับ 2 คู่ดูโอเป็นการส่วนตัว
เมื่อขึ้นเวทีไปร้องเพลง 2 สาวก็ยึดเวทีร้องกันยาวไปเลย คุณ sasi ก็พิมพ์เลือกเพลงแล้วก็ร้องกันไปเรื่อยๆ จนนายบอนต้องเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้บนเวที
ร้องเพลงจนเหนื่อย เลยลงมานั่งพักข้างล่าง ก่อนจะขึ้นไปยึดเวทีอีกครั้ง จน 6 ทุ่มครึ่ง ก็ขอปิดเวทีเพราะเกรงเสียงจะไปรวกวนบ้านเรือน ร้านค้าที่กำลังนอนหลับพักผ่อนในเวลานั้น แล้วมานั่งสังสรรค์คุยกันที่โต๊ะไปเรื่อยๆ จนตี 1 เศษๆ คุณ sasi ก็ขอตัวไปพักผ่อน เพราะตี 5 ต้องตื่นมาทำภารกิจหลายอย่างของคนในครอบครัว คุณ koko เลยขับรถไปส่งsasi ถึงในซอยเข้าบ้าน ให้คุณ sakoและคุณ kat ไปหาร้านข้าวต้มรอบดึกทานกัน เพราะคุณ koko บอกว่า อยากมีเวลาอยู่กับเพื่อนที่มาไกลให้นานขึ้นอีกหน่อย
เมื่อไปส่งคุณ sasi ถึงซอยเข้าบ้าน มองดูทั่วบริเวณไม่มีใครอยู่แถวนั้น ไม่มีวินมอเตอร์ไซต์อยู่ จนคุณ sasi เดินเกือบถึงสะพานข้ามคลอง คุณ koko จึงบีบแตรหลายครั้งเป็นสัญญาณก่อนกลับ sasi ยืนมองอยู่พอสมควร ก่อนเดินเข้าบ้าน คุณ koko ค่อยๆถอยรถออกมาเพราะหาที่กลับรถไม่ได้ ล้วขับออกมาไปแถวใกล้ๆสะพานพระราม 5 แวะ "ประสิทธิ์ข้าวต้ม" ริมทาง นั่งคุยกันรับลมหนาวจากตี 2 ถึงตี 3 ครึ่ง ตั้งแต่เรื่องส่วนตัว, ชีวิตครอบครัว, และการเมือง ก่อนเช็คบิลและเรียกแท็กซี่ให้นายบอนไปลงที่หมอชิต ขึ้นรถไปโคราชเที่ยวตี 4 ถึงตอน 7.10 น. รีบกินข้าวเช้าที่ บขส.ใหม่โคราช ล้วต่อรถอีก 2 ทอด ไปขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ถึงบ้านตอน 12.15 น.
อากาศยามเช้าที่โคราชตอน 7.00 น. หนาวกว่าตอนตี 3 ที่พระราม 5 เหลือเกิน แล้วก็หยิบกล้องวิดีโอมาเปิดดู 2 สาวร้องเพลงที่ร้านคำหยาด เมื่อคืนที่ผ่านมา
"ไม่ว่าจะไปร้องเพลงแบบนี้ที่ไหน เชื่อเลยว่า จะไม่มีใครถ่ายวิดีโอเก็บไว้ให้ทุกเพลงแบบนี้หรอก"
วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554
วันคืนแห่งมิตรภาพ รอยยิ้ม เสียงเพลง และร้านคำหยาดที่บางแค 16 ม.ค.2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น